หลังจากที่เราปะทะกับอาเคียน ยักษ์ไตตั้นในตอนที่แล้ว (Final Fantasy XV – Chapter 4 – Living Legend) เราจะได้รับความช่วยเหลือจาก อาดีน นายกของฝ่ายจักวรรดิ ให้สามารถหนีออกมาจากพื้นที่ ที่กำลังจะระเบิด
มาถึงใน Chapter 5 – Dark Clouds จะมีภารกิจย่อย ทั้งหมด 3 ภารกิจ คือ
เมื่อเข้า Chapter 5 แล้ว ฉากจะเริ่มต้นที่ การรายงานข่าวเรื่องที่พวกจักวรรดิ ได้ทำการปิดล้อมเมืองและตั้งด่านตรวจจับ เพราะยังมีพวกกบฏหลงเหลืออยู่ และอีกข่าวคือ ข่าวแผ่นดินไหวที่ Duscae โดยเกิดจากอาเคียน ยักษ์ในตำนานที่ถูกปลุกขึ้น ซึ่งตอนนี้ได้กลับมาสงบแล้ว แต่ยักษ์ได้หายไปจากวงแหวนแล้ว (น่าจะกลายเป็นมนต์อสูรให้กับน็อคทิสเรียบร้อยแล้ว)
The Hexatheon’s Blessings
ตัดกลับมาที่พวกของน็อคทิส ที่ตอนนี้ได้มาอยู่ที่ฟาร์มโชโคโบะ จะคุยกันถึงเรื่องรถที่หายไป ตอนไปที่วงแหวน ซึ่งจากบทสนทนาที่คุยกัน จะทำให้เรารู้ว่า ซินดี้ กำลังสืบข่าวตามหารถของเราให้อยู่ (ที่คาดว่าพวกจักวรรดิจะเป็นคนเอารถพวกเราไป)
หลังจากคุยกันจบ เราจะเจอ อัมบร้า (Umbra) หมาที่เราเจอใน Chapter แรก ให้เราวิ่งตามมันไป จนภาพจะตัดเป็นคัทซีน เราจะได้เจอกับ เกนเทียน่า (Gentiana) คนสนิทขององค์หญิงลูนาเฟย่า จะมาส่งสาส์นบอกถึงเส้นทางที่จะไปหาเทพแห่งสายฟ้า โดยหลังจากจบข้อความ ภาพของเกนเทียน่าก็จะหายไป
น็อคทิสจะเดินไปสำรวจหนังสือที่ตัวของอัมบร้า เราจะได้เห็นข้อความที่ถูกส่งมาว่า “ขอพรของฉันจงอยู่กับคุณ , น็อคทิส” ซึ่งเราจะได้เขียนตอบกลับไป (ตรงนี้จะเขียนอะไรไปก็ได้) ปล้วอัมบร้าก็จะถูกส่งตัวไปหาองค์หญิงต่อไป
ภาพจะตัดเป็นคัทซีน ในตอน 12 ปีก่อนหน้านี้ ในตอนที่น็อคทิสและลูนาเฟย่าคุยกันถึงเรื่องคริสตัล ที่นอกจากสายเลือดแห่งลูซิส จะได้รับพลังแล้ว ยังมีหน้าที่ปกป้องมันอีกด้วย ซึ่งน็อคทิสก็จะถูกคริสตัลรับเลือกให้ทำหน้าที่นี้ต่อไป โดยจะมีลูนาเฟย่า เทพยากรณ์ คอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ
จบคัทซีนแล้ว น็อคทิสจะได้ยินเสียงของเกนเทียน่า ซึ่งจะบอกให้เดินไปหาสายฟ้า นั่นก็คือเทพรามู ที่ซ่อนตัวอยู่นั่นเอง ให้เราเดินไปเช่าโจโคโบะมาขี่ แล้วตรงไปยังจุดหมายที่เกนเทียน่าบอกให้เรามาร์คจุดก่อนหน้านี้
เมื่อมาถึงจุดหมายแล้ว จะเป็นต้นไม้ (Runestone) ให้เราเดินเข้าไปสำรวจ (ตามรูปด้านบน) แล้วฉากก็จะตัดไปเป็นคัทซีน เมื่อ 12 ปีก่อนอีกครั้ง โดยครั้งนี้ น็อคทิสจะนั่งอ่านหนังสืออยู่ (หนังสือที่ได้คุยกับลูนาเฟย่าก่อนหน้านี้) เกนเทียน่าจะปรากฎกาย เพื่อแนะนำตัวว่าเป็นภูติ และจะบอกกับน็อคทิสว่า หากน็อคทิสและลูนาเฟย่าร่วมมือกัน ก็จะสามารถปกป้องโลกใบนี้ไว้ได้
ตัดกลับมาปัจจุบัน หลังจากที่เห็นคัทซีนไปแล้ว ก็จะทำให้น็อคทิสจำได้ว่า ครั้งนึงเคยเจอกับเกนเทียน่ามาแล้ว จากนั้นน็อคทิสก็จะได้ยินเสียงของเกนเทียน่าบอกให้ไปหา Runestone ที่จุดต่อไป ระหว่างทางเราก็จะได้ยินเสียงเกนเทียน่า โดยคร่าวๆคือจะบอกให้เรารีบไป หลังจากที่เราสำรวจ Runestone จุดที่ 2 แล้วก็จะจบภารกิจ The Hexatheon’s Blessings ทันที (ได้ EXP 1000)
The Trial of Ramuh
หลังจากที่เราสำรวจ Runestone จุดที่ 2 แล้ว ก็จะเข้าภารกิจ The Trial of Ramuh โดยอัตโนมัติ โดยเราจะต้องรีบไปยัง Runestone จุดที่ 3 (ระหว่างทางจะเจอศัตรูด้วย) เมื่อมาถึงแล้ว เราจะพบกับทางเข้าไปในถ้ำ (Fociough Hollow) เดินเข้ามาเล็กน้อย เราก็จะเจอจุดที่เราจะต้องแทรกตัวเข้าไป
** แนะนำให้ใส่ Star Pendant เพื่อป้องกันการติดพิษจากศัตรูได้ **
เดินต่อมาจนเจอจุดที่เราจะต้องคลานลอดหินเข้าไป แล้วเราจะเจอกับหญ้าที่ขึ้นอยู่ฝั่งซ้ายมือ จะมีไอเทมสำคัญ คือ ascension coin (ตามรูปด้านบน)
หลังจากที่เราเก็บไอเท็มตรงหญ้าหมดแล้ว เราจะโดนศัตรูโจมตี ซึ่งตอนแรกจะเป็น Imp ที่ออกมาโจมตีเรา แต่สักพัก เราจะโดน Thunder Bombs ซึ่งให้เราระวังให้ดี เพราะมันจะมีพลังโจมตีสูงมาก (ท่าสายฟ้า) วิีธีการคือ ให้เราพยายามรุม ลูกบอลให้ตายไปเป็นตัวๆ อย่างรวดเร็ว และคอยหลบท่าสายฟ้าจากมันด้วย
เดินต่อเข้ามาตามทาง จนเราได้ยินเสียงบางอย่าง แล้ว พรอมโต้ จะถูกบางอย่างลักพาตัวไป ให้เรารีบเดินต่อเข้ามาด้านใน เมื่อเจอทางแยกแล้วให้เลี้ยวขวา เดินไปจนสุดทาง เราจะเห็นพรอมโต้ ยืนอยู่ด้านล่าง (ตามรูปด้านบน) และกำลังจะถูกมอนส์เตอร์โจมตี ให้เรารีบใช้ท่าวาร์ปเพื่อลงไปช่วยพรอมโต้ สู้ไปสักพัก แล้วเพื่อนๆเราที่เหลือก็จะตามมาสมทบ ให้เรากำจัดศัตรูที่อยู่ด้านล่างนี้ให้หมด (จะมีเยอะมาก) แล้วเดินต่อเข้าไปด้านใน
จนมาถึงจุดเป้าหมาย จะมีงูยักษ์โผล่ออกมาชื่อนากา โดยจะถามหาลูกของมัน (ตอบอะไรไปก็ได้ ยังไงก็ต้องสู้อยู่ดี) วิธีสู้คือ พยายามให้กลาดิโอลัส ใช้ท่า Tempest จะได้ผลดี และหากว่าเราถูกสาบจนกลายเป็นกบ ให้เราพยายามหนีห่างจากมัน จนเราคืนกลับร่างเดิม
หลังจากกำจัดนากาได้แล้ว ให้เราเดินเข้าไปในถ้ำ ที่สุดทางเราก็จะได้เจอ Runestone เมื่อกดสำรวจแล้ว ก็จะตัดเป็นคัทซีน น็อคทิสจะเห็นภาพนิมิตของลูนาเฟย่าและเทพลามูห์ เมื่อจบคัทซีนแล้ว ให้เราเดินออกมาเล็กน้อย ระบบก็จะถามเราว่าต้องการจะออกจากถ้ำไหม เมื่อออกจากถ้ำแล้วก็จะจบภารกิจ The Trial of Ramuh ทันที (ได้ EXP 1000)
Engaging the Empire
เมื่อเราออกจากถ้ำแล้ว พรอมโต้จะบอกว่าฝนหยุดตกพอดี ซึ่งเพื่อนๆเรา ก็จะคุยกันว่าที่ฝนตก น่าจะเป็นเพราะเทพลามูห์แน่ๆ แล้วเราจะได้เห็นเครื่องบินลำใหญ่บินผ่านหัวเราไป
ซินดี้จะโทรมาหาน็อคทิส เพื่อบอกว่ารู้แล้วว่ารถของน็อคทิส อยู่ที่ฐานของพวกจักวรรดิ เมื่อเราคุยกับเพื่อนๆของเราเสร็จ เราก็จะได้ข้อตกลงกันว่า จะรีบไปเอารถของเราคืนทันที (จากบทสนทนาที่คุยกัน เราจะสรุปว่า เครื่องบินที่พึ่งบินผ่านไป น่าจะบรรทุกรถของเรา โชคดีที่มีพายุก่อนหน้านี้ เลยทำให้การเดินทางของพวกจักรวรรดิช้าลง ทำให้เรายังสามารถไปเอารถคืนได้ทัน)
ให้เราตรงไปยังจุดหมายที่ขึ้นในแผนที่ (เช่าโจโคโบะเช่นเคย) เมื่อมาถึงแล้ว เราจะพบว่าฐานทัพที่นี่ จะมีบาเรีย ทำให้เราเข้าไปไม่ได้ง่ายๆ แล้วระบบก็จะขึ้นมาให้เราไปหาที่พัก 1 คืน เพื่อวางแผนกันก่อน
ให้เราเดินไปจุดตั้งแคมป์ (จุดเป้าหมายที่ขึ้นมาในแผนที่) ตั้งแคมป์ แล้วหาอะไรกิน หลังจากกินเสร็จก็จะตัดเข้าคัทซีน อิกนิสจะเสนอแผนให้เราลอบเข้าไปตอนกลางคืนเลย แล้วค่อยหาตำแหน่งของรถ จากภูมิศาสตร์ด้านในต่อไป ระบบก็จะขึ้นมาถามเราว่า เราพร้อมจะทำภารกิจเลยไหม ให้เราตอบตกลง
ฉากตัดกลับมาในตอนที่พวกเรามาแอบอยู่ข้างฐานเรียบร้อยแล้ว โดยอิกนิสจะบอกกับเพื่อนๆว่า แผนคือ ให้รีบเข้าไปเอารถ แล้วรีบออกมา ระหว่างนั้นอย่าให้ถูกจับได้ หากแผนแตกก็ให้รีบหนีทันที
หลังจากนัดแนะแผนกันเสร็จเมื่อเราบุกเข้าไปแล้ว ตอนนี้ระบบจะอธิบายให้เราลอบฆ่าทหารด้วยท่าวาร์ป โดยเราจะสามารถทำได้ด้วยการกดวาร์ป เมื่อทหารหันหลังให้เรา เมื่อระบบอธิบายเสร็จ เราจะต้องกำจัดทหาร 2 คนที่อยู่ตรงนั้นให้ได้ภายใน 1 นาที (หากเราใช้ท่าวาร์ป แล้วไปแทงที่ด้านหลัง จะทำให้เราสามารถกำจัดทหารด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว)
จากนั้นเดินต่อเข้ามาด้านใน อิกนิสจะเข้ามาดึงเราเอาไว้ แล้วบอกเราว่าอย่าเดินไปที่มีแสงไฟส่องถึง จะทำให้พวกมันรู้ตัวได้ จากนั้นเดินตามอิกนิสไป จนเรามาเจอกับกองทัพและหุ่นยนต์ที่เดินอยู่ กลาดิโอลัสจะบอกว่าเราไม่ควรปะทะกับหุ่นเลย อิกนิสจะบอกว่าไม่จำเป็นต้องสู้ ตราบใดที่เรายังซ่อนตัวอยู่ในเงาได้
เดินตามอิกนิสต่อจนเจอทหารอีก 3 คน ให้เรากะจังหวะดีๆ รอให้ทหารหันหลังแล้วค่อยจัดการ จากนั้นเดินมาตรงที่เลเซอร์กั้น (ตามรูปด้านบน) กดสำรวจที่สวิตช์ด้านหน้า เราจะสามารถปิดเลเซอร์ แล้วเข้าไปด้านในได้
เมื่อเข้ามาแล้วเราและเพื่อนๆจะคุยกันถึงเสาสร้างบาเรีย ที่นอกจากจะป้องกันฐานแล้ว ยังช่วยเพิ่มพลังพวกทหารอีกด้วย เราจะเข้าไปทำลายเสา แต่อิกนิสจะบอกว่าเสี่ยงเกินไป เพราะเป้าหมายของเราคือการมาเอารถคืนเท่านั้น
จากนั้นจะมีทหารเดินมา ซึ่งชุดนี้ เราจะต้องกำจัดทหารให้ได้ทั้งหมด 6 ตัว หลังจากที่กำจัดได้หมด (ตัวสุดท้ายจะอยู่ที่ประตูอีกด้านพอดี) ให้เราเดินไปสำรวจสวิตช์เพื่อปิดเลเซอร์อีกด้าน ที่ด้านในเราก็จะได้เจอรถของเราที่จอดอยู่
แต่เมื่อเราเดินเข้าไปที่รถเรา ภาพก็จะตัดเป็นคัทซีน โดยหุ่นยนต์จะมาเจอเข้าพอดี อิกนิสจึงบอกเพื่อนๆ ให้เปลี่ยนแผนเป็นกำจัดศัตรู เพื่อเปิดทางให้รถเราออกไปให้ได้ เมื่อกำจัดหุ่นได้แล้ว จะมีทหารกลุ่มต่อไปบุกเข้ามาอีก ให้เราสู้ไปสักพัก แล้วระบบจะขึ้นบอกเราว่า เราสามารถใช้ปืนใหญ่ของฝ่ายศัตรูได้ (ตามรูปด้านบน) ก็ให้เราขึ้นไปที่ปืนใหญ่แล้วใช้ปืนใหญ่ยิงศัตรูจะทำให้กำจัดได้ง่ายขึ้น (เราสามารถยิงถังเพื่อให้มันระเบิดได้ด้วย)
เมื่อกำจัดศัตรูได้หมดแล้ว อิกนิสก็จะเปลี่ยนแผนเป็น ให้เราขึ้นไปทำลายเสา เพื่อลดประสิทธิภาพของพวกศัตรูลง จะทำให้เราสู้ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เดินไปยังจุดเป้าหมาย ซึ่งระหว่างทางก็จะมีทหารออกมาโจมตีเราเป็นระยะ จนเรามาถึงส่วนที่มีเสาสร้างบาเรีย ก็จะมีหุ่นโผล่มาขวางทางเรา ให้เรากำจัดทหารที่คอยยิงตอดเราที่ด้านบนก่อน (เราสามารถเข้าไปที่เสาบาเรียได้โดยที่ไม่ต้องกำจัดหุ่นก่อน) เมื่อทำลายเสาได้แล้ว ระบบจะให้เรากด R2 เพื่อเรียกเทพลามูห์ออกมาช่วยเรา
เทพลามูห์จะใช้ฟ้าผ่าจนศัตรูที่อยู่ที่นี่ตายหมด จากนั้นก็ให้เราวิ่งกลับไปที่รถ เมื่อมาถึงแล้ว ก็จะเป็นคัทซีน เรวัส (Ravus) ผู้บัญชาการของฝั่งจักรวรรดิ จะเข้ามาโจมตีพวกน็อคทิส แต่สุดท้าย อาดีนจะโผล่เข้ามาห้ามทัพไว้เสียก่อน เมื่อเรวัสและอาดีนจากไป พรอมโต้จะถามว่ารู้จักเขาไหม (เรวัส) อิกนิสจะตอบไปว่า ชื่อเต็มคือ เรวัส น็อกซ์ ฟลอเรต์ เป็นพี่ชายของลูนาเฟย่า จากนั้นให้เราขับรถกลับไปหาไอริสที่เมือง เลสทัลลัม (Lestallum) เมื่อไปถึงโรงแรมก็จะจบภารกิจทันที
จบ Chapter 5 – Dark Clouds ได้รับ EXP 3000
