This War of Mine : สถานะต่างของตัวละคร

ภายในเกมจะมีสถานะต่างๆของตัวละครมากมาย ทุกสิ่งที่เราได้ทำลงไปอาจมีผลถึงขั้นทำให้ตัวละครตัวนั้นฆ่าตัวตายได้เลย เช่น ปล้นฆ่าชาวเมืองทั่วๆไป ที่ไม่ได้คิดจะทำร้ายเรา เป็นต้น หรือแม้กระทั่งรู้สึกสงสารที่เพื่อนเราบาดเจ็บหรือเห็นเลือดแล้วจะเป็นลม บางตัวละครถึงกับยอมรับไม่ได้ที่คนในกลุ่มฆ่าคน (แม้กระทั่งฆ่าโจร หรือทหาร โลกสวยมว๊ากกกกกก)

โดยสถานะต่างๆ จะมีดังนี้

1. ความหิว
เริ่มจาก (Well fed) > normal(ไม่มีคำบรรยาย) > hungry > very hungry > straving
– ขั้นของ hungry และ very hungry จะกินเวลาขั้นละ 2 วัน
– ขณะที่ well fed และ normal จะกินเวลาขั้นละ 1 วัน
– เมื่อคุณกินอาหาร หรือผักที่ไม่ได้ปรุง ระดับความหิวจะขึ้นมา”ครึ่งขั้น” เช่น hungry กลายเป็น still hungry ถ้ากินอีกชิ้น จึงจะกลายเป็น normal
– สำหรับอาหารปรุงสุกและอาหารกระป๋อง จะเพิ่มระดับความหิวขึ้นมา1ขั้น เช่น very hungry กลายเป็น hungry
– การเลี้ยงให้อยู่ในระดับ normal ขึ้นไป จะใช้อาหารปรุงสุก 1 ถ้วย/วัน คิดเป็นเนื้อ1ชิ้นต่อ/คน/วัน หรือเนื้อ0.5+ผัก0.5/คน/วัน
– ขณะที่การเลี้ยงให้อยู่ในระดับ hungry ลงไป จะใช้อาหารปรุงสุก 1ถ้วย/2วัน คิดเป็นเนื้อ0.5ชิ้น/คน/วัน หรือเนื้อ0.25+ผัก0.25/คน/วัน
– ดังนั้นเพื่อเป็นการจำกัดปริมาณอาหาร ควรให้อาหารปรุงสุก1ถ้วย/คน/2วัน อาจเลี้ยงไว้ที่ระดับ hungry หรือ very hungry
– การจะขึ้นไปยังระดับ well fed ได้นั้นต้องกินอาหารในตอนไม่หิว
– ในสถานะ well fed จะเพิ่มโอกาสในการหายต่อโรคต่างๆ บาดแผลเชื่อมเร็ว และหายเศร้าเร็ว

2. ขวัญกำลังใจ หรือ ความสุข
เริ่มจาก (content) > sad > depress > Broken
– เพิ่มความสุขได้โดย : สูบบุหรี่ดื่มกาแฟ อ่านหนังสือ กินอิ่ม นอนหลับเต็มตื่น ช่วยเหลือคน เล่นกีตาร์ ฟังวิทยุ ดื่มเหล้า
– ความสุขลดลงได้โดย : ทำเรื่องเฮียๆ(ฆ่าคน,ขโมยของ) ปฏิเสธความช่วยเหลือคนอื่น โดนปล้นบ้าน มีคนเจ็บป่วยนอนโอดโอยในบ้าน คนในกลุ่มตาย(เศร้าหนักเลย) เสี้ยนยา(เช่นขาดบุหรี่และกาแฟหลายๆวัน)
– การดื่มเหล้าไม่ทำให้สุขขึ้นทันที แต่จะช่วยให้ค่าความสุขเพิ่มขึ้นในวันรุ่งขึ้น (ยกเว้นโดนส่งออกไปตะลอนๆทั้งคืน)
– ระดับ sad ตัวละครจะเริ่มตอบสนองช้า
– ระดับ depress (ซึมเศร้า) ตัวละครจะชอบหยุดทำกินกรรมที่ทำอยู่เพื่อบ่นๆแล้วก็กลับไปทำต่อ การเคลื่อนไหวจะเริ่มเซื่องซึมลงเรื่อยๆ ตั้งแต่ขั้นนี้สามารถให้เพื่อนคนอื่นมาช่วยปรับทุกข์ได้
– ระดับ Broken (จิตใจแตกสลาย) ตัวละครจะไม่ทำตามกิจกรรมใดๆที่เราสั่ง ต้องให้คนอื่นมาคอยพยาบาล ป้อนข้าวป้อนน้ำ ปรับทุกข์ ถ้าติดอยู่ในสถานะนี้นานๆมีโอกาสที่ตัวละคนจะฆ่าตัวตาย หรือหนีออกจากกลุ่ม(หายไปถาวร พร้อมเอาของในบ้านบางอย่างไปกับมันด้วย)
– ในตัวละครบางตัว เช่น Roman เมื่อเกิดความเครียดมากขึ้น จะเพิ่มความเสี่ยงทีจะทำร้ายคนในบ้านมากขึ้นด้วย ในตอนเช้าคุณอาจได้รับรายงานว่ามีคนต่อยกัน เกิดเป็นบาดแผล(Wounded)ให้คุณมาดูแลเล่นอีกต่างหาก

025

3. การบาดเจ็บ
เริ่มจาก normal > Slightly wounded > Wounded > Severely wounded > Lethally wounded
– ระดับ Slightly wounded (บาดแผลเล็กน้อย) ตัวละครจะช้าลงนิดเดียว
– ระดับ Wounded (แผลพอประมาณ) ตัวละครจะเริ่มช้าลงมาก ถ้าปล่อยว่างตัวละครจะไปหาที่นั่งหรือนอนพัก
– ระดับ Severely wounded (บาดแผลฉกรรจ์) ตัวละครจะวิ่งไม่ได้แล้ว ถ้าปล่อยว่างจะไปนอนพัก
– ระดับ Lethally wounded (บาดแผลอันตรายถึงชีวิต) อย่าว่าแต่เดินหรือวิ่ง แค่ยืนจะล้มแหล่มิล้มแหล่ ใกล้ม่องเต็มทน ตอนเช้าของทุกวันมีสิทธิได้รับแจ้งว่าม่องไปแล้วจ้า
– ส่วนมากอาการบาดเจ็บมักมาจาก บาดเจ็บตอนสำรวจช่วงกลางคืน โจรปล้นบ้าน หรือเครียดจัดจนต่อยกันเอง
– การรักษาทำโดยใช้ผ้าพันแผล หรือนอนพักให้หายเอง โดยการใช้ผ้าพันแผลและนอนพักจะทำให้แผลดีขึ้นในวันรุ่งขึ้น ส่วนการนอนพักไปเรื่อยๆนั้นใช้ดวงช่วยด้วย เพราะแผลมีสิทธิดีขึ้นหรือทรุดลงได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ยังต้องอาจรอคอยนานหลายๆวันเพื่อการรักษาอีกด้วย
– ตัวละครที่มีแผลนั้น ทุกเช้าแผลมีสิทธิดีขึ้น แย่ลง หรือเหมือนเดิม ทั้งนี้ระดับแผลจะเปลี่ยนได้ 0-1ขั้น (ไม่มีแผลฉกรรจ์นอนพัก1คืนหายแน่ๆจ้า)
– ดังนั้นโดยทั่วไปผมแนะนำให้ใช้ผ้าพันแผลรักษาทันที(หากมีเหลือ) ก่อนที่แผลเล็กๆจะลุกลามใหญ่โต ถ้าแผลแย่ลงไปทีละขั้น คุณจะต้องเสียผ้าพันแผลมากขึ้นเรื่อยๆ แถมตัวละครที่นอนซมก็เอามาใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ด้วย (เข้าทำนอง”เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย”)
– หากผ้าพันแผลขาดมือ สิ่งที่เป็นทางเลือกสามารถกระทำได้คือ ไปขอพันแผลที่โรงพยาบาล แน่นอนว่าถ้าไปรับการรักษา มันก็จะทำให้เสียโอกาสในการหาของตามสถานที่อื่น(และคุณก็คงไม่อยากทะเลาะกับ ทางโรงพยาบาลด้วยหรอกมั้ง) ดังนั้นถ้าไหนๆก็จะไปแล้ว อาจเอาของเช่นเหล้าเถื่อน บุหรี่ ไปแลกของที่โรงพยาบาลด้วย

4. การเจ็บป่วย
เริ่มจาก normal > Slightly sick > Sick > Severely sick > Terminally sick
– ระดับ Slightly sick (ป่วยเล็กน้อย) ตัวละครจะช้าลงนิดเดียว
– ระดับ Sick (ป่วย) ตัวละครจะเริ่มมีไอให้เห็น และการเคลื่อนไหวติดขัด ถ้าปล่อยว่างตัวละครจะไปหาที่นั่งหรือนอนพัก
– ระดับ Severely sick (เจ็บป่วยร้ายแรง) ตัวละครจะวิ่งไม่ได้แล้ว ถ้าปล่อยว่างจะไปนอนพัก
– ระดับ Terminally sick (อาการเจ็บป่วยระยะสุดท้าย) แค่จะยืนยังลำบาก เคลื่อนที่ได้ยากมากตามเคย มีสิทธิลุ้นม่องทุกเช้า
– การป่วยส่วนมากมาจากการสุ่มล้วนๆ อาจมีบางปัจจัยมาเกี่ยวข้องเช่นบ้านเย็นเกินไป(อุณหภูมิน้อยกว่า15-20องศาC)
– การรักษาทำโดยกินยา(Medicine)หรือสมุนไพร(Herbal med) หรือนอนพักเฉยๆไปเลย นอนพักเฉยๆนั้นต้องใช้ดวงช่วยด้วย เพราะอาการป่วยที่เป็นมีสิทธิดีขึ้นหรือทรุดลงได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ยังต้องอาจรอคอยนานหลายๆวันเพื่อการรักษาอีกด้วย
– ตัวละครที่เจ็บป่วย ทุกเช้ามีสิทธิอาการดีขึ้น แย่ลง หรือทรงๆตามเดิม ทั้งนี้ระดับความเจ็บป่วยจะเปลี่ยนได้ 0-1ขั้น (ไม่มีโรคระยะสุดท้ายนอนพัก1คืนหายเช่นกันจ้า)
– ดังนั้นโดยทัั่วไปผมแนะนำเหมือนเรื่องบาดแผล คือถ้ามียาคุณก็กินไปเถอะแล้วนอนพักซะ ดีกว่าพึ่งดวงนอนพักไปเรื่อยๆ เมื่อไหร่จะหายก็ไม่รู้ วันดีคืนดีดวงซวยอาการทรุดคุณจะใช้ยาเปลืองขึ้นกว่าเดิมมาก แถมตัวละครที่นอนซมก็เอามาใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ด้วย (เข้าทำนอง”เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย” เหมือนเดิม)
– Herbal med(ยาสมุนไหร) นั้นราคาถูกกว่าก็จริง แต่ก็แลกมาด้วยความแน่นอนในการรักษาที่น้อยกว่ายาแผนปัจจุบัน(Medicine) ถ้ามีเหลือหน่อยก็ให้กินยาแผนปัจจุบัน(Medicine)ไปเถอะ
– นอกจากยาแล้ว สภาพแวดล้อมในอุดมคติที่ดีต่อการรักษาคือ อุณหภูมิ15-20องศา มีเตียงให้นอน ผู้ป่วยได้นอนพักทั้งคืน ท้องอิ่ม

Related posts