เกม Railway Empire เป็นเกมแนวสร้างและจัดการเกี่ยวกับระบบรางรถไฟ ซึ่งจะคล้ายๆกับเกม Sid Meier’s Railroad ในอดีต โดยหลักๆพื้นฐานจะคล้ายๆกัน แต่ก็จะมีการเพิ่มระบบต่างๆ หรือกราฟฟิคที่ถูกพัฒนาขึ้น
ยุคสมัยภายในเกมนี้ ก็จะเริ่มในอเมริกา ช่วงปี 1830 ไปจนถึงประมาณ 1930 ซึ่งจะเป็นช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม เป้าหมายหลักของเกมนี้ก็คือการสร้างรางรถไฟ เพื่อขนส่งผู้โดยสาร วัตถุดิบและสินค้าต่างๆ เพื่อไปส่งยังสถานีเป้าหมายที่ห่างไกลออกไป แน่นอนว่า การที่แต่ละเมืองมีการขนส่งทางรถไฟ ก็จะนำความเจริญมาให้เมืองนั้นๆอีกด้วย
รายละเอียดในวิธีเล่นเกม จะมีตั้งแต่เรื่องพื้นฐาน วิธีการวางราง และการเชื่อมต่อเมืองต่างๆเข้าด้วยกัน รวมไปถึงการใช้ สัญลักษณ์เพื่อกำหนดเงื่อนไขของรางรถไฟ ซึ่งจะเป็นการสร้างรางแบบขั้นสูงหน่อย และรายละเอียดอื่นๆอีกมากมาย
วิธีการเริ่มเล่น Railway Empire
บทสรุปชุดนี้จะบอกเกี่ยวกับเทคนิคต่างๆ ที่จะช่วยคุณตั้งแต่เริ่มเกม ไม่ว่าจะเป็นการวิจัย การใช้บุคลากร และการจ่ายเงินอย่างคุ้มค่าที่สุด ซึ่งจะมีรายละเอียด ดังนี้
- เทคนิคสำหรับการเริ่มต้น
- การพัฒนาเมืองและโรงงาน
- ตู้โดยสารและตู้ขนสินค้า (การวางแผนและจัดการเพื่อให้ได้กำไรสูงสุด)
การวางรางและการเชื่อมต่อ (Laying down tracks and establishing lines)
ในหัวข้อย่อยนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเรียนรู้วิธีการสร้างรางรถไฟ การเชื่อมต่อแบบต่างๆ ซึ่งจริงๆแล้วการสร้างรางรถไฟในเกมนี้ มันไม่ยากอะไรเลย แต่เมื่อคุณมีรถไฟมากขึ้น ก็อาจจะนำปัญหาในขนส่งมาได้ ยิ่งในกรณีที่เราเล่นแบบ ที่รถไฟไม่สามารถสวนกันในรางเดียวกันได้ ยิ่งจำเป็นจะต้องมีการออกแบบ ทางเดินรถไฟ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดด้วย
- การสร้างและวางแผนเส้นทางเดินรถไฟ
อุปกรณ์สัญญาณและโกดัง (Signaling equipment and storage – the advanced art of track laying)
หัวข้อนี้จะเป็นเรื่องต่อเนื่องจากการวางแผนการสร้างรางรถไฟ แต่เราจะมาใช้พวกสัญลักษณ์หรือตัวกำหนดเงื่อนไขต่างๆให้กับรางของเรา ซึ่งก็จะเป็นการวางแผนในระดับที่สูงขึ้น
- การใช้ป้ายและสัญลักษณ์ให้กับรางรถไฟ
- วิธีใช้ประโยชน์จากโกดัง (เพื่อการขนส่งวัตถุดิบต่างๆ)
วิธีเล่น และรายละเอียดในโหมด Campaign
- Chapter 1 – Great Plains
- Chapter 2 – The early days
- Chapter 3 – Over the Mississippi
- Chapter 4 – Civil War
- Chapter 5 – Sierra Nevada
เทคนิคสำหรับผู้เริ่มเล่น
หากเราเริ่มเล่นเกมครั้งแรก (โดยไม่ได้เล่นโหมดเนื้อเรื่อง) อย่างแรกที่เราจะลองทำคือ การเชื่อมรางรถไฟระหว่างเมือง 2 เมืองก่อน โดยในขั้นแรกให้เราลองฝึกเกี่ยวกับการขนส่งผู้โดยสารและจดหมายก่อน ซึ่งเราจะสามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับผู้โดยสารได้ว่าต้องการที่จะไปเมืองไหน ได้จากรายละเอียดเมืองที่อยู่ในหน้าต่างด้านขวา
จากนั้นให้ลองดูว่าเมืองนั้นมีโรงงานเกี่ยวกับอะไร และดูว่าวัตถุดิบที่โรงงานนั้นต้องการคืออะไร แล้วค่อยหาวัตถุดิบมาส่งให้กับโรงงานต่อไป การขนส่งผู้โดยสารและจดหมาย หากเราใช้ส่งที่รวดเร็วขึ้นจะทำให้เราได้รายได้เพิ่มขึ้น แต่หากเป็นวัตถุดิบต่างๆ จะไม่ขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการส่ง (ถึงส่งเร็วขึ้น ก็ไม่ได้เงินเพิ่มขึ้น)
การสร้างสถานีที่ใหญ่ขึ้นมีประโยชน์มาก เพราะมันจะสามารถครอบคลุมพื้นที่ได้มากขึ้น ซึ่งในบางครั้ง มันอาจจะครอบคลุมโรงงาน หรือแหล่งที่เป็นวัตถุดิบมากกว่า 1 แห่ง ทำให้เราจะได้ประโยชน์จากวัตถุดิบเพิ่มมากขึ้น (ไม่ต้องสร้างสถานีถึง 2 อัน) ทำให้ช่วยได้มากในตอนเริ่มเกม และเราก็ไม่ต้องกังวลว่าประชากรใรเมืองจะลดลงจากการสร้างสถานี เพราะบางครั้งเวลาเราวางสถานีแล้วเห็นว่าผังเมืองจะเปลี่ยนไป ไม่ต้องตกใจ รอสักพัก เมืองก็จะถูกสร้างขึ้นมาใหม่
ในบางครั้งการที่เราลากรางรถไฟทีเดียวยาวๆ อาจทำให้เสียเงินแพงกว่าเดิม ดังนั้นเราถึงควรสร้างเป็นช่วงๆ เพื่อลดต้นทุน และควรหลีกเลี่ยงการสร้างสะพานหรืออุโมงค์ เพราะมันแพงมาก โดยถ้าเป็นไปได้ควรสร้างรางบนพื้นราบให้ได้มากที่สุด จะช่วยทำให้ประหยัดเงินขึ้น
จากรูปด้านบน จะแสดงถึงค่าใช้จ่ายเปรียบเทียบระหว่างความยาวของสะพาน โดยด้านบนจะเป็นการลากรางทีเดียวยาวๆ ส่วนด้านล่าง เราจะลากรางมาวางใกล้ๆกับแม่น้ำก่อน (ทั้ง 2 ฝั่ง) แล้วค่อยลากข้ามแม่น้ำ ซึ่งระบบก็จะสร้างสะพานให้เราเองโดยอัตโนมัติ แต่สะพานที่ได้จะสั้นกว่าด้านบน และค่าใช้จ่ายก็จะถูกกว่าเดิมมาก
การขนส่งวัตถุดิบและสินค้าต่างๆ จะทำให้เมืองมีขนาดใหญ่ขึ้น เพราะฉะนั้น เราควรที่จะพัฒนาเมืองไปทีละเมือง โดยการสร้างรางและขนส่งวัตถุดิบต่างๆ มารวมกันไว้ที่เมืองเดียว ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อเมืองใหญ่ขึ้น ก็จะยิ่งมีผู้โดยสารมากขึ้นไปด้วย
เราสามารถส่งสินค้าที่ผลิตแล้วไปยังเมืองที่เราไม่ได้ครอบคลุมโรงงาน แต่อาจจะขายหรือได้เงินน้อยกว่า หมายความว่า การวางสถานีให้ครอบคลุมกับโรงงาน มีความจำเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะเพิ่มความต้องการของวัตถุดิบแล้ว ยังสร้างรายได้ให้เรามากขึ้นด้วย