เริ่มเกมมา เราจะบังคับชายคนหนึ่ง ที่กำลังจะเข้าร่วมกับพรรคพวก ไปบุกคนที่กำลังนั่งอยู่ที่บัลลังก์ ช่วงนี้ให้เราเดินเข้าไปหาเลย สักพักฉากก็จะตัดไปที่ปราสาท น็อคทิส (Noctis) จะถูกพระราชารีจิส (King Regis) ที่เป็นบิดาส่งตัวไปแต่งงานกับ ลูนาเฟย่า (Lunafreya) หลังจากร่ำลากันเสร็จ น็อคทิสและพวก ซึ่งจะมี กลาดิโอลัส (Gladiolus), อิกนิส (Ignis) และ พรอมโต้ (Prompto) ออกเดินทางออกจากเมืองเพื่อพาพระเอกไปแต่งงาน
ปล. ตรงนี้จะไม่ขอลงรายละเอียด หากใครอยากรู้เนื้อเรื่องมากขึ้น แนะนำให้ไปดู อนิเมชั่นเรื่อง Kingsglaive : Final Fantasy XV สงครามแห่งราชันย์
แต่ระหว่างทาง รถที่นั่งมาเกิดเสีย โดยเราจะต้องพยายามเข็นรถไปให้ถึงปั๊มน้ำมันหรือจุดพักรถที่มีอู่ใหได้ ซึ่งเราจะต้องกด R2 เพื่อเข็นรถ และสามารถบังคับเลี้ยวรถได้ (ระหว่างนี้ก็จะเป็นการชมบรรยากาศในเกมไปในตัว) เมื่อเข็นไปสักพัก ก็จะจบไตเติ้ลเพื่อเข้าเกมต่อไป
ฉากจะเริ่มที่จุดพักรถที่ชื่อ Hammer Head แล้วซินดี้ (Cindy) หลานสาวของซิด (Cid) จะเดินเข้ามาหาพวกเรา และแสดงความยินดีกับข่าวที่เจ้าชายน็อคทิสจะได้แต่งงาน คุยกันสักพัก ซิดก็จะเดินออกมา เมื่อเดินดูรอบๆรถ ซิดจะบอกกับเราว่า คงต้องใช้เวลาซ่อมสักพัก ให้เราไปเดินเล่นก่อนได้เลย จบบทสนทนาแล้ว ให้เราเดินไปคุยกับซินดี้ เธอจะให้แผนที่เรามา จากนั้นเดินไปที่ร้านอาหาร คุยกับคนที่ขายอาหาร จะมีตัวเลือกขึ้นมา 3 อัน
ข้อที่1 จะอธิบายสัญลักษณ์ต่างๆ ที่มีบนแผนที่
ข้อที่2 จะเป็นการซื้ออาหาร (อาหารในเกมนี้ สามารถเพิ่มพลังหรือค่าสเตตัสต่างๆให้เราได้)
ข้อที่3 เราจะสามารถรับเควสการล่าสัตว์ได้จากที่นี่
หลังจากที่เราเดินเล่นได้สักพัก เราก็จะได้รับเควสแบบอัตโนมัติ คือเควส The Pauper Prince โดยให้เราเดินกลับไปคุยกับซินดี้ จะมีตัวเลือกในบทสนทนาขึ้นมา เราจะเลือกขอยืมหรือขอลดราคาก็ได้ เพราะเราจะพูดในทำนองที่ว่าตอนนี้เราไม่มีเงิน ซินดี้เลยจะบอกให้เราไปจัดการมอนสเตอร์ให้ แล้วจะมีค่าตอบแทนให้เรา เมื่อคุยจบก็ให้เราเดินไปยังจุดที่มีสัญลักษณ์ตกใจสีแดง แล้วกำจัดศัตรูให้หมด (เราจะต้องกำจัดศัตรูทั้งหมด 3 กลุ่ม) หลังจากจัดการศัตรูจนครบแล้ว ซินดี้ก็จะโทรมาหาเราพร้อมกับจบภารกิจ
แต่ในระหว่างที่คุยโทรศัพท์อยู่นั้นซินดี้จะขอให้เราออกไปตามเดฟ ที่หายไป ซึ่งก็จะเป็นเควสอันใหม่ (Hunter Becomes the Hunted) หลังจากคุยกันจบ ก็ให้เราวิ่งไปที่กระท่อมร้างทันที เข้าไปสำรวจจดหมายที่วางอยู่บนโต๊ะด้านในกระท่อม จะเป็นข้อความเกี่ยวกับการเจอศัตรูสายพันธ์ใหม่ ที่ชื่อ Bloodhorn แต่ในระหว่างนั้นเพื่อนจะตะโกนบอกเราว่าถูกโจมตี ให้เราหาทางหำจัดศัตรูให้หมด หรือพยายามออกมาสู้ด้านนอก เพราะอยู่ในที่แคบเราจะต่อสู้ลำบากมาก
เมื่อกำจัดได้หมด กลาดิโอลัส จะบอกเราว่าที่นี่ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว หรือว่าจะเป็นกระท่อมร้างด้านนู่น เมื่อเราเดินมาใกล้ๆกับกระท่อม อิกนิส จะดึงเราเอาไว้ แล้วจะบอกว่ามีแผน ซึ่งตรงนี้ระบบจะสอนการวาร์ปขึ้นไปบนกังหันที่อยู่ใกล้ๆ แล้วจะสามารถเพิ่มเลือดของเราได้ เมื่อกำจัดศัตรูหมดแล้ว จะมีผู้ชายเปิดประตูออกมาจากกระท่อม ก็จะจบเควส เมื่อคุยกันไปสักพัก เราจะได้รู้ว่าชายคนดังกล่าวคือเดฟที่เราตามหาอยู่ โดยเดฟจะได้รับบาดเจ็บ (ข้อเท้าแพลง) และจะขอให้เราช่วยจัดการศัตรูที่เหลือ ซึ่งตรงนี้จะขึ้นบทสนทนามาให้เราเลือก
Do it for free – ได้ 30 EXP
Do it for a price – ได้ 2 AP
Ask my friends – อิกนิสได้ 50 EXP
หลังจากตกลงที่จะช่วยเดฟแล้ว ก็จะได้เป็นเควส The Mutant Marauder แต่เมื่อเดินไปได้สักพัก อิกนิส จะสะกิดเราแล้วบอกให้เราหาที่พักก่อน ที่จะออกไปทำภารกิจ (ให้ตอบข้อบนเพื่อตกลง) โดยเราจะต้องเดินทางไปยังจุดตั้งแคมป์ (haven) ที่อยู่ใกล้ๆ เมื่อมาถึงแล้วก็สำรวจบริเวณนั้น จะมีตัวเลือกขึ้นมาก็ให้เราเลือกข้อแรก เพื่อสร้างแคมป์
ในระหว่างที่กำลังตั้งแคมป์อยู่นั้น อิกนิส ก็จะมีหน้าที่เตรียมอาหาร โดยเราจะต้องมีวัตถุดิบต่างๆในการทำอาหารด้วย และอาหารแต่ละอย่างก็จะมีผลต่อพลังและค่าสเตตัสด้วยเช่นกัน **ในระหว่างที่ตั้งแคมป์นั้น เราจะได้รับการอัพค่า EXP ที่เราต่อสู้ไป ทำให้เราเพิ่ม LV และค่าสกิลต่างๆ (ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ LV เราจะไม่ขึ้น)**
เมื่อตื่นขึ้นมา ก็ให้เราเดินไปยังจุด ที่มี Bloodhorn ต่อ เมื่อเดินเข้ามาใกล้ๆ กลาดิโอลัส จะโชว์สกิลตัดขา (Tempest) ทำให้ Bloodhorn ล้ม ซึ่งระบบก็จะขึ้นเตือนให้เราใช้วิธีนี้จัดการ คือ เราจะต้องเปลี่ยนไปบังคับเป็น กลาดิโอลัส (L1+ขวา) จากนั้นใช้ท่า Tempest แล้วรีบกดปุ่มโจมตีต่อเนื่อง (ปุ่ม O) ใช้วิธีนี้ไปเรื่อยๆ จนเราสามารถกำจัดศัตรูได้สำเร็จ เมื่อซินดี้โทรศัพท์มาหาเราเพื่อที่จะบอกว่าเดฟปลอดภัยแล้ว ก็จะถามเราว่าจะให้ซ่อมรถเลยไหม (ตอบข้อบน) เมื่อคุยจบ ก็ให้เราเดินกลับไปที่อู่ (ให้เราเดินไปซื้ออาวุธอันใหม่ รวมไปถึงเดินสำรวจเพื่อเก็บของต่างๆ ที่อยู่ในอู่ก่อน) คุยกับซินดี้ ก็จะจบเควส
ซินดี้จะขอให้เราช่วยเอาของไปส่งให้หน่อย โดยจะมีตัวเลือกขึ้นมาให้เราเลือก ตกลง (ข้อบน) ซึ่งจะเป็นการรับเควสต่อไปคือ The Errand Prince หลังจากที่คุยจบ อิกนิสก็จะเดินมาถามเราว่าสนใจฝึกขับรถไหมโดยมีวิธีวิธีบังคับดังนี้
-กด R2ขับ แต่จะขับออกนอกเส้นทางกำหนดไม่ได้
-อนาล๊อคซ้าย ก็เลี้ยวซ้ายขวา
-สี่เหลี่ยมจะเป็น U-turn
-กด o ลงจากรถ แต่ต้องหาที่จอดก่อน (x ในกรณีที่เป็นแผ่น Z1)
-D-pad ขึ้น เปิดเพลงฟัง
-D-pad ซ้ายขวาเปลี่ยนเพลง
เมื่อเราขับมาถึงโมเต็ลแล้วก็ให้ไปคุยกับลุงที่อยู่ที่เคาเตอร์ เพื่อบอกว่ามีของมาส่ง ระหว่างที่พนักงานขนของอยู่นั้น จะมีหมาวิ่งเข้ามาหาเรา ชื่อ อัมบร้า (Umbra) โดยจะคาบสมุดมาให้เราแล้วจะมีคัทซีนให้เราดู จากนั้นเราจะต้องเลือกข้อความที่จะเขียนลงไป (เลือกอันไหนก็ได้) หลังจากฝากสมุดให้หมาไปเรียบร้อยแล้ว จุดหมายต่อไปคือ Galdin Quay แต่เรายังไม่ต้องรีบไป ให้เราไปคุยกับชายที่ยืนอยู่ใกล้ๆ (Receptionist) เค้าจะอธิบายถึงเรื่องการรับเควสย่อย แล้วเราก็จะได้เควสย่อย Gone Hunting มาทันที (ดูเควสย่อย Gone Hunting ได้ที่นี่)
หลังจากที่สำรวจพื้นที่จนพอใจแล้ว ก็ให้เรากลับมาที่รถเพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดหมายต่อไป ก็คือ Galdin Quay โดยระหว่างทางจะมีบทสัมภาษณ์ของเจ้าหญิง ลูนาเฟย่า ในเรื่องการแต่งงานด้วย เมื่อมาถึง Galdin Quay แล้ว ให้เราเดินเข้าไปด้านใน เราจะเจอกับชายที่เดินสวนออกมา เค้าจะบอกกับเราว่าวันนี้เรือไม่ยอมออกจากท่า เค้าเลยจะต้องหาเรือลำใหม่ เมื่อคุยจบ ก็ให้เราเดินเข้าไปด้านใน จนถึงบริเวณท่าเรือ เราก็จะพบว่าวันนี้ไม่มีเรือจริงๆ และจบเควส The Errand Prince ทันที
เดินกลับออกมาทางเดิมเล็กน้อย เราจะเจอชายที่ชื่อดีโน่ (Dino Ghiranze) เค้าจะบอกกับเราว่าตอนนี้ไม่อนุญาตให้เรือเข้า-ออกที่นี่ ซึ่งก็จะทำให้เราเดินทางไปงานแต่งช้าไปด้วย (ดีโน่คนนี้รู้หมดว่าเราคือใคร และกำลังจะไปไหน) เค้าจะบอกกับเราว่ามีวิธีช่วย แต่จะต้องมีข้อแลกเปลี่ยน โดยมีตัวเลือกให้เราเลือก 2 ข้อ (ตอบข้อบนได้ EXP 80 ข้อล่าง อิกนิสได้ EXP 150)
เมื่อคุยเสร็จ เราก็จะได้รับเควส A Gentlemen’s Agreement เพื่อที่จะไปเอา Gemstones ตามที่ดีโน่ได้มาร์กจุดในแผนที่ให้เราเรียบร้อยแล้ว เดินออกจากท่าเรือ เพื่อกลับไปขึ้นรถ โดยระหว่างทาง เราจะเจอแมวนอนหิวอยู่บนสะพาน (สัญลักษณ์รูปคำถาม “?”) ซึ่งถ้าใครสนใจทำเควสช่วยแมวสามารถอ่านรายละเอียดได้ที่นี่ Side Quest – Kitty Cateing (แนะนำให้ทำเพราะจะทำให้เราสามารถตกปลาได้) **หากไม่สามารถรับเควสนี้ได้ ให้เราไปคุยกับพนักงานที่ขายอาหาร แล้วเราจะได้รู้ว่าแถวนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง (เปิดแผนที่ให้เรา)**
ขับรถออกไปยังจุดหมายที่ขึ้นบนแผนที่ ให้เราจอดรถไว้ใกล้ จากนั้นเดินขึ้นไปด้านบน เราจะเจอนกยักษ์นอนหลับอยู่ ให้เราค่อยๆย่องอ้อมไปด้านหลัง เราก็จะเจอจุดที่เก็บ Gemstones เมื่อเก็บมาแล้ว ในขณะที่เรากำลังเดินออกมานั้น นกจะตื่นขึ้น แต่ไม่ต้องตกใจ เด่วมันจะบินหนีไปเอง
กลับมาที่ท่าเรืออีกครั้ง เพื่อที่จะเอา Gemstones กลับมาให้ดีโน่ คุยกันสักพัก ดีโน่จะบอกว่าสามารถหาเรือให้ได้แล้ว หากเราต้องการจะไปเมื่อไหร่ก็ให้บอกได้เลย **ตรงนี้ หากเรากลับมาบอกดีโน่เรื่องเรือแล้ว เราจะไม่สามารถกลับมาที่นี่ได้สักพัก เพราะฉะนั้น หากเรายังอยากจะทำอะไรที่นี่ ให้ทำให้เสร็จเสียก่อน**
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ให้เรากลับไปคุยกับดีโน่อีกครั้ง ดีโน่จะบอกว่า ใช้เวลาคืนนึงที่เรือจะเดินทางมาถึงท่าเรือนี้ และจบเควส A Gentlemen’s Agreement ทันที ระหว่างนี้ เราก็จะได้เข้านอน และฉากจะตัดเข้าสู่คัทซีน เรื่องเกิดขึ้นที่อาณาจักรลูซิส ในช่วงที่ราชารีจิสกำลังจะเซ็นสัญญา กลับเป็นแผนการร้ายของฝั่ง นีฟเฟลไฮม์ จนทำให้พระราชารีจิสต้องสิ้นพระชนม์
ฉากตัดกลับมาที่พวกพระเอก ที่เพิ่งตื่นนอนมา อิกนิสจะเอาหนังสือพิมพ์เข้ามาให้ดูทำให้ทุกคนรู้เรื่องที่เกิดขึ้น แต่น็อคทิส จะไม่เชื่อ จนสุดท้าย ทุกคนจะตกลงกันว่าจะกลับไปดูด้วยตาของตนเอง ซึ่งก็จะเข้าเควสสุดท้ายใน Chapter 1 นี้ (เควส Ill Tidings)
เราและพวกจะขับรถเพื่อมุ่งหน้าไปยังชายแดนของเมือง Insomina เมื่อมาถึงด่าน เราก็จะพบว่าทหารของ นีฟเฟลไฮม์ ได้เข้ายึดครองด่านไว้หมดแล้ว ทำให้เราจะต้องหาทางอื่นเพื่อเข้าไปในเมืองให้ได้ โดยอิกนิสจะขับรถวนขึ้นมาด้านบน จนรถมาจอด
ให้เราเดินเข้าไปด้านใน โดยระหว่างทาง จะมีทหารให้เราจัดการ เข้ามาจนสุดทาง เราก็จะได้รับสัญญาณวิทยุ ที่บอกเกี่ยวกับข่าวการบุกรุกและการตายของ ราชา รวมไปถึงรัชทายาทอย่างน็อคทิส และเจ้าหญิงลูนาเฟย่าด้วย สุดท้าย น็อคทิส จะโทรศัพท์ไปหาคอร์ (Cor) แม่ทัพคนสนิทของพระราชา ที่รอดชีวิตจากสงครามครั้งนี้ คอร์จะถามว่าน็อคทิสอยู่ไหน เมื่อรู้ว่าอยู่นอกเมืองแล้ว ก็ทำให้คอร์โล่งใจ (เพราะแผนการของราชาที่จะหาทางให้น็อคทิสออกนอกเมืองให้ได้ เลยออกอุบายเรื่องการแต่งงาน) คอร์จะบอกให้เราไปเจอกันที่ Hammerhead แล้วเราจะได้รู้ความจริงทั้งหมด …จบ Chapter 1 – Departure
