Detention – Part 2 [END]

มาต่อกันใน บทสรุป เกม Detention ตอนที่ 2 แล้ว (ซึ่งคาดว่าจะเอาให้จบภายในพาทนี้เลย) โดยเนื้อเรื่องจากตอนที่แล้ว (Detention ตอนแรก) จะทำให้เรารู้ถึงข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับเรย์ ที่มีภาวะผิดปกติทางจิตใจ เนื่องจากปัญหาครอบครัว และประกอบกับความเครียดของเหตุการณ์บ้านเมืองในยุคนั้น (กฎอัยการศึกที่ออกมาเพื่อริดรอนสิทธิและความคิดของประชาชน) จนมีความรู้สึกว่าตัวเองอยากจะไปอยู่ที่อื่น (ต่างประเทศ)

Chapter 2

คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปเต็ม

เริ่ม Chapter นี้ด้วยการตื่นขึ้นมาบนเก้าอี้ (อีกแล้ว) สังเกตรอบๆตัว แล้วจะทำให้เรารู้ว่า เราจะมาอยู่บริเวณลานกว้าง ที่มีเวทีอยู่ (มีเครื่องบินกระดาษอยู่เต็มพื้น) ให้เราเดินเข้าตึกทางด้านขวามือ (ด้านซ้ายจะเป็นทางขาด)

คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปเต็ม

เมื่อเข้ามาในตึกแล้วให้เดินไปทางขวาเล็กน้อย เราจะเจอกับจุดเซพ ซึ่งจะมีกระดาษวางอยู่ที่โต๊ะใกล้ๆจุดเซพด้วย โดยจะมีข้อความเกี่ยวกับ ยมฑูต เฮ่ยไป่อู่ฉาง (Hei Bai Wu Chang) ถ้าใครสนใจสามารถอ่านประวัติได้ที่นี่ เดินต่อไปทางขวามือ เราจะเจอประตู ที่มีรูปยมฑูต เฮ่ยไป่อู่ฉาง อยู่หน้าประตู แต่เมื่อประกอบกับข้อความที่เราได้เมื่อกี้ ก็จะพบว่า ตอนนี้ รูปปั้นทั้ง 2 ไม่ได้ถือพัด และป้ายชื่อ นั่นเท่ากับว่า เป้าหมายของเราตอนนี้คือการไปหาพัดและป้ายชื่อเพื่อมาเปิดประตูบานนี้

เดินมาทางด้านซ้าย เราจะเจอกระดาษอยู่บนรถเข็น เมื่ออ่านแล้ว เราจะได้ข้อมูลว่า หากเราเจอผีถือโคมไฟ ให้เราหันหลังให้มัน แล้วกลั้นหายใจ จากนั้นรอให้มันเดินผ่านเราไปเอง ก่อนถึงบันได เราจะเจอประตู แต่ยังไม่ต้องเข้าก็ได้

ลงมาชั้นล่าง จะเหมือนกับคุกใต้ดิน ให้เราสำรวจที่ห้องแรก เราจะเห็นเหมือนคนถูกขังอยู่ข้างใน ซึ่งจะมีป้ายไม้ติดอยู่ที่หลัง นั่นก็คือหนึ่งในไอเท็มที่เราต้องการไปเปิดประตูนั่นเอง เดินต่อเข้าไปด้านใน (ด้านขวามือ) ผ่านกระถางธูปอันใหญ่

**หากเราสำรวจที่กระถาง เราจะได้รู้ว่าแม่ของเรย์เวลาไหว้เจ้า ชอบเอาความทุกข์ในใจ หรือปัญหาต่างๆมาถามกับสิ่งที่มองไม่เห็น ซึ่งเรย์จะบอกว่าหากมีปัญหาจริงๆ ทำไมถึงไม่ไปคุยกับคนจริงๆที่เราต้องการเองเลย นั่นแสดงให้เห็นถึงเรย์ที่ไม่ค่อยเชื่อเกี่ยวกับเรื่องที่มองไม่เห็นสักเท่าไหร่**

คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปเต็ม

เดินเข้ามาด้านในสุด เราจะเจอกับกระดาษเงิน-กระดาษทอง ที่วางอยู่บนเก้าอี้ เก็บมา แล้วกลับมาที่ชั้น 1 ห้องที่เราข้ามไป (ห้องที่อยู่ใกล้บันไดเลย) เมื่อเข้าไปในห้อง ที่ด้านในสุด เราจะเจอกับเตาเผา ให้เราใช้กระดาษเงิน-กระดาษทอง ที่เก็บมาแล้วเราจะได้พัดขนนก (1ในไอเท็มที่จะใช้เปิดประตูยมฑูต)

** ตอนเดินออกจากห้อง ผ่านจุดที่มีตุ๊กตาแขวนอยู่เยอะๆ ให้เรากลั้นหายใจเดิน ไม่งั้นเราจะโดนผีตุ๊กตาดึงขึ้นไป ทำให้ตายทันที **

เดินขึ้นมาที่ชั้น 3 (เราจะเห็นประตูขึ้นบนดาดฟ้าถูกล็อคอยู่) เดินเข้ามาด้านใน ผ่านห้องฉายหนัง (ยังไม่จำเป็นต้องเข้า เพราะจะต้องไปหาฟิล์มมาก่อน) เข้าไปที่ห้องดูหนัง ด้านใน เราจะเจอกระถางธูป เมื่อเราเก็บธูปขึ้นมา (สำรวจแล้วระบบจะถามว่าเราจะดึงธูปขึ้นมาไหม) ป้ายหลุมศพจะปรากฎชื่อของ อาเว่ย และในขณะที่เรากำลังจะออกจากห้อง ปรากฎว่า บนกระดานจะมีตัวอักษรภาษาจีนขึ้นมาเต็มไปหมด ทั้งที่ตอนแรกไม่มีอะไรเลย (ภาษาจีนแปลได้ประมาณว่า ผู้ส่งสารหรือผู้ให้ข้อมูล)

สปอย
สาเหตุที่ชื่อในป้ายหลุมศพเป็นชื่อของอาเว่ย และที่กระดานมีการเขียนคำว่าผู้ส่งสาร จะมีเฉลยในตอนท้ายเกม เพราะเนื่องจากคนในชมรมถูกจับได้ว่าเป็นกลุ่มต่อต้าน อาเว่ยที่ถูกเพื่อนคิดว่า เป็นคนที่เอารายชื่อของคนในชมรมออกไปเผยแพร่ จึงถูกแกล้งโดยการขังไว้ในห้องน้ำ

ออกจากห้องดูหนัง แล้วลงไปที่ชั้นใต้ดิน ให้เราเอาธูปที่ได้มา ไปใช้ที่กระถางธูป (ก่อนปักธูป เรย์จะอธิฐานว่า จะไม่ขออะไรทั้งนั้น เพราะชีวิตนี้ เราจะต้องเป็นคนกำหนดเอง) ปักธูปแล้ว เราจะได้ยินเสียงประตูห้องขังเปิดออก เดินกลับมาที่ห้องขังแรก (ที่มีป้ายไม้สีแดงปักอยู่ที่หุ่น) ให้เราเข้าไปเก็บป้ายไม้ออกมา เท่ากับว่าตอนนี้เราเก็บไอเท็มที่จะใช้เปิดประตูได้ครบเรียบร้อยแล้ว

เปิดประตูยมฑูต

เอาไอเท็มทั้งสอง (พัดและป้ายไม้) ไปใส่ที่รูปปั้นยมฑูต เราจะสามารถเปิดประตู เข้าไปด้านในได้ เมื่อเดินเข้ามา จะเป็นบริเวณสนามหญ้าเล็กๆ ที่สามารถมองเห็นรูปปั้นของประธานาธิบดีที่เป็นทองแดงได้ (จากข้อความตรงนี้ จะทำให้เรารู้ว่า จริงๆแล้วที่นี่ ก็คือบริเวณโรงเรียนนั่นเอง)

คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปเต็ม

เดินผ่านรูปปั้นเข้าประตูด้านขวา แล้วเราจะเข้ามาอีกสถานที่หนึ่ง (ดูตามแผนที่ด้านบน) ให้เข้าประตูห้องแรก ที่ด้านในเราจะเจอโทรศัพท์วางอยู่บนโต๊ะ แต่ตอนนี้จะยังทำอะไรไม่ได้ เพราะเราจะต้องไปหาเบอร์โทรศัพท์มาก่อน เดินเข้าไปสำรวจที่ตู้ด้านใน แล้วเราจะได้กุญแจชั้นดาดฟ้ามา

ออกจากห้องแล้วเดินไปทางซ้ายสุด เราจะเข้ามายังตึกอีกส่วน โดยห้องแรกจะเป็นห้องดนตรี (ไว้เล่นเปียนโน) เดินผ่านห้องนี้ไปก่อนเลยก็ได้ เพราะเราจะต้องแก้ปริศนาเสียงเพลงก่อน ถึงจะกลับมาเล่นเปียนโนได้

ผ่านห้องดนตรีไปแล้ว จะเป็นห้องที่เอาไว้กระจายเสียงตามสาย (ประกาศและเปิดเพลงต่างๆ) เดินผ่านไปก่อนเพราะเราจะต้องไปหาเทปเพื่อมาเปิดกับเครื่องเล่นในห้องนี้ เดินไปทางขวาสุด เราจะสามารถออกไปยังส่วนของสนามหญ้าได้ (เป็นสนามหญ้าอีกฝั่งของรูปปั้น)

เดินเข้าวงกลมตรงกลางสนามหญ้า เราจะโผล่ออกไปยังส่วนของลานกว้าง เดินไปทางซ้าย เราจะผ่านจุดที่เป็นเวทีละครมือ (ตุ๊กตามือ) ในตอนนี้ให้เราเดินผ่านไปก่อน เพราะเราจะต้องหาตุ๊กตามาใส่มืออีก 2 ตัว เดินเข้าไปจนสุดทางเดิน เราจะเจอกับต้นไม้ เมื่อสำรวจแล้วเราจะได้เทป (8 Track Tape)

เดินกลับมาตรงสนามหญ้า (ที่มีวงกลมตรงทางเดิน) แล้วเลี้ยวขวาไปปลดล็อกประตู แล้วเราจะสามารถเดินกลับเข้ามายังอาคารในตอนแรกได้ (ประตูใกล้ๆ บันได ที่ตอนแรกล็อคอยู่)

เดินขึ้นบันไดไปชั้นดาดฟ้า (ใช้กุญแจไขเข้าไป) ที่ดาดฟ้า เราจะได้ม้วนฟิล์ม จากนั้นเดินลงมาที่ชั้น 2 เข้าไปที่ห้องฉายหนัง ให้เอาม้วนฟิล์มที่เราได้มาไปใส่ จากนั้นเดินเข้าไปดูที่ห้องดูหนัง เราจะสังเกตว่าในหนังที่ฉาย จะมีตัวเลขปรากฎขึ้นมา ซึ่งก็คือตัวเบอร์โทรศัพท์นั่นเอง

กลับไปที่ห้องที่มีโทรศัพท์ (ลงมาชั้น 1 แล้วเดินไปทางขวาสุดเพื่อเข้าประตูยมฑูต เดินผ่านรูปปั้นเข้ามาด้านใน ก็จะเจอกับห้องที่มีโทรศัพท์) เข้าไปในห้องแล้วยกหูโทรศัพท์ขึ้นมาก่อน จากนั้นหมุนเบอร์ 025121เมื่อโทรติดแล้ว ปลายสายจะพูดกลับมาว่า “คุณฟาง (ชื่อแซ่ของเรย์) ประเทศนี้ต้องขอบคุณความช่วยเหลือของคุณ” แล้วสายก็จะตัดไป

** เมื่อวางโทรศัพท์แล้ว เราจะเห็นปีศาจ ตัวสูงที่เคยวิ่งไล่เรา (ตอนที่ฉากยังเป็นโรงเรียนเดิมอยู่) ซึ่งครั้งนี้ เราจะเห็นว่าปีศาจตัวนี้ได้แบกอะไรบางอย่างเอาไว้ด้วย จากนันเราจะพบว่า ปีศาจพยายามที่จะเข้ามาในห้องนี้ แต่ไม่สามารถเข้าได้ เลยเดินหนีไป **

สปอย
จริงๆแล้วปีศาจตัวนี้ ก็คือปีศาจตัวเดียวกับที่เรย์วิ่งหนีตอนแรก ที่เห็นว่าปีศาจตัวนี้แบกอะไรอยู่ด้านหลัง นั่นก็คือ ชีวิตผู้บริสุทธ์ ที่เกิดจากสิ่งที่เรย์ทำลงไป ซึ่งจะมีเนื้อเรื่องในตอนท้าย ทำให้เรารู้ว่า เรย์เป็นคนทำให้อาจารย์ชางและเพื่อนๆที่อยู่ในชมรมได้รับโทษ นั่นก็หมายความว่า ปีศาจตัวนี้ ก็คือบาปของเรย์นั่นเอง (เรย์เลือกที่จะทิ้งความทรงจำเพื่อที่จะหนีบาปที่ตัวเองได้ก่อขึ้น)

ออกจากห้องนี้ แล้วเราจะได้เจอกับตุ๊กตาที่หล่นอยู่หน้าห้อง เก็บแล้วเดินไปทางซ้ายมือสุดโดยตอนนี้เราจะเอาเทปที่ได้มาก่อนหน้านี้ ไปเปิดที่ห้องกระจายเสียง แต่ในขณะที่เดินไฟจะเกิดดับลง ให้เราเดินไปเปิดสวิตช์ ที่อยู่บนผนัง จนกว่าจะติด (ต้องกดหลายครั้ง) **เมื่อเปิดแล้ว ระวังผีโคมไฟจะออกมาพอดี** เข้ามาที่ห้องกระจายเสียง เอาเทปที่ได้มาใส่เข้าไป แล้วกดปุ่มสีแดง เพื่อเปลี่ยนแทรค ไปที่เลข 4 จะเป็นเสียงบรรเลงเพลง นั่นก็คือเสียงที่เราจะต้องไปเล่นเปียนโนนั่นเอง

เข้าไปที่ห้องดนตรี เพื่อเล่นเปียนโนให้ได้ตามโน๊ตที่ได้ยิน หรือกดคีย์ตามนี้ [1-2-1-5-5-4-3-2-1] เมื่อเล่นเพลงสำเร็จแล้ว กรงที่มีตุ๊กตาข้างใน ก็จะเปิดออก ทำให้เราเก็บตุ๊กตา (Hooded Puppet) ตัวที่ 2 ได้

เมื่อเราได้ตุ๊กตาครบทั้ง 2 ตัวแล้ว ให้เราเอาตุ๊กตา ไปใส่ที่มือ ที่อยู่ในลานกว้าง (วิธีเดินไปคือ ออกจากห้องดนตรี แล้วเดินไปทางซ้าย เมื่อออกมาที่สนาม ให้เดินเข้าประตูวงกลม เดินเข้ามาตามทางเรื่อยๆ ก็จะเจอเวที) แล้วเราจะได้กุญแจประตูลับใต้ดิน (Basement Key)

สปอย
การแสดงตุ๊กตาฉากนี้ เราจะได้รู้เฉลยในตอนหลัง ว่าแท้จริงแล้ว คือการสำเร็จโทษ อ.หยินและอ.ชาง นั่นเอง

เริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างอ.หยินและอ.ชาง

เดินกลับไปที่คุกใต้ดิน ให้เราใช้กุญแจที่พึ่งได้มา กับประตูบานที่อยู่ในสุด เราจะเข้าไปด้านในได้ จากนั้นเดินไปทางขวาเรื่อยๆ แล้วฉากจะตัดไปเป็นตอนที่เรานั่งคุยอยู่กับอาเว่ย จากบทสนทนา จะทำให้เรารู้ว่าฉากนี้คือฉากที่ไม่ได้เกิดขึ้นในตอนต้นเกม นั่นหมายความว่า เรย์และอาเว่ยรู้จักกันมาก่อนหน้านี้แล้ว (ก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องทั้งหมด) โดยในบทสนทนา จะมีประมาณว่า

อาเว่ยที่นัดเรย์มาคุยกัน เกี่ยวกับเรื่องชมรมอ่านหนังสือ ที่จะให้นักเรียนอ่านหนังสือต้องห้ามต่างๆ (หนังสือเกี่ยวกับคอมมิวนิสต์) และแน่นอนว่า ทั้ง 2 คน ก็อยู่ในชมรมนี้ด้วย ซึ่งจะมีอ.หยิน (ครูผู้หญิงที่เราเห็นในตอนเริ่มเกม) เป็นที่ปรึกษาชมรม และตัวของอาจารย์เองก็ชื่นชมความสามารถของเรย์ด้วยเหมือนกัน สุดท้ายเรย์จะถามอาเว่ยถึงความสัมพันธ์ของอ.หยินและอ.ชาง เพราะเห็นคุยกันบ่อยมาก แล้วฉากก็จะตัดไป

** จากบทสนทนา จะทำให้เรารู้ว่าอ.หยินนั้น มาจากครอบครัวที่มีอิทธิพล มีทั้งเงินทอง และเส้นสายต่างๆมากมาย **

ให้เราเดินต่อเข้าไปตามทาง แล้วฉากจะเปลี่ยนเป็น เราจะเดินเข้ามาในห้องเรียน ซึ่งจะมีจุดให้เราสำรวจเพื่อเก็บของ เราจะได้ รายชื่อสมาชิกของชมรมอ่านหนังสือ ที่ขึ้นมาเป็นรูปปืน แทนที่จะเป็นกระดาษ

สปอย
จากเนื้อเรื่องในตอนท้าย เราจะพบว่าเรย์เป็นคนที่เอารายชื่อไปให้กับนายพลไป๋ ซึ่งนั่นก็จะเป็นการเปรียบเปรยว่า การส่งรายชื่อให้เรย์ ก็เปรียบเหมือนกับยื่นปืนให้ เพื่อเอามายิงพวกชมรมอ่านหนังสือนั่นเอง

เมื่อเดินออกจากห้องเรียน เราจะโผล่มาอยู่ในส่วนหลังลูกกรงเหล็ก ให้เราเดินไปทางขวา จะเจอประตูที่เข้าได้ (อยู่บานเดียว) เข้ามาในห้องแล้ว เราจะเจอกระจกแขวนอยู่เต็มผนัง เดินต่อเข้ามาด้านใน เราจะเจออ.หยินนั่งอยู่ที่เก้าอี้ แต่เงาสะท้อนในกระจก จะเป็นผู้ชายถูกคลุมหัวอยู่

เรย์ จะถามอ.หยิน ว่ามาทำอะไรที่นี่ แต่อ.หยินจะตอบกลับมาว่า เธอจำไม่ได้หรอ ว่าทำอะไรลงไป เรย์ซึ่งจะจำอะไรไม่ได้จริงๆ จนอ.หยินถามกลับมาว่า จำไม่ได้จริงๆ หรือว่าไม่อยากจะจำกันแน่ (เป็นประโยคเดียวกับที่เราเคยได้ยิน ในตอนที่ไปดูกระจกในห้องน้ำ) แล้วอ.หยินจะอธิบายให้ฟังว่า เรื่องที่เกิดขึ้นก็เพราะเอกสาร ที่ทำให้ทุกคนต้องตาย ยกเว้นอ.หยิน เรย์ซึ่งตอนนี้จะเข้าใจว่าเรื่องที่ทุกคนต้องตายเป็นเพราะอ.หยิน (เพราะอ.หยินไม่ตาย) แต่สุดท้ายอ.หยินก็จะบอกว่า เป็นเพราะตัวเรย์เอง ทำไมพอมีปัญหาถึงไม่ยอมคุยกัน ทำไมต้องทำแบบนี้ แล้วเรย์ที่จะเกิดอาการสับสนได้ทิ้งตัวลงไป แต่เงาเรย์ในกระจก ดันถือปืนขึ้นมายิง ชายที่ถูกคลุมหัว แล้วภาพก็จะตัดไป

สปอย
อย่างแรกที่เราจะรู้ก่อนเลยก็คือ คนที่ถูกคลุมหัวในกระจกนั้น ก็คืออ.ชาง ซึ่งเนื้อเรื่องนี้จะถูกเปิดเผยในภายหลัง คนที่เรย์ต้องการจะเล่นงานคืออ.หยิน แต่คนที่รับเคราะห์คืออ.ชาง (เพราะเรย์ชอบอ.ชางแต่เข้าใจผิดคิดว่าอ.หยินและอ.ชางเป็นแฟนกัน เลยจะเล่นงานอ.หยิน)

พบเทพเจ้าประจำเมือง

กลับมาที่ฉากเดิม แต่กระจกในห้องแตกทั้งหมด รวมถึงอ.หยินที่หายตัวไป เรย์ซึ่งก็ยังเชื่ออยู่ว่า เป็นเพราะอ.หยิน ที่ก่อเรื่องขึ้น ให้เราเดินต่อเข้าไปเรื่อยๆ จนเรามาหยุดที่หน้า เฉิงหวง 城隍 : เทพเจ้าประจำเมือง เมื่อเรากดสำรวจ เรย์จะพูดกับตัวเองว่า แม่ของเธอ ชอบมาสวดมนต์ แล้วเอาเรื่องที่ไม่สบายใจต่างๆ มาบอก เรย์จะคิดว่ามันไร้สาระมาก (ด้วยความที่ไม่เชื่อในเรื่องพวกนี้) แต่ตอนนี้ เรย์ที่ตกอยู่ในภาวะจนตรอกจนไม่มีใครสามารถช่วยเหลือตัวเธอได้ (น่าจะเริ่มเชื่อเรื่องพวกนี้แล้ว เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เลยทำให้เข้าใจในสิ่งที่แม่ตัวเองทำลงไป)

จากนั้นฉากจะตัดมาให้เราเสี่ยง ปั่วโปย คือการเสี่ยงทายแบบจีน เมื่อเราถามคำถามแล้ว ทำการเสี่ยงทาย เพื่อดูว่าคำถามที่เราถามจะได้คำตอบจากองค์เทพเจ้าว่าอย่างไร (ประมาณเห็นด้วยหรือไม่) หรือหากอยากอ่านแบบละเอียดมากกว่านี้ ตามไปอ่านได้ที่นี่

แล้วจะมีตัวเลือกให้เราเลือกถาม ทั้งหมด 3 ข้อ (ซึ่งเราจำเป็นต้องเลือกทั้ง 3 ข้อเลย)

  • เรื่องความรัก – ฉันมีโอกาสที่จะได้ใช้ชีวิตกับคนที่รักไหม : คำตอบคือ ไม่มีทาง
  • เรื่องอนาคต – เรย์จะถามว่าในอนาคตนั้น จะได้ใช้ชีวิตตามที่ตัวเองต้องการไหม : คำตอบคือ (หัวเราะ) รู้อยู่แก่ใจแล้ว จะมาถามทำไม
  • เรื่องครอบครัว – พ่อแม่ที่ชอบทะเลาะกัน จะมีโอกาสกลับมาคืนดีกันไหม : คำตอบคือ คำตอบคือ (หัวเราะ) รู้อยู่แก่ใจแล้ว

หลังจากถามคำถามทั้ง 3 ข้อแล้ว เรย์จะรำพึงกับตัวเองว่า ทำไมโชคชะตาถึงต้องเล่นตลกด้วย หรือตัวเธอเองจะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่เกิดแบบนี้ แล้ว ปั่วโปย ก็จะตกมาที่หน้าของเรย์ พร้อมคำตอบที่ว่า ใช่แล้ว…..

เด็กที่ไม่เคยได้รับโอกาสให้เลือก จะถูกลดความไร้เดียงสาจนมันจางหายไป
เปรียบเหมือนชีวิตชั้นกลายเป็นม้าตัวหนึ่งในวงม้าหมุน ที่มันมีแต่ความสับสนจนชีวิตมืดมน
แต่ยิ่งชีวิตผ่านมาเท่าไหร่ วงม้าหมุนนั้นก็ยิ่งหมุนเร็วกว่าเดิม….จบ Chapter 2

Chapter 3

เริ่มฉากนี้มาให้เราเดินมาทางด้านขวา จะมีจุดให้เราเซพ และมีวิทยุที่เราสามารถปรับสัญญาณได้ โดยสัญญาณที่เราจะสามารถปรับได้ตอนนี้จะมี 2 ช่อง คือ 88(FM) และ 94(FM) เราสามารถปรับโดยที่ไม่ต้องตรงช่องสัญญาณก็ได้ แต่ขอให้ปรับแล้ว มีเพลงและมีไฟสีแดงขึ้น

คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปเต็ม

ขั้นแรกให้เราประบไปที่ประมาณ 88 ก่อน เมื่อออกจากหน้าปรับสัญญาณ ฉากก็จะเปลี่ยนมาเป็นห้องนอนของเราเอง เดินออกจากห้องนอน เราจะเห็นพ่อและแม่เรานั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าว เมื่อสำรวจสิ่งต่างๆในห้องนี้ เราก็จะได้ข้อมูลว่า แม่ของเรย์เป็นแม่บ้านทั่วไป ที่ไม่เคยปริปากบ่นหรือพูดอะไรเลย แม้จะเกิดเหตุผิดปกติ และพ่อของเรย์ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยกินเหล้าเลย (ในห้องนี้จะไม่มีอะไรน่าสนใจหรือเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง)

ให้เราเดินเข้าห้องถัดไป โดยเราจะสังเกตว่ารูปภาพที่แขวนอยู่ที่ผนัง จะมีรูปพ่อและแม่ของเราที่หันแบบแปลกๆ ให้เราเดินไปปิดไฟ แล้วเดินกลับมาสำรวจที่รูป เราจะเห็นว่ารูปเรามีน้ำตาไหลเป็นเลือด ออกจกาโหมดสำรวจ แล้วเราจะสามารถเก็บแก้วที่มีเลือดได้

คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปเต็ม

เดินกลับมาที่ห้องนอน แล้วปรับสัญญาณวิทยุไปที่ คลื่น 94 แล้วจะทำให้เราเห็นว่าฉากห้องนอนของเราจะเปลี่ยนไป จุดที่สำคัญคือกระปุกหมูจะหล่นลงมาแตก แต่ยังไม่ต้องสนใจตอนนี้ ให้เราเดินออกจากห้องนอน

เราจะมาอยู่ในห้องที่มีประตูอยู่เยอะมาก ให้เราสังเกตว่า จะมีเสียงเดิน และรอยเท้าที่จะเหยียบแอ่งน้ำ แล้วเดินต่อเป็นรอยเท้า ให้เราเอาเลือดที่ได้มา ไปเทใส่แอ่งน้ำ จากนั้นปิดไฟ (เดินไปทางขวาสุด จะเจอสวิตช์ไฟ) เดินกลับมาคอยดูรอยเท้าที่จะเดินเข้าประตู คราวนี้เราจะเห็นเป็นรอยเท้าสีแดงสะท้อนแสง ให้เราเดินตามรอยเท้า เข้าประตูไปเรื่อย (มันจะเข้าประตูสลับกันไป-มา)

จนเราโผล่เข้ามาในห้องที่มีเงาของเข็มฉีดยาเยอะๆ เดินเข้ามาด้านในจะเจอประตู และกระดาษที่ตกอยู่หน้าประตู เมื่อเก็บแล้ว เราจะพบว่ามันคือ กระดาษโฆษณาของนักสืบ ที่มีบริการสืบหาคู่รักที่คิดว่าจะนอกใจ

เดินเข้าประตูไป ก็จะเป็นห้องนอนของพ่อกับแม่ เมื่อสำรวจแล้วเราจะได้ข้อมูลว่า เมื่อก่อนเรย์จะได้ยินเสียงพ่อและแม่คุยกันก่อนนอน ด้วยความรัก แต่ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ที่พ่อเมาเหล้ากลับมาบ้านทุกครั้ง แล้วก็ไม่เคยจะคุยกับแม่อีกเลย ส่วนแม่ก็ทำได้เพียงนอนร้องไห้ทุกคืน

คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปเต็ม

เดินออกจากห้องนอนของพ่อกับแม่ (เดินมาฝั่งขวา เราจะสามารถออกนอกห้องได้) ที่ห้องนี้เราจะเจอนาฬิกา 3 เรือน ซึ่งก็จะหมายถึงพ่อ แม่ และเรย์ โดยปริศนานี้เราจะต้องปรับเข็มนาฬิกาของฝั่งพ่อและแม่ให้ตรง ซึ่งเบาะแสคือ รูปของพ่อกับแม่ เมื่อปิดไฟแล้ว จะมีรูปเข็มนาฬิกาขีดอยู่บนรูป (แต่เราจะต้องหมุนรูปพ่อกับแม่ให้ตรง ถึงจะสามารถอ่านเข็มนาฬิกาได้)

ให้เราหมุนนาฬิกาของพ่อ (ด้านซ้าย) ไปที่ 6:45 ส่วนของแม่ (ด้านขวา) หมุนไปที่เวลา 1:00 เมื่อทำสำเร็จแล้วนาฬิกาที่อยู่ตรงกลางจะกลายเป็นสีแดง แล้วเราจะสามารถเดินออกประตูด้านซ้ายมือได้

เมื่อเข้ามาแล้ว เราจะเจอห้องนอนของพ่อและแม่ที่แปลกไป สำรวจที่พ่อ เราจะได้ข้อมูลว่า มีครั้งนึง ที่พ่อเมามาก แล้วล้มอยู่ที่หน้าประตู เรย์ที่ทนไม่ได้เลยเข้าไปช่วย ซึ่งตัวพ่อจะเหม็นกลิ่นเหล้ามาก แต่นอกจากกลิ่นเหล้าแล้ว ก็ยังมีกลิ่นแป้งของผู้หญิงอื่นอีกด้วย (หมายความว่าพ่อของเรย์น่าจะมีชู้จริงๆ)

เดินกลับไปที่ห้องนอนของเรา (ออกจากห้องนอนพ่อและแม่ เข้ามาในห้องที่มีเงาของเข็มฉีดยาแล้วเลี้ยวซ้าย) ปรับสัญญาณวิทยุไปที่คลื่น 88 อีกครั้ง เดินไปที่ห้องที่แขวนรูปเยอะๆ แล้วเราจะเห็นว่าประตูทางซ้ายมือสามารถผ่านไปได้แล้ว

เดินเข้าประตูมา แล้วเดินมาตามทาง เราจะเห็นเงาของคนที่นั่งอยู่ จนสุดท้ายภาพจะตัดมาที่ห้องในโรงเรียน (น่าจะเป็นห้องที่ประเมิณสภาพจิตใจของเรย์) แล้วอ.ที่กำลังคุยกับเรย์อยู่ก็คือ อ.ชางนั่นเอง (อ.ชางเป็นหนึ่งในครูที่ปรึกษาของชมรมอ่านหนังสือ และเรย์ก็สงสัยความสัมพันธ์ระหว่างอ.หยินและอ.ชางด้วย) อ.ชางที่ดูเหมือนจะใช้อุบาย ที่เรย์สนใจเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในต่างประเทศ (ซึ่งอ.ชางก็เคยอยู่ต่างประเทศมาก่อน) สุดท้ายอ.ชางจะนัดเรย์ออกไปเที่ยวกันในวันหยุด

เมื่อจบบทสนทนา สำรวจบนโต๊ะ เราจะได้เครื่องบินกระดาษ ออกจากห้องพักอาจารย์ แล้วเดินกลับห้องนอนของเรา แต่ระหว่างที่เราเดินกลับนั้น เราจะได้กระดาษโน๊ต ในห้องกินข้าว ซึ่งมีข้อความว่า มีสถานีวิทยุเปิดใหม่ที่คลื่น 103.0

คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปเต็ม

กลับเข้าห้องนอนเราแล้ว ปรับสัญญาณวิทยุไปที่คลื่น 103.0 ซึ่งตอนนี้เราก็จะยังคงอยู่ในห้องนอนของเราอยู่ แต่มันจะแปลกไปจากเดิมมาก

ให้เราออกจากห้อง แล้วเราจะเข้ามายังห้องที่มีกระจกแตกๆอยู่ เมื่อปิดไฟ เราจะเห็นเงาในกระจก สะท้อนเป็นคนใส่หมวก ปริศนาตรงนี้ คือการปิดไฟ เฉพาะบานที่มีเงาคนใส่หมวก ที่เดินไปทางเดียวกับเราเท่านั้น (อันไหนที่เดินคนละฝั่งให้เปิดไฟไว้เหมือนเดิม) หากใครแก้ปริศนาไม่ได้ก็ดูตามรูปด้านบนได้เลย

เมื่อเข้าประตูมาแล้ว เราจะเข้ามาที่ห้องหนึ่ง (คาดว่าจะเป็นห้องทำงานของพ่อเรย์) ให้เดินผ่านห้องนี้เข้าประตูถัดไปได้เลย เข้ามาในห้องถัดไป ให้เราสำรวจเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ เราจะได้เหรียญ จากนั้นเดินกลับไปที่ห้องนอน แล้วหมุนปรับสัญญาณวิทยุไปที่คลื่น 88.0 แล้วเอาเหรียญที่พึ่งเก็บได้ไปหยอดใส่กระปุกหมูไว้

เธอกำลังมีความรัก

จากนั้นหมุนปรับสัญญาณวิทยุอีกครั้ง คราวนี้หมุนไปที่คลื่น 94.0 สำรวจตรงที่มีเศษกระปุกหมูแตก เราจะได้ตั๋วหนังมา แล้วหมุนวิทยุกลับไปที่ 103.0 อีกครั้ง ครั้งนี้ให้เดินผ่านห้องที่มีผ้าแขวนอยู่ ด้านนอกเราจะเห็นฉากเป็นสีสันสวยงาม เปรียบเหมือนความรักครั้งแรกที่มีสีสัน (สิ่งต่างๆที่เห็นคาดว่าน่าจะเป็นสิ่งของและสถานที่ต่างๆที่ได้ไปเที่ยวกับอ.ชาง) ซึ่งแน่นอนสุดทางเดินก็คือ ตู้ขายตั๋วหนัง ที่เรย์ได้นัดกันมาดูกับอ.ชางนั่นเอง

หลังจากดูหนังกันจบ เราจะได้สร้อยคอหยก (แปลว่าอ.ชางเป็นคนซื้อให้) ซึ่งก็คือสร้อยที่เรย์ให้อาเว่ยช่วยหาในตอนแรกนั่นเอง เดินออกจากโรงหนัง แล้วกลับมาที่ห้องนอนของเรา โดยระหว่างที่เราเดินผ่านห้องทำงานของพ่อ (เราจะเห็นคนใส่หมวกแปปนึง นั่นเปรียบว่า แท้จริงแล้ว เราคือคนที่โดนนักสืบตามสืบเรื่องชู้สาวด้วย โดยคาดว่าอ.หยินจะเป็นคนส่งมาสืบอ.ชางนั่นเอง) ที่กลางห้องทำงานของพ่อ จะได้เอกสารที่มีแต่ส่วนบน ปรากฎว่าพ่อโดนตำรวจจับตัวไปเพราะความผิดร้ายแรง แต่สิ่งที่ทำให้เรย์รู้สึกสงสัยคือ รอยยิ้มที่มีบนหน้าของแม่เรย์นั่นเอง

เมื่อกลับมาถึงห้องนอนเราแล้ว เราจะเจอสมุดการบ้านตกอยู่ที่พื้น เก็บแล้ว เดินไปปรับวิทยุให้ไปที่คลื่น 93.0 แล้วเดินไปห้องทำงานของอ.ชางเพื่อเอาการบ้านไปส่ง (วิธีเดินไปคือ ออกจากห้องนอน แล้วที่ห้องที่มีเงาของเข็ม ให้เดินเข้าประตูที่อยู่สุดทางเดินด้านขวา) เข้ามาแล้วเราให้เดินไปทางซ้ายเรื่อยๆ ระหว่างทาง เราจะเจอภาพปลาทองที่กำลังโดนกรีด จนสุดท้ายเหลือแต่ก้าง น่าจะเปรียบถึงความสัมพันธ์ กับอ.ชาง ที่เริ่มจะไม่สวยหรูเหมือนเดิมแล้ว หรือแปลง่ายๆคือ อาจจะโดนหลอกฟันแล้วทิ้งนั่นเอง

เดินมาถึงโต๊ะอ.ชางแล้ว ให้เอาสมุดการบ้านไปส่ง แล้วอ.ชางจะพูดกับเรย์ด้วยประโยคที่ดูเย็นชามาก เหมือนไม่เคยเกิดเรื่องอะไรมาก่อนเลย สุดท้ายอ.ชางจะไล่เรย์ให้กลับไปเรียนต่อ แล้วร่างของอ.ชางก็หายไป สำรวจบนโต๊ะ จะได้เอกสารการประเมิน ซึ่งทำให้เรย์รู้แน่ชัดแล้วว่าเรื่องทุกอย่างมันจบลงแล้ว (อกหักแน่ๆ)

ชีวิตหรือบทละคร

เดินกลับมาที่ห้องนอนเรา แล้วเราจะกลับไปยังห้องที่มีจุดเซพ (ห้องตอนเริ่ม Chapter 3 เลย) จากนั้นเดินเข้าไปยังประตูที่มีผ้าม่านแง้มอยู่ เราจะโผล่มาที่บนเวที ที่มีฉากเป็นห้องนอนของเรา ให้เราเอาเครื่องบินกระดาษ ไปให้เงาที่อยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือ เราจะได้บทกวีมา 1 บท

แก้วที่เต็มไปด้วยสีที่น่าสะอิดสะอียน
มันล้นด้วยความน่ารังเกียจของคน
จานและถ้วยที่กระทบกับกำแพง
มาพร้อมกับเสียงตะโกนของพ่อ

หลังจากความทุกข์เอ่อล้นเข้ามา
จนน้ำตาของแม่ไหล
ครอบครัวที่เคยมีความสุข
เมื่อทุกคนอยู่พร้อมหน้ากัน

และตอนนี้ ทุกคืนที่หลับไม่ลง
ทุกเช้าที่ไม่อยากจะตื่น
ผ่านไปวันแล้ววันเล่า
ความเจ็บปวดที่ขุดลงไปทุกวัน

ตัวชั้นเหมือนแตกเป็นเสี่ยงๆ
กระจกที่สะท้อนความเป็นจริงถูกทำลาย

สภาพจิตใจที่ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ
เหมือนถูกพัดไปด้วยกระแสน้ำแห่งความสิ้นหวัง

ล่องลอยไปเหมือนไม่สนใจอะไร ตลอดช่วงชีวิตที่เหลืออยู่…….

ฉากต่อไปจะเป็นเงาที่เดินมาเกาะอยู่ที่หน้าต่าง ให้เราเอาสร้อยหยกไปให้ ก็จะได้กลอนบทต่อไป

สิ่งที่คาดหวังเมื่อเราได้เจอกันนั้น คือการเดินไปด้วยกัน
เดินท่องผ่านป่านีออน และแสงไฟที่ระยิบระยับ

ชั้นเริ่มที่จะกลับมามีรอยยิ้ม
เปรียบเหมือนในทุ่งดอกไม้ ที่มีผีเสื้อบินไปมาอย่างมีความสุข ซึ่งก็คือชั้นที่ได้อยู่ข้างๆคุณ

ชั้นเป็นนักแสดงในละครของเรา นานพอ ก่อนที่ผ้าม่านจะถูกเปิดออก
มันเหมือนสิ่งที่คอยปลอบโยน และล้อมรอบด้วยความรักของคุณ
ฟังเสียงกระซิบจากคุณ และเสียงลมหายใจของกันและกัน

แล้วกวางขาวก็เดินเข้ามาในใจฉัน
ช่างเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ ช่างเป็นโชคชะตาที่พลิกผัน ช่างเป็น…..
ฉันอยากจะเก็บช่วงเวลานี้ไว้ให้อยู่กับฉันตลอดไป.

มาถึงฉากสุดท้าย กับการแสดงบนเวทีนี้ ให้เราเอาใบประเมินไปให้เงานที่นั่งอยู่บนเตียง

แล้วทันใดนั้น เราก็ไม่ได้พเจอกันอีก
เราเหมือนเป็นคนที่ห่างไกลกันทีละน้อยๆ
บรรยากาศรอบตัวชั้น รู้สึกว่ามันหนาวเย็นขึ้นมาทันที
และร่างกายที่รู้สึกแช่แข็งนั้น กลับทำให้หัวใจเต้นแรง จนแทบจะฉีกร่างของชั้น

เป็นอีกครั้งที่ชั้นรู้สึกอ้างว้าง
ในบ้านที่ชั้นเรียกว่าบ้าน ในพื้นที่ที่ชั้นเรียกว่าโรงเรียน
มันเหมือนศพที่เดินโดยไร้จิตใจ เหมือนความรู้สึกที่จมด้วยความหวาดระแวง

อารมณ์ชั่ววูบ

เมื่อจบการแสดงแล้ว จะมีประตูปรากฎขึ้นมา เมื่อเราเดินไปเปิด เราก็จะได้ยินบทสนทนาระหว่างอ.หยินและอ.ชาง ซึ่งอ.หยินเหมือนจะโกรธอ.ชางมาก โดยบทสนทนาจะเป็นเรื่องที่อ.หยินจับได้ว่าอ.ชางแอบไปมีอะไรกับเรย์ แล้วสุดท้ายอ.ชางก็จะบอกกับอ.หยินว่าอย่ามายุ่งเรื่องส่วนตัว แต่อ.หยินจะบอกว่า ตอนนี้เราลงเรือลำเดียวกันแล้วนะ

** จากบทสนทนานี้ อาจจะสรุปได้ว่า อ.หยินและอ.ชาง อาจจะไม่ได้เป็นคู่รักกัน แต่แค่เป็นเพื่อร่วมอุดมการณ์ ที่จะต่อต้านการจำกัดสิทธิ์ในสมัยนั้น **

ความทรงจำที่เจ็บปวด …
วิญญาณของฉันแตกเป็นเสี่ยง ๆ
เมื่อฉันไม่สามารถดึงสติตัวเองได้จึงทำให้ลืมในทุกสิ่ง
ฉันลืมตามาแล้วได้เจอกับโลกที่มืดมน

จบ Chapter 3

Chapter 4

คลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปเต็ม

เริ่ม Chapter นี้ด้วยฉากในหอประชุม เราจะเห็นชายแก่ยืนอยู่ตรงเก้าอี้บนเวที แล้วเดินออกไป จากนั้นจะปรากฎร่างของเรย์ (ที่คาดว่าน่าจะเป็นวิญญาณเรียบร้อยแล้ว) ให้เดินเข้าห้องเก็บของด้านซ้ายมือ เมื่อเข้าไปแล้วเราจะเจอกับเงา ให้เราเดินเข้าไปคุย จะมีข้อความขึ้นมาว่า “แม้ชีวิตของเราจะสลายไปแล้ว แต่ความผิดเรายังคงอยู่”

เงาจะบอกกับเรย์ว่าคือตัวเรย์เอง แต่เรย์ในตอนนี้จะยังไม่ใช่เงา (คาดว่าในพาทนี้น่าจะเป็นการหาความจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่าทำไมเรย์ถึงจำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย) ข้อความหลังจากนี้จะบอกอีกว่า เรย์เป็นสร้างบาป ก่อความผิดร้ายแรงมาก จากนั้นเงาก็จะถามคำถามว่าในโลกที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและทรมาน สิ่งที่กลัวที่สุดคืออะไร

** การตอบคำถามในบทความนี้ จะตอบเพื่อให้ได้ฉากจบแบบ Good Ending หากใครต้องการฉากจบแบบ Bad Ending สามารถอ่านได้จาก (Detention – ฉากจบแบบ Bad Ending) **

  • เสียครอบครัว
  • เสียชีวิต
  • เสียความเป็นตัวของตัวเอง [ให้เลือกข้อนี้]

หลังตอบคำถามเสร็จ เราจะได้บังคับเป็นเงาแทน (ตัวเป็นเรย์เหมือนเดิม แต่ฉากจะเป็นภาพในอดีต) ออกจากห้อง แล้วให้เราเดินขึ้นไปชั้น 2 เข้าที่ประตูแรก เราจะเจอกับร่างสว่าง โดยร่างนี้จะอธิบายว่า ทางด้านหน้านี้ คืออดีตที่ผ่านมา ที่ดูเหมือนจะถูกตัดขาด (ที่เราจำไม่ได้) หาหนทางไปข้างหน้าให้ได้ โดยร่างทั้งสองนี้จะเป็นเหมือนกับเงาที่จะติดตัวไปด้วยกัน (ซึ่งก็คือปริศนาที่เราจะต้องแก้ คือการหาหนทางให้ร่างเงาดำไปอยู่อีกฝั่งให้ได้นั่นเอง)

ช่วยเรย์ตามหาความจริง

ให้เราสลับร่างไปยังร่างเงาก่อน แล้วเดินออกจากห้องนี้ เดินไปทางขวามือ เข้าประตูที่อยู่ตรงกลาง เราจะเห็นเงาคนแก่แว่บๆ ให้เดินตามเข้าไป เราจะเข้ามาในห้องชมรมอ่านหนังสือ ที่แอบอ่านหนังสือต้องห้าม แล้วจะได้มาเห็นเหตุการณ์ ที่อ.หยินและอาเว่ยคุยกันเกี่ยว เรื่องหนังสือต้องห้าม ที่บริษัทขนส่งจะนำเข้ามาไม่ได้แล้ว แต่อ.ชางจะพยายามหาทางเอาหนังสือเข้ามาให้ได้

หลังจบฉากในห้องชมรมอ่านหนังสือแล้ว ฉากจะเปลี่ยนกลับมาเป็นภาพขาว-ดำเหมือนเดิม แล้วจะมีเศษกระดาษวางอยู่ที่เก้าอี้ โดยจะเป็นเนื้อหาข่าวในหนังสือพิมพ์ เมื่ออ่านแล้ว จะทำให้เรารู้ว่า อ.หยิน ที่มีโทษประหารชีวิต ในตอนที่ถูกจับ ได้หลบหนีไปได้ และในขณะที่เธอไปอยู่ต่างประเทศ ก็ได้มีการพยายามเรียกร้องสิทธิและอิสรภาพอยู่ตลอด จนสุดท้ายเธอตายด้วยโรคมะเร็งเมื่อตอนอายุ 50 ปี และสุดท้ายหลังจบเหตุการณ์ในไต้หวัน (ช่วง White terror) เธอก็ได้กลับบ้าน ด้วยสภาพที่เป็นอัฐิ (ตามในรูปข่าวเลย คือคนถืออัฐิของอ.หยิน)

แก้ปริศนาร่างเงา

จากนั้นให้เราออกมาจากห้อง แล้วกลับไปที่ห้องเรียน ให้เราไปสลับตัวกับร่างสว่าง (ฉากโรงเรียนจะเป็นยุคปัจจุบัน ที่เป็นโรงเรียนร้าง) เมื่อสลับร่างสว่างแล้ว ให้เราออกจากห้องเรียน แล้วเดินไปทางขวา ลงบันไดไปชั้น 1 จากชั้นให้เราเดินขึ้นบันไดที่ฝั่งซ้ายมือ (เดินวนขวานั่นแหละ) แล้วเดินกลับเข้ามาที่ห้องเรียน เราจะเห็นเงาของเรา จะไปยืนอยู่ที่ด้านหลังห้องเรียน (เป็นการแก้ปริศนาที่ทางขาด)

เมื่อเดินไปคุยกับเงาแล้ว จะมีข้อความขึ้นว่า ในตอนที่เรย์มาสมัครเข้าเรียนที่นี่ เรย์เป็นเด็กที่เก่งมาก ทุกๆคน รวมไปถึงอาจารย์ต่างชื่มชมในความสามารถของเรย์ แต่เนื่องจากปัญหาทางบ้าน ทำเรย์ที่เป็นเด็กเก่งเป็นที่น่าจับตามอง กลับตาลปัตร จนเรย์รู้สึกว่า ไม่อยากจะให้ใครมาสนใจเธอ เพราะกลัวทุกๆคน จะรู้ว่าที่บ้านเธอมีปัญหา แล้วก็จะมีคำถามขึ้นมาให้เราเลือก (ถามว่า เธอจึงเลือก)

  • เลือกที่จะหนี [ให้เลือกข้อนี้]
  • เลือกที่จะเป็นคนตาบอด (ทำเป็นไม่สนใจอะไร)
  • เลือกที่จะยอมรับความจริง

ให้เราสลับตัวเป็นร่างเงา แล้วเดินออกนอกห้อง (ทางประตูหลัง) ฉากก็จะเปลี่ยนมาเป็นฉากที่อาเว่ยและเพื่อนในชมรมอ่านหนังสือ กำลังเผาหนังสือต้องห้ามกันอยู่ โดยจะเป็นเหตุการณ์หลังจากที่อ.ชางและอ.หยินถูกจับไปแล้ว เพราะจะมีบทสนทนาที่คุยกันถึงอ.หยินที่ได้หลบหนีไปแล้ว แต่เด็กทั้งสองไม่สามารถหนีไปไหนได้ (เพราะบ้านอ.หยินมีอิทธิพล และมีเส้นสายจึงทำให้สามารถหนีไปต่างประเทศได้)

** และประโยคเด็ดจะอยู่ที่ประโยคสุดท้ายคือ เพื่อนของอาเว่ย จะพูดว่า สิ่งที่ต้องกังวลที่สุดก็คือเรื่องรายชื่อของคนในชมรมอ่านหนงสือที่ถูกเปิดเผย นายรู้ไหมว่าใครเป็นคนทำ แต่อาเว่ยจะบอกให้หยุดพูดแล้วรีบทำลายหลักฐานต่อ **

เมื่อเราสามารถบังคับเรย์ได้แล้ว ให้เราเดินเข้าไปด้านใน จะเจอกระดาษวางอยู่ที่ศาลเจ้า โดยจะเป็นเอกสารจากศาล เนื้อความส่วนหนึ่งซึ่งตัดสินให้อ.ชางถูกประหารชีวิต ในข้อหาเป็นผู้นำกลุ่ม ส่วนอาเว่ยและนักเรียนที่เหลือมีโทษจำคุก 15 ปี ในข้อหาเข้าร่วมขบวนการ (นั่นหมายความว่า อาเว่ยยังไม่ตาย ซึ่งก็คือคนแก่ที่เราเจอนั่นแหละ)

เดินออกจากที่นี่ แล้วเราจะเห็นชายแก่อีกครั้ง (อาเว่ยนั่นเอง) ให้เราเดินตามไป จนถึงห้องน้ำชาย เข้ามาแล้วเราจะพบว่าภายในห้องน้ำ มีประตูบานหนึ่งถูกไม้กวาดกั้นเอาไว้ทำให้คนที่อยู่ข้างในออกมาไม่ได้ และจะมีแผ่นกระดาษแปะไว้ว่า ผู้ส่งสาร

**ตรงนี้ (จากการคาดเดา) ปรากฎว่าอาเว่ย ที่ถูกเพื่อนๆ เข้าใจว่า เป็นคนเปิดเผยรายชื่อของคนในชมรมอ่านหนังสือ ได้ถูกเพื่อนๆ เอามาขังไว้ในห้องน้ำ พร้อมทั้งแปะกระดาษที่แปลว่าผู้ส่งสาร (ประมาณว่า ผู้ที่เปิดเผยความลับต่างๆ)**

ชายอีกคนที่มารักเธอ

ให้เราเอาไม้กวาดออก แล้วเข้าไปด้านในเราจะโผล่มาอีกฉาก (น่าจะเป็นในโรงเรียนแต่ฉากจะบิดเบี้ยว) เดินเข้ามาตามทาง เราจะได้ยินเสียงเปียนโน เดินเข้าประตูมาก็จะเป็นห้องดนตรี ที่ข้างใน เราจะเจออาเว่ยในวัยแก่ กำลังเล่นเปียนโนอยู่

เมื่อเข้าไปสำรวจ แล้วฉากก็จะกลายเป็นภาพขาว-ดำอีกครั้ง แล้วเราจะเห็นเศษกระดาษที่วางอยู่บนเก้าอี้ ซึ่งเมื่ออ่านดูจะทำให้เรารู้ว่า คือข้อความที่อาเว่ยเขียนทิ้งไว้ โดยใจความจะเข้าใจประมาณว่า เรย์ซึ่งเป็นผู้หญิงที่อาเว่ยแอบชอบ เกิดความกลัว จนหนีไป ทิ้งให้อาเว่ยที่กำลังสับสน ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆ จนถึงวันที่ได้ออกมาเห็นแสงตะวัน ผู้หญิงที่รัก และอาจารย์ที่เคารพ ก็ได้ไปสวรรค์กันหมดแล้ว ปล่อยให้ชั้นเป็นคนที่หมดแรงอยู่ตรงนี้

** อาเว่ยที่เข้าใจว่า เรย์ (คนที่แอบชอบ) และอ.หยิน ต่างหาทางหนีไปได้ จนตัวเองต้องถูกจับเข้าคุก แต่เมื่อพ้นโทษออกมาแล้ว กลับพบว่าผู้หญิงทั้งสองนั้นได้ตายไปกันหมดแล้ว จนรู้สึกว่าตอนนี้อาเว่ย ไม่เหลือใครอีกเลย **

ออกจากห้องนี้ แล้วเดินมาทางซ้าย เข้าประตูแรก เราจะเจอกับจุดเซพ แต่เมื่อออกจากห้องเราจะมาโผล่อีกจุดนึง (ไม่ใช่ตอนที่เราเดินเข้า) ให้เดินไปทางซ้าย แล้วเข้าประตูที่อยู่ใกล้ๆกับบันได เข้ามาแล้วเราจะต้องแก้ปริศนาร่างเงาอีกครั้ง โดยทำตามขั้นตอนดังนี้

  • ให้เราเปิดสวิตช์ไฟที่อยู่ใกล้ๆประตูก่อน
  • จากนั้นเดินมาสลับร่างกับร่างเงา
  • เดินเข้ามากดสวิตช์ไฟอีกอันที่อยู่ด้านใน
  • เดินไปสลับร่างกับร่างสว่าง
  • เดินมาปิดไฟ ที่สวิตช์ที่อยู่ใกล้กับประตู (สวิตช์อันแรก)
  • จากนั้นเดินเข้าด้านใน จนมาหยุดที่กองไม้

จะทำให้เราสามารถคุยกับร่างเงาได้ แล้วจะมีคำถามขึ้นมาให้เราเลือกอีกครั้ง “ลงมือทำทันที เมื่อเรามีความเชื่ออย่างนั้น” คือปรัชญาที่เรย์ใช้ยึดเหนี่ยวจิตใจ และอีกสิ่งคือ เราจะต้องเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตของตัวเอง ซึ่งร่างเงาก็จะถามเรย์ว่า ในตอนที่เธอตามเค้าไป เธอคิดอะไรอยู่

  • อยากจะกำหนดชะตาชีวิตตัวเอง [ให้เลือกข้อนี้]
  • ไม่อยากสนใจอะไรแล้ว
  • ยอมรับในโชคชะตา

หลังตอบคำถามจบ ให้เราเดินเข้าประตูถัดไป แล้วเดินมาทางขวา จะมีทางให้เราเดินไปต่อ (เข้าประตูโค้งตรงกลาง) แล้วจะมีข้อความขึ้นมาว่า “ไม่ว่าเหตุการณ์นี้จะกลับมาอีกสักกี่ครั้ง ก็ไม่สามารถลบรอยแผลที่เกิดขึ้นได้เลย เธอไม่สามารถแก้ไขอดีตของตัวเองได้”

เรานั่นเองที่ฆ่าคนอื่น

แล้วฉากจะตัดมาที่เหตุการณ์ที่เรย์เอารายชื่อของคนในชมรมอ่านหนังสือ ไปให้นายพลไป๋ แล้วเราก็จะได้ยินประโยคที่เราเคยได้ยินมาก่อนหน้านี้ นั่นก็คือ “คุณฟาง ประเทศขอขอบคุณในความช่วยเหลือของคุณ” เมื่อเราบังคับเรย์ได้แล้ว ให้เราเดินเข้าไปคุยกับร่างเงา

แล้วร่างเงาจะพูดกับเราว่า เธอคิดว่าการทำอย่างนี้จะทำให้หนีจากความกลัวไปได้ ในวันนึง เค้าก็ต้องไปอยู่ดี และเมื่อวันนึงที่เธอสูญเสียทุกอย่างที่จะยึดเหนี่ยวไว้ได้ เธอจะเลือก

  • ยอมรับ
  • พยายามทำให้เค้ากลับมา [ให้เลือกข้อนี้]
  • ไม่สนใจ

จากนั้นเดินกลับเข้าประตูมา แล้วเดินตามอาเว่ยในวัยแก่ไป เราจะขึ้นมาที่ดาดฟ้า เราจะเห็นอาเว่ยมายืนสูบบุหรี่อยู่ ให้เรากดสำรวจที่อาเว่ย แล้วภาพก็จะกลายเป็นขาว-ดำ เดินกลับลงมาด้านล่าง

** ในขณะที่เราลงมาด้านล่าง หากเราเจอเครื่องบินกระดาษ นั่นหมายความว่า เราจะได้ดูฉากจบแบบ Good Ending แต่ถ้าตอนลงบันไดมาเราเจอกับร่างเงาของเรา เราจะได้ดูฉากจบแบบ Bad Ending ซึ่งบทสรุปที่จัดทำขึ้นนี้ จะมีฉากจบแบบ Good Ending (สามารถอ่านเนื้อหาด้านล่างต่อได้เลย) ส่วนใครที่อยากจะเล่นจบแบบ Bad Ending สามารถอ่านเพิ่มได้จากที่นี่ **

ฉากจบ แบบ Good Ending

ระหว่างทางเราจะเจอเครื่องบินกระดาษตกอยู่ ที่คาดว่าจะเป็นจดหมายลาตายของเรย์ เนื้อความว่า “จากกวางสีขาว เปลี่ยนเป็นดอกแดฟโฟดิล โชคชะตาทำให้เราต้องแยกจากกัน ขอให้เราได้เจอกันอีกในชาติหน้า สู่อิสรภาพของพวกเรา”

เดินลงมาถึงชั้นล่าง แล้วเดินเข้าประตูไป ฉากจะตัดเป็นข้อความ ที่ทหารได้มาทำการเคาะประตูเพื่อจับอ.ชาง แล้วภาพก็จะตัดมาที่โต๊ะทำงานของอ.ชาง ที่กำลังตัดพ้อกับตัวเอง ถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะถูกจับ ซึ่งคราวนี้น่าจะหนีไปไมไ่ด้แล้ว จึงได้เอ่ยออกมาว่า ทำไม มนุษย์เราถึงไม่มีอิสระในการใช้ชีวิต ตามที่เราต้องการได้ พูดสิ่งที่เราคิด โดยปราศจากความกลัวได้ มีความรัก หรือทำในสิ่งที่อยากทำได้ (แล้วอ.ชางจะหันมามองเรย์) พร้อมกับบอกว่าโลกคงยังไม่พร้อม กับสิ่งที่เราทั้งสองได้ทำ

**บางทีแล้ว อ.ชางอาจจะรักกับเรย์จริงๆ แต่ด้วยหน้าที่ ที่ให้ไว้กับอ.หยิน ที่จะต่อต้านกาเมืองในสมัยนั้น เลยทำให้ต้องยุติความรัก เพราะหน้าที่และอุดมการณ์ต้องมาก่อนนั่นเอง**

หลังจากนั้นฉากจะตัดไปเป็นเราจะได้บังคับเป็นอาเว่ยในวัยแก่ ที่กำลังเดินเข้ามาในเขตโรงเรียน (ตรงสะพานที่ขาดในตอนแรก) ให้เราเดินไปทางขวา

จะผ่านป้อมยาม ที่ดูสภาพแล้วเหมือนถูกทิ้งร้างมานาน เดินมาอีกเล็กน้อย เราจะผ่านยายแก่คนหนึ่ง (ซึ่งเป็นคนเดียวกับตอนที่เราเจอในฉากตอนที่เราตาย) จะพูดกับเราว่า เธอคนนั้นติดอยู่ ระหว่างสวรรค์และนรก วนเวียนอยู่ในรูปแบบเดิมๆ คนเดียวโดยไม่มีที่สิ้นสุด น่าเวทนาเหลือเกิน…..

เดินต่อเข้ามาด้านในจนเข้ามาถึงหอประชุม ให้เราเดินผ่านเพื่อออกไปยังประตูด้านขวา (ระหว่างนี้ ก็จะมีเครดิตขึ้นมาเรื่อยๆ) ออกจากหอประชุมแล้วเดินไปทางขวา เพื่อเข้าไปยังตึกเรียน

** สภาพโรงเรียนเหมือนถูกปิด และถูกปล่อยทิ้งร้างมานาน **

ให้เราเดินขึ้นไปชั้น 2 เพื่อกลับไปยังห้องเรียนของเรา (มีห้องเดียวที่เราสามารถเดินเข้าไปได้) เมื่อเข้ามาแล้ว ให้เดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ ที่อยู่กลางห้อง แล้วเราก็จะได้เห็นวิญญาณของเรย์ มานั่งด้วยกัน และจบ….แบบ…Good Ending

บทสรุป ส่งท้าย เนื้อเรื่อง Detention

การจบแบบนี้ (แบบ Good Ending ) เราจะไม่ได้รู้เรื่องราวหรือที่มาที่ไปของเรย์เท่าไหร่ แต่สิ่งที่เราจะรู้เพิ่มขึ้นคือ ข้อมูลในสมุตโน๊ตของอาเว่ย ในตอยท้าย ที่จะมาเอกสารต่างๆ เพิ่มเข้ามามากกว่าฉากจบอีกแบบ

และเนื้อหาในตอนที่ เรย์ได้เข้าไปเจออ.ชางในฉากสุดท้าย ก่อนที่อ.ชางจะถูกจับตัวไป ทำให้เรารู้ว่า แท้จริงแล้ว อ.ชางก็รักเรย์เหมือนกัน แต่ด้วยวัฒนธรรมในตอนนั้น กับเรื่องอุดมการณ์ที่ให้ไว้กับอ.หยิน ในเรื่องการสนับสนุนคอมมิวนิสต์ ทำให้เรย์เข้าใจผิด คิดว่า อ.ชางกับอ.หยินเป็นแฟนกัน (หรือพูดง่ายๆว่า เหมือนโดนอ.ชางหลอกฟัน) จนเป็นที่มาของเรื่องทั้งหมด ที่เรย์ตัดสินใจที่เอารายชื่อไปให้นายพลไป๋ ด้วยหวังว่าจะเล่นงานอ.หยิน แต่กลับทำให้ชายที่ตัวเองรัก อย่าง อ.ชางต้องตาย

ใครที่อยากเสพเนื้อเรื่องในฝั่งของเรย์เพิ่มสามารถไปอ่านได้ที่ Detention – ฉากจบแบบ Bad Ending และ เปิดบันทึกลับของอาเว่ย (Wei’s Notebook)

ส่วนคำแปลเอกสารของอาเว่ย ขอติดไว้ก่อนนะครับ ไว้มีเวลาว่างๆ ค่อยมาแปลให้ฟังครับ

Related posts