หลังจากได้วิธีแก้ไขจากนักบวชใน Chapter ที่แล้ว (วิวาห์ใบสั่งตาย – บทที่ 3 ส่งแขก) เป้าหมายต่อไปก็คือการไปวัดเฉิงหวง วึ่งเป็นวัดที่สร้างทับสนามรบโบราณ เพื่อลดความแค้นของทหารที่ถูกฆ่าที่นี่
วัดเฉิงหวงอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านจางหลิง (ต้องกลับไปแถวหมู่บ้านนั้นอีกแล้ว) ตามคำแนะนำของนักบวช จื่อฝูต้องไปทำพิธีเพื่อไล่ล่าผีชุดขาวที่มาก่อความวุ่นวาย ซึ่งตัวเค้าจะมีเวลาถึงเที่ยงคืนเท่านั้น เพราะวันสารทจีนจะเป็นวันที่ประตูผีเปิด และจะปิดในตอนเที่ยงคืนพอดี (พ้นวันนั้นพอดี)
เมื่อมาถึงวัดแล้วเราจะมีไอเท็มสำคัญติดตัวมา 1 ชิ้นก็คือ กระดาษที่ฉีกเป็นรูปคนและเขียนชื่อเนียโมลี่เอาไว้ ไม่รอช้าเพราะข้างนอกมืดมาก ให้เราเดินเข้าไปด้านในได้เลย จื่อฝูจะทวนขั้นตอนที่ต้องทำให้เราฟัง คือ วางรูปคนบนแท่นบูชา แล้วใช้พู่กันวาดวงกตลับแล สุดท้ายก็เขียนคำร้องในกระดาษ (ดูจากขั้นตอนแล้วไม่น่ายาก)
ให้เราสำรวจแท่นบูชาที่อยู่ด้านใน (ใต้เท้ารูปปั้น) แล้วทำการวางยันค์รูปคนลงในถาดสีแดง แล้วเก็บกระถางธูปเปล่ามาไว้กับตัวก่อน (ไอเท็มสำคัญ) ส่วนหนังสือที่วางอยู่ข้างๆ จะเป็นข้อมูลที่เราจะต้องใช้เพื่อแก้ปริศนา ให้เราหาตัวเลขมาแทนในสัญลักษณ์แปลกๆในข้อความ ซึ่งจะมีทั้งหมด 4 ตัว (ค่อยกลับมาทำทีหลัง) เก็บโคมไฟสีแดงที่แขวนอยู่ทางฝั่งขวา แล้วออกมาด้านนอก
ให้เราเอาโคมไฟไปแขวนบนแท่งไม้ (ข้างๆป้ายด้านหน้า) เมื่อด้านนอกมีไฟพอให้มองเห็นแล้ว ทำการสำรวจโต๊ะที่ตั้งอยู่ใกล้ๆประตู ฝั่งซ้ายมือ ในลิ้นชักบนจะมีพู่กันให้เราเก็บ (ลิ้นชักล่างต้องแก้ปริศนาเช่นเดียวกับกล่องที่วางไว้ใต้โต๊ะ แต่ยังแก้ไม่ได้)
เดินไปทางซ้ายมือ จะเป็นทางเข้าป่า เราจะเจอหินจุดไฟที่แผนที่แรกของป่า จากนั้นเดินเข้าไปอีกแมพ สังเกตที่พื้นจะมีแท่งฝนหมึก เก็บแล้วให้เราเดินออกมาเลย เนื่องจากการเดินเข้าไปในป่าตอนนี้ยังไม่สามารถเดินเข้าไปได้ เพราะจะวนกลับมาที่เดิม ให้เก็บแค่หินจุดไฟกับที่ฝนหมึกแล้วเดินออกมา
กลับมาที่หน้าวัดแล้วไปสำรวจบนโต๊ะทำขนม (ฝั่งขวาของประตูทางเข้า) เก็บแป้งโดมาไว้ สังเกตฝั่งขวาของป้าย จะมีเตาและกระทะ เมื่อสำรวจตรงนี้จะมีรูปถ่ายครอบครัวของโมฉี ที่เราทำตกในบ่อ ถูกเอามาเผาที่นี่ แต่ยังเผาไม่หมด ให้เก็บเอาไว้กับตัว ถึงตรงนี้เราสามารถจุดเตาไฟเพื่อทำกาวได้แล้ว หรือจะเข้าไปเขียนคำร้องเลยก็ได้ แต่ผมจะขอทำกาวแป้งก่อนก็แล้วกันครับ เพราะต้องใช้หลายครั้งเลย
วิธีทำแป้งกาว
หลังจากจุดไฟได้แล้ว ให้เราเอากระถางธูปไปตักน้ำในโอ่ง หยิบแป้งมา 1 ก้อน จากนั้นเดินไปที่เตา เอาแป้งใส่กระทะ ใส่น้ำ แล้วหยิบทัพพีที่วางอยู่ใกล้ๆมาคน เราก็จะได้แป้งกาวมาใช้ (เราจะได้กระถางธูปเปล่าคืนมาหลังจากเทน้ำแล้ว)
ก่อนจะเข้าไปเขียนคำร้อง หากเราใช้น้ำไปแล้ว (หรือยังไม่ได้ตัก) ให้เราเอากระถางธูปไปตักน้ำในโอ่งก่อน แล้วเข้าไปสำรวจโต๊ะเขียนคำร้องด้านใน วิธีการคือ ใส่น้ำที่แท่นฝนหมึก จากนั้นในแท่งฝนหมึก และทำการวางพู่กัน เราก็จะสามารถเขียนรูปวงกตลับแลได้แล้ว วิธีการเล่นคือให้เราลากเส้นต่อจุดทุกจุดโดยห้ามลากเส้นซ้ำกับเส้นเดิม (ตรงนี้ไม่มีเฉลยนะครับไปลองเล่นกันดู) เมื่อเขียนเสร็จให้เรามาสำรวจที่กระดาษเปล่าๆ จะเป็นการเริ่มเขียนคำร้อง
แต่ผีเด็กจะวิ่งมาขโมยยันต์รูปคนไป พร้อมกับประตูฝั่งซ้ายที่เปิดออก ให้เราเข้าประตูฝั่งซ้ายไป ก็จะเจอผีเด็กยืนอยู่กดสำรวจที่ผีเด็ก ก็จะได้ยันต์รูปคนคืนมา พร้อมกับเห็นขบวนผีที่เดินต่อกัน ตรงนี้จะเป็นข้อมูลให้เราเอาไปแก้รหัสอีกที
ออกมาจากห้อง แล้วเอายันต์รูปคนไปวางที่เดิม (ในถาดสีแดง) จากนั้นกลับมาเขียนคำร้องอีกครั้ง แต่ครั้งนี้จะมีผีคุณตา (คนเดิม) วิ่งมาขโมยยันต์ไปแทน และประตูด้านขวาก็จะเปิดออก ให้เราเข้าไปที่ห้องด้านขวา เราจะเห็นว่าในตอนนี้เราจะไม่สามารถหยิบยันต์รูปคนออกมาจากนาฬิกาได้แล้ว ให้เรากดสำรวจสิ่งที่ยมทูตทั้งสองถืออยู่ เราจะได้แท่งไว้ทุกข์จากยมทูตสีดำ และได้ป้ายจากยมทูตสีขาว (ที่ป้ายจะมีตัวเลขแปลกๆเขียนเอาไว้อยู่ด้วย)
ออกจากห้องด้านขวา แล้วเข้ามาที่ห้องด้านซ้าย ให้เราใช้ป้ายที่พึ่งได้มา สังเกตดีๆ จะมีลูกศรสีน้ำเงิน แดง และเหลือง ชี้ไปที่ตัวเลขบนป้าย นั่นคือตัวเลขที่เราจะต้องหมุนเข็มนาฬิกาให้ตรง (น้ำเงิน=7 ,แดง=2 ,เหลือง=7) เมื่อเปิดนาฬิกาได้แล้ว เราก็จะได้ยันต์รูปคนคืนมาอีกครั้ง
เดินกลับออกมาที่ห้องโถง เอายันต์รูปคนไปวางไว้ที่เดิม และกลับมาเขียนคำร้องอีกครั้ง แต่คราวนี้ในตอนที่เรากำลังจะเขียน จะมีตัวอักษรจีนผุดขึ้นมาบนกระดาษมากมายจนทำให้กระดาษเป็นสีแดง (คำนั้นคือคำว่าไม่ยุติธรรม) แล้วตัวอักษรบนยันต์ก็จะปรากฎขึ้นมากลายเป็นชื่อโมฉีแทน (ในตอนนี้เราจะเริ่มรู้แล้วว่าผีที่ออกมาขัดขวางเพราะพิธีที่เรากำลังจะทำ เป็นการขับไล่โมฉี แทนที่จะเป็นโมลี่) สุดท้ายผีพ่อและแม่จะชิงยันต์และพู่กันหนีไป ซึ่งจะมีบางอย่างตกอยู่ที่พื้นด้วย
ให้เราสำรวจของที่ตกอยู่บนพื้น เราจะได้บล็อกสี่เหลี่ยม ที่จะเอาไว้แก้ปริศนาบนกระดาน สำรวจที่กระดานด้านขวามือ เอาบล็อกที่พึ่งเก็บได้ไปใส่ไว้แถวล่างสุด ต่อไปจะเป็นการแก้ปริศนาด้วยการจับคู่ธาตุต่างๆให้ตรงกับรูปภาพ โดยข้อมูลจะบอกอยู่ในหนังสือบนแท่นบูชา (เฉลยตามรูปด้านบน)
เมื่อแผ่นไม้เปิดออกจะมีหนังสือเล่าถึงประวัติละครเงาแขวนอยู่ และตรงมุมขวาล่างของหนังสือจะมีรหัสรูปดาวบอกให้เรารู้ว่าเท่ากับ 6 ซึ่งจะเป็นรหัสตัวสุดท้ายที่เราจะต้องใช้ในการเปิดลิ้นชัก
เดินออกมาหน้าวัด สำรวจลิ้นชักล่างที่โต๊ะฝั่งซ้ายมือ จะมีรหัสที่เราจะต้องใส่ทั้งหมด 5 ตัว ตามสัญลักษณ์ต่างๆ โดย
- สามเหลี่ยม(ขึ้น) – จะเป็นลำดับของผีที่ถือป้ายสีแดง = 4
- สี่เหลี่ยม(ตะแคง) – ความยาวลิ้นของยมทูตขาว = 3
- ดาว – ได้รหัสจากหนังสือประวัติละครเงา = 6
- สี่เหลี่ยม – ตัวเลขที่เขียนไว้บนหมวกของยมทูต = 1
- สามเหลี่ยม (ลง) – ลำดับผีถือป้ายขาว = 8
- เพราะฉะนั้นรหัสเปิดกล่องคือ 4,3,6,1,8
ด้านในลิ้นชักจะมีชิ้นส่วนของเครื่องประดับ และเงินกระดาษ ซึ่งกล่องที่อยู่ใต้โต๊ะนั้นจะต้องใช้ชิ้นส่วนเครื่องประดับทั้งหมด 2 ชิ้น วิธีการเก็บอีกหนึ่งชิ้นก็คือ ให้เราไปสำรวจที่โจ๊ะทำขนม (ฝั่งขวาของประตู) เอาแท่งไม้ที่ได้จากยมทูตดำไปวางแทนไม้นวดแป้ง จากนั้นให้เราดูว่าเรามีแป้งกาวหรือยังหากยังให้เราทำแป้งกาวก่อน (วิธีทำอยู่ด้านบน) ต่อไปกลับมาทำขนมกันต่อ หยิบแป้งโดมา 1 ชิ้น วางบนโต๊ะ แล้วใช้ไม้นวดให้แบนใส่ถั่วแดง แล้วใส่แป้งกาวลงไป เราก็จะได้เค้กถั่วผสมแป้งกาวมา 1 ชิ้น จากนั้นเอาไปใส่ที่กระทะ แล้วปิดฝา เราก็จะได้เค้กถั่วผสมแป้งกาวแบบที่สุกแล้ว มา 1 ชิ้น
เข้าไปในวัด แล้วเข้าห้องด้านซ้าย ที่มีรูปปั้นชี้เข้าไปในปากตัวเอง (ด้านซ้าย) เมื่อมันกินแล้ว เราจะสามารถเก็บชิ้นส่วนอีกชิ้นที่ติดอยู่บนแท่นใต้เท้ามันได้ เอาเครื่องประดับทั้ง 2 ชิ้น กลับมาใส่ที่กล่องใต้โต๊ะ เราจะได้กุญแจมา 1 ดอก แล้วเอากุญแจที่ได้มาไขป้ายด้านหน้า (ป้ายจะเขียนว่าห้ามผ่าน) เราก็จะได้ป้ายอันนั้นมา เอาไปให้รูปปั้นที่อยู่ด้านในถือ (รูปปั้นที่ยกมือ 2 ข้าง) จะทำให้ผีที่เดินเป็นขบวนหายไปทั้งหมด
สำรวจที่สัญลักษณ์ 8 เหลี่ยมที่ประตู จะเป็นปริศนาให้เรากดแต่ละชิ้นตามลำดับ (ตรงนี้ไม่ยากครับ เล่นเองได้เลย) เมื่อเปิดประตูได้แล้วให้เดินเข้าไปด้านใน จะเป็นอีกโลกหนึ่ง เราจะเจอพ่อแม่ของโมฉี คุณตาและเด็กข้างบ้านที่ดูเหมือนคนแต่ไม่ขยับตัว ให้เราเก็บชิ้นส่วนของหนังสือที่ตกอยู่ที่พื้น และกระดาษหุ่นสีขาวที่แม่ของโมฉีถืออยู่
ออกมาด้านนอกของวัดไปทำแป้งกาวมา 1 อัน แล้วไปสำรวจที่โต๊ะฝั่งซ้าย เมื่อเราเก็บหนังสือส่วนหลังมาแล้ว ตอนนี้เราจะสามารถทำอ่างกระดาษได้แล้ว ด้วยการกดที่ไม้ไผ่ แล้วใช้แป้งกาวที่โครง เราก็จะได้อ่างกระดาษ หลังจากนั้นไปทำแป้งกาวมาอีก 1 อัน แล้วเดินเข้าไปในห้องยมทูต ให้เราใช้แป้งกาวแปะหน้ายมทูตดำ แล้วแปะเหรียญที่ได้มาก่อนหน้านี้ จากนั้นวางรูปพ่อแม่ของโมฉีไว้ที่ป้ายศพ แล้วทำการเผาอ่างกระดาษในอ่างสำหรับเผา (ใช้หินจุดไฟ)
เดินกลับไปที่โลกคนตาย (ห้องในสุดด้านซ้ายมือ) เราจะเห็นว่าผีแต่ละคนทำท่าทางเปลี่ยนไป ให้เราเก็บอ่างที่อยู่แถวๆสะพานมาก่อน จากนั้นไปสำรวจในน้ำ เราจะสามารถเอาอ่างน้ำตักหุ่นสีแดงขึ้นมาได้ (แต่ยังไม่สามารถหยิบหุ่นขึ้นมาได้) ต่อไปเราจะต้องกะจังหวะดีๆ ให้เราสังเกตว่าหลังจากที่เราสำรวจในน้ำแล้ว ท่าทางของทุกคนจะเปลี่ยนไป ให้ดูที่ท่าทางม้าเป็นหลัก เพราะเราจะต้องเอาอ่างน้ำไปให้ม้ากิน โดยกะจังหวะวางอ่างก่อนที่ม้าจะก้มลงมากินน้ำ เราก็จะได้หุ่นเงาสีแดงมาอีกตัว
เอาหุ่นเงาชุดขาวและชุดแดงไปแขวนที่กระดาน ที่อยู่ในห้องโถง จะมีนิทานให้เราดู แล้วความจริงจะปรากฎว่า แท้จริงแล้ว เจ้าสาวในชุดสีแดงคือโมลี่ปลอมตัวมาหลอกเรา ส่วนเจ้าสาวในชุดขาวนั้นก็คือโมฉีนั่นเอง เท่ากับว่าเราเข้าใจผิดจนพยายามจะกำจัดโมฉีแทน
หลังดูจบหุ่นกระดาษจะลอยออกไป ให้เรารีบวิ่งตามออกไปแล้ววิ่งเข้าไปในป่า รอบนี้จะมีหุ่นคอยบอกทางเรา ให้เราเลือกทางที่ถูกไปเรื่อยๆ แล้วเราจะเดินมาถึงกระท่อมหลังหนึ่ง ที่ด้านในจะเจอรูปยายที่ถ่ายคู่กับโมลี่ ซึ่งก็คือยายที่เราเจอที่หมู่บ้านจางหลิงก่อนหน้านี้นั่นเอง สุดท้ายยายจะเล่าความจริงให้เราฟังว่า ในตอนที่โมลี่ถูกทิ้ง เกิดสงสารเลยเก็บโมลี่มาเลี้ยง และต้องการไถ่โทษที่ก่อนหน้านี้ยายเป็นคนเล่นของและทำบาปมามาก
หลังจากที่เลี้ยงโมลี่จนโต แต่โมลี่กลับมีแต่ความแค้นที่ตัวเองโดนทิ้ง ยายเลยส่งโมลี่เข้าไปเรียนในเมือง แต่โมลี่ดันไปเป็นลูกศิษย์ของพวกเล่นมนต์ดำอีก ยายกลัวว่าโมลี่กำลังวางแผนทำเรื่องไม่ดี เลยอยากจะไปสืบที่หมู่บ้าน ซึ่งก็เป็นวันที่ไปเจอเราครั้งแรกนั่นเอง แล้วไปเจอรูปถ่ายตกอยู่ ด้วยความที่กลัวว่าเรื่องจะถูกเปิดเผยเลยเก็บรูปมาเผาทิ้ง แต่ยังเผาไม่เสร็จเราก็มาถึงที่นี่พอดี
สุดท้ายคุณยายจะบอกให้จื่อฝูลองไปดูที่ร้านของศิษย์พี่ (อาจารย์ของโมลี่) ที่เปิดเป็นร้านขายของใช้ในงานศพ และคิดว่าน่าจะมีห้องลับใต้ดินเพื่อเอาไว้ทำพิธีชั่วร้ายอีกด้วย เลยคิดว่าบางทีโมฉีอาจจะอยู่ที่นั่นก็ได้ จบบทที่ 4 กลับบ้าน
