กลับมาอีกครั้งกับ ซี่รี่ย์ Dragon Quest โดยในภาคนี้จะเป็น Dragon Quest II แล้ว (ภาคแรกดูได้ที่นี่ บทสรุป Dragon Quest I) โดยในภาคนี้ เราจะมีเพื่อนร่วมเดินทางไปกับเราด้วยอีก 2 คน เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่น (ข้อดีคือ เวลาที่มีใครตาย เราจะมีโอกาสในการฟื้นคืนชีพได้ แต่ภาคแรกคือ ตายแล้วจบเลย)
แผนที่โลก Dragon Quest II
เริ่มแรก เรามาดูแผนที่โลกกันก่อน (กดดูรูปใหญ่ได้นะครับ) ซึ่งเราจะเห็นว่า แผนที่ในภาคนี้ ใหญ่กว่าภาคแรกมาก (ถ้าสังเกตดีๆ จะมีแผนที่ในภาคแรกซ้อนอยู่ แต่เมืองต่างๆจะหายไป)
เริ่มเนื้อเรื่อง Dragon Quest II
ณ ปราสาทมูนบรูค 1 ใน 3 แห่งสายเลือดโรโตะ ได้เกิดเหตุร้ายขึ้น เนื่องจากการรุกรานของ นักบวชมาร ฮากอน ทำให้ปราสาทมูนบรูคต้องล่มสลายไป พระราชาสวรรคต และองค์หญิงหายตัวไป แต่มีทหารนายหนึ่งรอดจากภัยครั้งนี้ และได้รีบเดินทางหนีตายไปแจ้งข่าวให้แก่ พระราชาแห่งปราสาทโรเลเซีย 1 ใน 3 สายเลือดโรโตะ เช่นกัน
เริ่มเกมส์มา เราจะเป็นเจ้าชายแห่งโรเลเซีย (Midenhall Castle) ซึ่งจะได้รับมอบหมายหน้าที่ ให้ไปปราบ ฮากอน หลังจากสนทนากับพระราชาจบ ให้สำรวจหีบ เราจะได้ ดาบทองแดง (Copper Sword) และเงินอีก 50G จากนั้น ออกจากปราสาท
ไปทางซ้าย แล้วเราจะพบหมู่บ้าน ริริซ่า (Leftwyne) ให้เข้าไปหาข้อมูล และเก็บของให้เรียบร้อย แล้วออกจากหมู่บ้านทันที
ออกจากหมู่บ้านแล้ว เดินขึ้นมาด้านบน จะพบกับ ปราสาท ซามัลโตเรีย (Cannock Castle) เดินเข้าไปหาข้อมูล และคุยกับพระราชา เพื่อถามหาลูกชายของเขา (ซึ่งก็จะมาเป็นพวกเราในอนาคต) แต่ตอนนี้เจ้าชายจะไม่อยู่ที่นี่
** เราสามารถเซพเกมได้ที่พระราชาเมืองนี้ได้ด้วย **
จากนั้นเดินทางไปยังน้ำพุร้อน ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออก จากปราสาทซามัลโตเรีย เข้าไปจะพบกับชายแก่ จะบอกว่า เจ้าชายแห่งซามัลโตเรีย กลับไปแล้ว ให้เรากลับมาที่ปราสาทโรเลเซียอีกครั้ง คุยกับพระราชา แล้วพระราชาจะบอกว่า กลับมาถึงที่นี่แล้ว แต่ตอนนี้ออกไปเที่ยวที่เมือง ริริซ่า ไม่รอช้า ให้เราตรงกลับไปหมู่บ้าน ริริซ่า จะพบกับเจ้าชายแห่งซามัลโตเรีย อยู่ในร้าน INN ให้เข้าไปคุย จะได้เป็นพวก (ได้สักที ปล่อยให้เราเดินไป เดินมาอยู่ได้)
จากนั้นเดินทางไปทางตะวันตกของปราสาท ซามัลโตเรีย จะพบถ้ำทะเลสาป (Lake Cave) ที่มีสะพาน 2 อัน ข้ามน้ำ แล้วมีถ้ำอยู่ตรงกลาง (ดูแผนที่โลกด้านบนประกอบ) ให้เราเข้าไปเก็บของให้หมด แล้วที่ด้านในสุด เราจะเจอกุญแจเงิน (Silver Key)
จากนั้นออกจากถ้ำ แล้วเดินกลับมาด้านขวาเล็กน้อย เดินทางมาที่สุสาน (ทางตะวันตกของหมู่บ้าน ริริซ่า) จะพบถ้ำ (ประตู โลล่า) ข้ามไปยังอีกทวีปนึง ลงไปด้านในแล้ว ให้เราเดินขึ้นบันไดทางด้านขวามือ
เดินมาทางทิศใต้เรื่อย ๆ จะพบหมู่บ้าน มูนเปต้า (Hamlin) ให้เราคุยกับทุกคนที่อยู่ในหมู่บ้านนี้ และถ้าเราไปคุยกับหมาที่อยู่ในหมู่บ้าน มันจะเดินตามเรา ไปทั่วเมือง (แต่จะไม่ตามเราออกนอกเมือง)
** หมาที่เดินตามเราในเมืองนี้ ก็คือเจ้าหญิง แห่งมูนบรูค ที่จะมาเป็นพรรคพวกเราอีกคน แต่ในเหตุการณ์ที่ ปราสาทมูนบรูคถูกโจมตี เจ้าหญิงได้ถูกสาบ ให้กลายเป็นหมานั่นเอง **
จากนั้นไปทางตะวันตกจะพบ ปราสาทมูนบรูค ที่ถูกทำลายไปแล้ว เข้าไปข้างในจะพบ วิญญาณทหารมากมาย เข้าไปรวบรวมข่าวสาร จะรู้ว่า ทางตะวันออกจะมีบ่อพิษซึ่ง มี “กระจกแห่งรา” อยู่ (Ra’s Mirror) ให้เดินทางไปเอามาซะ จากนั้นกลับหมู่บ้าน มูนเปต้า กดใช้กับสุนัขที่คอยตามเรา จะกลายเป็นองค์หญิงแห่งมูนบรูค และได้จะเป็นพวกคนสุดท้าย..
** ตรงนี้จะยากนิดนึง สำหรับคนที่เล่นเวอร์ชั่นใหม่ๆ เราจะต้องกดปุ่มเมนู (ปกติกด A มันจะเป็นการคุยกับหมา) เราจะต้องกดเมนู เข้าไปที่ไอเท็ม แล้วเลือกใช้กระจกตรงหน้าหมา ถึงจะสามารถเปลี่ยนจากหมาเป็นองค์หญิงได้ **
เป้าหมายต่อไปคือ หอคอยลม (Tower of the Wind) แต่การที่จะไปที่นั่นได้ เราจะต้องเดินอ้อมโลกกันสักหน่อย โดยตั้งหลักที่ หมู่บ้าน มูนเปต้า เดินไปทางขวา จะเจอสะพาน แต่ไม่ต้องข้าม ให้เราเดินขึ้นไปด้านบน จนเจอสะพานอีกอัน ถึงจะข้ามไป แล้วเดินลงมาด้านล่าง (ตรงนี้ทางจะบังคับไปอยู่แล้ว) จนเจอสะพานอันแรก ข้ามไปอีกฝั่ง แล้วเดินลงมาต่อ จนเราข้ามสะพานอีก 3 อัน แล้วเราจะเจอกับพื้นที่ทะเลทราย เดินไปทางซ้ายอีกนิดเราก็จะเจอกับ หอคอยลม เข้าไปด้านในเพื่อเอา ผ้าคลุมสายลม (Cloak of Wind) เมื่อได้มาแล้วให้ใครใส่ติดตัวไว้ก็ได้
กลับมาตั้งหลักที่ปราสาท มูนบรูค เดินข้ามสะพานไปด้านซ้ายจะเจอกับสุสาน (Moonbrooke Western Shrine) เข้าไปด้านใน แล้วเดินขึ้นมาอีกฝั่ง จากนั้นเดินไปทางซ้ายจนสุดแผนที่ แล้วเดินขึ้นด้านบน เราจะเจอกับ หอคอยดราก้อนฮอร์น ซึ่งจะเป็นเป้าหมายของเราต่อไป
หอคอย ดราก้อนฮอร์น (ฝั่งใต้)
ที่หอคอย ดราก้อนฮอร์น นี้ เราจะเห็นว่ามันมี 2 ฝั่ง คือฝั่งเหนือ (Dragon’s Horn North) และฝั่งใต้ (Dragon’s Horn South) โดยให้เราเดินเข้าไปที่หอคอยฝั่งใต้ ขึ้นไปบนสุด แล้วกระโดดลงมา เราจะข้ามมายังอีกฝั่งนึงได้
เดินขึ้นด้านบนเล็กน้อยแล้วเลี้ยวขวาจะพบหมู่บ้าน ลูฟกาน่า (Lianport) ที่ด้านในของหมู่บ้าน จะพบเด็กผู้หญิง โดนเกรมลิน 2 ตัว ทำร้ายอยู่ ให้เข้าไปช่วยซะ จากนั้นตามเด็กผู้หญิงไป จะพบหัวหน้าหมู่บ้านซึ่งจะมอบเรือให้เราเป็นการขอบคุณ.
หลังจากได้เรือมาใช้แล้ว จากหมู่บ้าน ลูฟกาน่า นั่งเรือไปทางด้านขวา จะพบกับ อาณาจักร อาเลฟการ์ด แห่งโลก DQ 1 (ซึ่งก็คือแผนที่ในภาค 1 นั่นแหละ) จะพบกับ ปราสาทและเมือง ลาดาทอม เข้าไปเก็บของและหาข้อมูลต่างๆ
ออกจากปราสาท ลาดาทอม แล้วไปต่อกันที่ปราสาทราชามังกร ที่ด้านใน เราจะได้เจอกับราชามังกร เมื่อคุยแล้ว เราจะได้ ดาบโรโตะ มาใช้งาน
จุดหมายต่อไป หากุญแจทอง กุญแจคุก และกุญแจประตูน้ำ โดยให้เรากลับไปตั้งหลักที่ปราสาท โรเลเซีย (ปราสาทแรกตอนเริ่มเกม) แล้วล่องเรือลงมาด้านล่าง เราจะเจอเกาะขนาดใหญ่ ที่จะมีทางเข้าเกาะทางเดียว คือ จะเป็นแม่น้ำเข้าไปด้านใน ถึงจะมีที่จอดเรือได้ (เกาะถูกล้อมด้วยภูเขา จนเราไม่สามารถจอดเรือได้)
หลังจากที่เราจอดเรือได้แล้ว เดินขึ้นมาเล็กน้อยก็จะเจอกับ ปราสาท เดลกอนดัล (Osterfair Castle) เข้าไปคุยกับพระราชา แล้วเราจะได้ประลองกับเสือ เมื่อชนะแล้ว เราจะได้สัญลักษณ์แห่งพระจันทร์ มา (ดูได้ที่หน้าเมนู Status จะมีรูปพระจันทร์)
ออกจากเกาะนี้ แล้วล่องเรือมาด้านล่าง เลี้ยวซ้ายเล็กน้อย เราจะเจอกับเกาะเล็กๆ ที่เป็นทะเลทราย แล้วมีต้นไม้ขึ้นอยู่บนกลางเกาะ ซึ่งที่นี่จะเรียกว่า Leaf of the World Tree (ดูแผนที่โลกด้านบนประกอบ) เมื่อเราเข้าไปสำรวจแล้ว เราจะได้ ใบไม้ชุบชีวิต (สามารถชุบชีวิตได้) โดยเราจะกลับมาเอากี่ครั้งก็ได้ แต่เราจะได้แค่ครั้งละ 1 ใบเท่านั้น
จากนั้นไปล่องเรือไปทางตะวันออกเรื่อย ๆ จะพบเกาะที่ตั้งของ หมู่บ้านซาบัน ในหมู่บ้านจะพบสุนัขเมื่อเราคุยกับมันแล้ว มันจะพาไปจุดที่มันฝังกุญแจอยู่ ให้สำรวจ จะได้กุญแจทองมา (Gold Key)
จากนั้นล่องเรือกลับมาทางตะวันตก ผ่านเกาะใบไม้ชุบชีวิตมา จะพบหมู่บ้าน เพลบอย (Wellgarth) เดินเข้าไปในหมู่บ้าน แล้วตรงไปที่ร้านขายของ ซื้อของในร้านไอเทม จะพบว่า มีรายการว่างอยู่ 1 ช่อง (ราคา 2000G) ให้เลือกซื้อรายการนั้น แล้วเราจะได้ กุญแจคุก (Jailor’s Key)
เมื่อได้กุญแจคุกมาแล้ว ให้ไปที่บ้านขวาบน ที่ห้องทางขวา จะมีทางลับไปเจอกับ ลาโกส เขาจะมอบกุญแจประตูน้ำ (Floodgate Key) ให้เรา ซึ่งจะเท่ากับว่าตอนนี้เราจะมีกุญแจครบทุกดอกในเกมส์แล้ว..
รวบรวมอาวุธในตำนาน (โรโตะ)
จุดหมายต่อไป รวบรวมอาวุธ โรโตะ โดยตรงไปที่ปราสาท ซามัลโตเรีย (ปราสาทที่เราไปหาเพื่อนคนแรก) จะมี โล่ห์โรโตะ อยู่ในห้อง (ต้องใช้กุญแจไขเข้าไป)
ณ ปราสาทโรเลเซีย (ปราสาทตอนเริ่มเกม) เดินเข้าไปในปราสาท ที่ห้องฝั่งขวา จะมีเครื่องรางโรโตะ อยู่ในหีบ เมื่อเก็บมาได้แล้วให้เอาไปแลก หมวกโรโตะ ที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ (Holy Shrine) ทางใต้ ของอาณาจักร อาเลฟการ์ด (อาณาจักรของภาคแรก)
เก็บรวบรวมสัญลักษณ์ทั้ง 5 ให้ครบ
ต่อไปจะเป็นการออกสำรวจโลกเพื่อเก็บสัญลักษณืที่เหลือให้ครบ โดยในตอนนี้เราจะได้สัญลักษณ์พระจันทร์มาแค่อันเดียว ซึ่งจะขาดอยู่อีก 4 อัน
ที่หมู่บ้าน มูนเปต้า (Hamlin) จะมีบ้านที่เราจะต้องใช้กุญแจไขเข้าไป ที่ด้านในจะมีทางลงไปคุกใต้ดิน ให้เรากำจัดปีศาจที่อยู่ในคุกใต้ดิน แล้วสำรวจตรงมุมขวา จะได้ สัญลักษณ์แห่งน้ำ
ไปที่ประภาคาร (Great Lighthouse) ทางใต้ของวิหารศักดิ์สิทธิ์ (Holy Shrine) หรืออยู่ทางใต้ของทวีปภาคแรก เข้าไปด้านในแล้ว ขึ้นไปชั้นบน (ขึ้นบันไดตามนี้ A>D>J>O>Q>W>b) เราจะได้เจอกับศัตรู เดินตามเข้าไปด้านใน จะเจอกับผู้เฒ่า จากนั้นเดินตามผู้ฒ่าลงมาด้านล่าง (จะเป็นห้องที่มีกล่องสมบัติว่างเปล่า) แล้วเราจะต้องสู้กับศัตรู เมื่อกำจัดศัตรูได้ เราก็จะได้ สัญลักษณ์แห่ง ดวงดาว
ด้านขวาของเกาะใบไม้ชุบชีวิต จะพบสุสานแห่งไฟ (Shrine of Fire) ที่มีทางวาร์ปอยู่ ให้เราเดินออกมาทางขวาบน แต่ยังไม่ออกจากสุสาน (ตามรูปด้านบน) กดสำรวจ จะได้สัญลักษณ์แห่ง พระอาทิตย์มา
** เราสามารถมาที่ได้จากหลายทาง โดยใช้จุดวาร์ปในที่ต่างๆ เพื่อเข้ามาที่นี่ (ดูจุดวาร์ปจากรูปด้านบน เช่น จาก วิหารศักดิ์สิทธิ์ ในทวีปภาคแรกก็สามารถวาร์ปมาได้)**
ต่อไปจะเป็นวิธีการไปเอาสัญลักษณ์อันสุดท้าย (สัญลักษณ์แห่งหัวใจ) ซึ่งจะมีวิธีการที่ยุ่งยากมาก เพราะมีหลายขั้นตอน และต้องไปหาของอีกหลายอย่าง เพื่อจะได้สัญลักษณ์นี้มา
หอคอย ดราก้อนฮอร์น (ฝั่งเหนือ)
เริ่มจาก ไปหอคอยดราก้อนฮอร์นฝั่งเหนือ (ดูแผนที่ด้านบนประกอบ) โดยเราอาจจะไปตั้งหลักที่หมู่บ้านลูฟกาน่า (Lianport) แล้วเดินลงมาเล็กน้อย ก็จะเจอกับ หอคอยดราก้อนฮอร์นแล้ว จากนั้นขึ้นไปชั้น 3 จากบันไดให้เดินไปทางซ้าย 2 ก้าว ขึ้น 1 ก้าว กดสำรวจ จะพบ ด้ายหยาดฝน (Dew Yarn)
จากนั้นกลับไปยังหมู่บ้าน ซาบัน (Zahan) ที่ห้องในสุดฝั่งซ้าย ใช้กุญแจคุกเพื่อเปิดเอา ในหีบจะมีเครื่องทอผ้า ** ตรงนี้เราสามารถใช้คาถาที่สามารถเหยียบพื้นสีฟ้าโดยไม่เสียพลังได้ (คาถาของเจ้าชายตัวสีเขียว)** ไอเท็มที่จำเป็นอีกชิ้นในการทอผ้าคลุม
ออกจากหมู่บ้าน ซาบัน ไปทางขวามือ เราจะเจอหมู่บ้านเบรานูล (ซึ่งถ้าเราดูในแผนที่โลกจะพบว่าหมู่บ้านนี้จะอยู่ฝั่งซ้ายสุดของแผนที่เลย) แต่ยังไม่ต้องเข้าไปในหมู่บ้าน ให้เราล่องเรือขึ้นไปด้านบน ผ่านสุสาน แล้วเลี้ยวขวา เราจะเจอแม่น้ำเล็กๆ ที่เรือสามารถเข้าไปได้ ล่องเรือมาตามแม่น้ำ ขึ้นมาด้านบนจนสุดทาง
จากนั้นเดินเท้าต่อ ไปทางซ้ายเราจะเจอบ่อพิษ แล้วเดินขึ้น อ้อมมาทางขวา เราก็จะได้เจอกับหมู่บ้านเทป้า (Tuhn) เดินเข้าไปที่บ้านที่อยู่ตรงกลาง (ต้องใช้กุญแจไขเข้าไป) จะพบนักทอผ้า ดอนโมฮาเมะ ให้คุยกับเค้าเพื่อมอบของให้ จากนั้นเราจะต้องรอเวลาเพื่อให้เค้าทอผ้าคลุมให้เรา โดยให้เราเซฟเกมส์แล้วกดใหม่ หรืออาจจะไปนอนโรงแรมสักคืนก่อน แล้วกลับมาคุยกับคนทอผ้า เราก็จะได้ผ้าคลุม
หลังจากได้ผ้าคลุมแล้ว ให้เราเดินขึ้นไปด้านบนของหมู่บ้าน (ดูรูปด้านบนประกอบ) เราจะสามารถเข้าไปยังประตูเขื่อนได้ เมื่อเราใช้กุญแจประตูน้ำเปิด น้ำจะไหลท่วมพื้นดิน ทำให้ล่องเรือต่อได้
ล่องเรือไปตามทางใหม่ลงมาด้านล่างเล็กน้อย จะพบหอคอยเดือนเพ็ญ (Full Moon Tower) ในนี้มี ครีบฉลาม (Moon Fragment) อยู่ที่ชั้น 1 ห้องขวาบน แต่เราจะต้องเดินอ้อมขึ้นไปชั้นบน แล้วค่อยลงบันไดมาที่ชั้นล่าง ถึงจะสามารถมาที่ห้องนี้ได้
เป้าหมายต่อไป คือ Undersea Cave (ดูในแผนที่โลกด้านบนประกอบ) ซึ่งสถานที่นี้ ตอนแรกจะเป็นสันดอน อยู่กลางทะเล ด้านซ้ายของ ปราสาทเดลกอนดัล (Osterfair Castle) โดยให้เรามาตั้งหลักที่ ปราสาทโรเลเซีย (Midenhall Castle) แล้วล่องเรือมาทางทิศใต้เรื่อย ๆ จะพบ สันดอนกลางทะเล ให้กดใช้ครีบฉลาม ที่เราพึ่งได้มา จะเปิดทางเข้าไปในถ้ำได้ ที่ด้านในนี้จะมีหีบสมบัติมากมาย ให้เราระวังให้ดี บางหีบจะเป็นกับดัก (ดูจากแผนที่ด้านบน) และด้านในสุดเราจะได้พบกับเทวรูปปีศาจ แต่เราจะต้องจัดการกับศัตรูเสียก่อนถึงจะสามารถเอาเทวรูปมาได้
** ขั้นตอนต่อไป คือการเข้าไปเอาสัญลักษณ์หัวใจ ในถ้ำ Cave To Rhone แต่ถ้าตรงนี้เราเล่นเป็นเวอร์ชั่นใหม่ ให้เรากลับไปที่ ปราสาทลาดาทอม (Tantegel Castle) เข้าไปที่ร้านขายอาวุธ แล้วขึ้นไปบนชั้น 2 เราจะเจอพระราชา เมื่อคุยแล้วเราก็จะได้ สัญลักษณ์แห่งหัวใจ จากนั้นก็ข้ามไปที่ วิหารกลางทะเล (Shrine of Spirits) เพื่อเอาสัญลักษณ์ไปทำการปลุกเครื่องรางรูบีสมา (สามารถดูรายละเอียดที่แผนที่สีน้ำเงิน-ฟ้าด้านล่าง) **
จากนั้นกลับมายังหมู่บ้าน เบรานูล (ทางซ้ายสุดของแผนที่) เข้าทางวาร์ปในหมู่บ้าน
เราจะวาร์ปมาโผล่ที่ สุสานทางใต้ ออกจากสุสานแล้วเดินไปทางซ้ายเล็กน้อย (หากเป็นเวอร์ชั่นใหม่ ตรงนี้จะมีลูกไฟขวางอยู่ โดยเราจะต้องมีเครื่องรางรูบีสเสียก่อนถึงจะสามารถผ่านไปได้) เราจะเจอบ่อพิษอยู่หน้าถ้ำ ให้เรากดใช้เทวรูปปีศาจ แล้วเข้าไปในถ้ำ
ให้เราเข้าไปสำรวจในถ้ำซึ่งจะมีของมากมาย จะมีชุดเกราะโรโตะ และ ดาบสายฟ้า รวมถึงของสำคัญที่เราต้องการก็คือ สัญลักษณ์แห่งหัวใจ ด้วย
** หากเป็นเวอร์ชั่นใหม่ เมื่อเราเข้ามาในนี้แล้ว เก็บของให้หมด แล้วออกไปอีกทาง เพื่อไปยังดินแดนแห่งบอสตัวสุดท้ายได้เลย **
**เส้นทางการสำรวจดันเจี้ยน (ดูแผนที่ด้านบนประกอบ) Start >A(เก็บของ)>F>I>L[หากอยากเก็บของให้ขึ้นบันได J,K,M]>R (หากจะเก็บดาบให้ลงบันได Q แล้วกระโดดลงหลุมดำ) >S แล้วขึ้นบันไดออกไปอีกทาง **
กลับมาตั้งหลักที่ปราสาทโรเลเซีย (Midenhall Castle) อีกครั้ง คราวนี้เป้าหมายของเราคือ วิหารกลางทะเล (Shrine of Spirits) ซึ่งจะอยู่กลางทะเลระหว่าง ปราสาทโรเลเซีย และ ปราสาทเดลกอนดัล โดยจากปราสาทโรเลเซีย ให้เราล่องเรือมาด้านล่าง ก็จะได้เจอกับวิหารกลางทะเลแล้ว
เข้าไปในวิหาร แล้วลงไปที่ชั้นล่างสุด จากนั้นไปยืนตรงกลางสัญลักษณ์ไม้กางเขน จะเป็นการรวมสัญลักษณ์ทั้ง 5 ที่เราเก็บมาได้ กลายเป็น เครื่องรางรูบีส
เตรียมตัวสู่ปราสาทฮากอน
กลับไปที่ถ้ำที่มีบ่อพิษอยู่หน้าถ้ำ (ถ้ำที่เราเข้ามาเอา สัญลักษณ์แห่งหัวใจ) ซึ่งจะมีทางออกไปสู่ ดินแดนลอนดาลเกีย (อีกฝั่งของถ้ำ) โดยเราสามารถดูแผนที่ของถ้ำได้ที่ด้านบน (ชื่อแผนที่ Cave To Rhone) หลังจากที่เราออกมาอีกฝั่งแล้ว ให้เดินไปด้านขวาบน เราจะเจอวิหารที่เอาไว้เติมพลังและเซพเกม ** แนะนำให้เราฟาร์มเลเวลให้เก่งก่อน แล้วค่อยบุกเข้าไปในปราสาทของฮากอน **
หลังจากที่เตรียมตัวพร้อมแล้ว ก็บุกปราสาทฮากอนกันได้เลย แต่เมื่อเข้ามาในปราสาทแล้ว จะพบว่าด้านในเหมือนปราสาทโรเลเซียมาก ให้กดใช้เครื่องรางรูบีส ก็จะทำให้เราเห็นปราสาทที่แท้จริงของฮากอน สำรวจด้านหลังเก้าอี้ (กำแพงหลังเก้าอี้ ค่อนไปทางซ้ายเล็กน้อย) เราจะเจอทางลับเข้าไปด้านใน และตรงกลางของ กางเขน ให้กดใช้ เครื่องราง อีกที (บางเวอร์ชั่นให้เรากดใช้เทวรูปปีศาจ) จะพบทางลงไปด้านล่าง ในสุดจะพบกับฮากอน เมื่อกำจัดได้ จอมมาร ชิโด้ จะโผล่ออกมา ให้พยายามกำจัดให้ได้ เดินทางกลับสู่ ปราสาทโรเลเซีย ก็เป็นอันจบตำนานแห่งโรโตะ..
