แคลร์ตามหาเชอรี่เจอแล้ว (Resident Evil 2 (2nd Run) : Claire – เชอรี่ถูกลักพาตัว) แต่ยังไม่สามารถเข้าไปช่วยเชอรี่ได้เพราะจะต้องหาตัวหมากรุกอีก 3 ตัว มาแก้ปริศนาก่อนถึงจะเปิดประตูได้ ให้เราสำรวจในห้องนี้ให้ทั่ว จะมีจุดเซพและแผนที่แปะอยู่ใกล้ประตูทางออก
ออกจากห้องแล้วไปสับสวิตช์ สะพานจะเลื่อนลงมาให้เราเดินข้ามไปได้ ให้เราเลี้ยวซ้ายก่อนเพื่อไปเก็บเหล็กตัวที (ตามรูปด้านบน) ใกล้ๆจะมีจดหมายที่ลีออนฝากไว้ให้แคลร์ ใจความว่า “ถ้าแคลร์ได้อ่านจดหมายนี้ แปลว่าใกล้จะได้ออกจากเมืองแล้ว ลีออนจะต้องไปทำธุระบางอย่างก่อน และถ้าเกิดลีออนเอาชีวิตไม่รอด เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นฝีมือของบริษัทอัมเบลล่า”

เดินไปอีกฝั่งเพื่อเปิดตู้เซพ โดยใส่รหัส 2 – 12 – 8 (รหัสอยู่ด้านข้างตู้) แล้วเราจะได้อุปกรณ์แต่งปืน เมื่อเก็บของได้แล้ว ให้เราเดินออกประตูทางออก ลงมาด้านล่าง เพื่อเปิดประตูกรง ตรงท่อระบายน้ำก่อน (ตามรูปด้านบน)
**ถึงตรงนี้ เราจะต้องมีช่องเก็บของว่างอย่างน้อย 5 ช่อง หากไม่พอแนะนำให้ไปเก็บกระเป๋าที่ห้อง Workroom ก่อน โดยเดินไปตามทาง ด้านขวามือจะมีจุดที่เราต้องใช้เหล็กหมุน แล้วขึ้นลิฟต์ไปก็จะเป็นห้อง Workroom แล้ว (อย่าลืมปลดล็อคประตูอีกด้านด้วย)**

จากนั้นเดินกลับมาตั้งหลักที่บันได ให้เราเลี้ยวไปทางซ้าย เดินไปจนเจอจุดที่เราจะต้องใช้เหล็กหมุนเพื่อเปิดประตู เดินเข้าประตูไป เราจะเจอกุญแจแขวนอยู่บริเวณโต๊ะทำงาน

ใกล้ๆโต๊ะจะมีจุดกระโดดลงไปด้านล่าง เดินเข้าไปจนสุดทาง เดินขึ้นมาอีกฝั่ง แล้วเดินเข้าไปด้านใน จะเป็นส่วนของคลังเก็บของ ซึ่งจะมีปลั๊กหมากรุกคิงกับควีนอยู่ที่นี่ และยังมีปืนยิงไฟฟ้าอยู่ด้านในอีกด้วย แต่การที่เราจะเก็บของได้หมดนั้น เราจะต้องมาแก้ปริศนาปลั๊กคิงกับควีนเสียก่อน (แก้ปริศนาเหมือนตอนเนื้อเรื่องลีออนเลย)
หากมีช่องใส่ของเหลือพอ ให้เราไปเก็บของห้องที่ต้องใช้กุญแจตราหมากรุกไขเข้าไป (จะมีห้องที่เข้าไปเก็บดินปืนกับห้องที่มีทางลับกลับสถานีตำรวจ) ส่วนใครที่อยากกลับไปเก็บของที่ซ่อนอยู่ที่สถานีตำรวจ สามารถอ่านรายละเอียดได้ที่ วิธีเก็บกระสุนและอุปกรณ์แต่งปืนอันสุดท้าย จากปริศนาฟิล์มถ่ายรูป เราจะได้ที่เล็งจุดแดงมา จากนั้นไปดึงตราหมากรุกอีกตัวที่อยู่ใกล้ๆกับห้อง Workroom (ที่ดึงแล้วสะพานจะเลื่อนขึ้นไป) เราก็จะได้หมากรุกครบ 3 ตัวแล้ว

กลับมาที่ห้องที่เราจะต้องแก้ปริศนาตาหมากรุก โดยรอบนี้จะต้องแก้ปริศนาไม่เหมือนรอบแรก (ดูตามรูปด้านบน) เมื่อแก้ปริศนาได้เรียบร้อยแล้ว ให้เราเตรียมตัวให้พร้อม แล้วค่อยเปิดประตูออกไป เดินลงบันไดมาตามทางจะเจอประตูด้านขวามือ แต่เปิดไม่ได้ ให้เดินผ่านไปเลย

แล้วเราจะเจอประตูใหญ่ที่จะเข้าไปช่วยเชอรี่อยู่ด้านซ้ายมือ เมื่อสับสวิตช์เราจะไม่สามารถเปิดได้ เพราะไม่มีไฟฟ้า เดินต่อไปตามทาง เราจะเจอห้องควบคุมไฟฟ้า ให้ไปสำรวจที่เครื่องควบคุมด้านใน เราจะต้องแก้ปริศนา โดยสับสวิตช์จนเข็มทั้ง 2 ฝั่งอยู่ในแถบสีแดง (ตรงนี้ให้มั่วไปเลย ไม่ยาก เพราะแต่ละรอบมันจะสุ่มค่าไม่เท่ากัน)

เมื่อเราแก้ปริศนาได้แล้ว ในขณะที่เรากำลังจะออกจากห้อง เราจะถูกบอสจู่โจมจากด้านบน แถมมีไฟไหม้ในห้องด้วย ให้เราหลบมันไปสักพัก จนมันพังประตูเหล็กเข้ามา แล้วกะจังหวะดีๆ วิ่งหนีมันออกไปทางที่มันพังเข้ามา วิ่งไปตามทางจนไปถึงจุดที่มีตู้คอนเทนเนอร์ห้อยอยู่ เราจะกระโดดลงไปด้านล่าง
ให้เรารีบวิ่งไปด้านหลังตู้ เพื่อไปเปิดเครื่องปั่นไฟก่อน (ตู้สีแดง) จากนั้นกดสวิตช์สีแดง เครื่องจะย้ายตู้คอนเทนเนอร์ออกไป จังหวะนี้ให้เราพยายามยิงบอสให้ล้มลง ตรงจุดที่ตู้เคยวางอยู่ เมื่อมันล้มแล้ว ก็ให้เรารีบวิ่งมากดสวิตช์ที่แผงอีกปุ่ม มันจะเป็นการเหวี่ยงตู้กลับมาที่เดิม ซึ่งจะทำให้ตู้ที่เหวี่ยงมา โดนเข้ากับร่างของบอส ทำอย่างนี้สัก 2-3 ครั้งจนบอสตกลงไปด้านล่าง
เมื่อกำจัดบอสได้แล้วก็ให้เราเดินข้ามสะพานไปเปิดล็อกประตู เราก็จะออกมาตรงประตูที่เชอรี่ถูกขังพอดี เมื่อเราไปสับสวิตช์แล้ว ก็ตัดเข้าคัทซีน แคลร์จะรีบเข้าไปช่วยเชอรี่ ซึ่งแม่ของเชอรี่ก็กำลังเรียกเชอรี่อยู่ เมื่อเห็นแคลร์เดินเข้าไปหาเชอรี่จึงถามว่า เข้ามาทำอะไร แคลร์จะตอบกลับไปว่ามาช่วยเชอรี่ เมื่อแม่ของเชอรี่เห็นว่าแคลร์มาช่วยจึงบอกกับแคลร์ไปว่าเชอรี่ถูกฝังตัวอ่อนแล้ว แต่จะลองรักษาดู ให้เอาตัวไปที่แลปที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่