หลังจากที่น็อคทิสโดนตบด้วยปืนจนสลบไปใน Chapter ที่แล้ว (Final Fantasy XV – Chapter 11 – In the Dark) จะตื่นขึ้นมาบนหลังคารถไฟ แล้วจะรีบโทรหาอิกนิส เพื่อบอกให้หยุดรถไฟก่อน เพราะน็อคทิสซัดพรอมโต้ตกรถไฟไปแล้ว (เพราะเห็นพรอมโต้คืออาดีน)
แต่อิกนิสจะไม่ยอมหยุดรถไฟ เพราะกลัวว่าจะกลายเป็นเป้านิ่งให้พวกศัตรูโจมตีได้อีก อิกนิสจะให้น็อคทิสรีบกลับมารวมกลุ่ม กับคนที่เหลือ จากนั้นจะทำการหยุดส่งผู้โดยสารทั้งหมดที่ Tenebrae ตอนแรกน็อคทิสก็จะไม่ยอมเพราะยังเป็นห่วงพรอมโต้อยู่ อิกนิสจะบอกว่า นี่น่าจะเป็นแผนของอาดีน เพราะฉะนั้นเป็นไปได้ที่พรอมโต้น่าจะถูกจับตัวไป ไม่น่าจะอยู่ที่เดิมแล้ว และหากพรอมโต้สามารถหนีไปได้อย่างปลอดภัย ก็จะหาทางติดต่อเรามาเอง
ใน Chapter 12 นี้ จะมีภารกิจให้เราทำ ทั้งหมด 4 ภารกิจ คือ
No turning back
สุดท้าย เมื่อน็อคทิสตกลงที่จะกลับไปรวมกลุ่มกับอิกนิสและกราดิโอรัสแล้ว ก็จะเข้าสู่ภารกิจนี้ทันที และจะเป็นช่วงที่มีศัตรูโผล่ออกมาขัดขวางน็อคทิสพอดีด้วย ให้เราเดินไปที่ด้านหน้าขบวน จัดการกับศัตรูที่เข้ามาขวางทางสักพัก แล้วฉากจะตัดเข้าคัทซีน โดยจะมีปีศาจแมงมุมโผล่ออกมาหลายตัว แต่เราจะได้ เลเวียแทน ช่วยไว้ได้
จบภารกิจ No turning back (ได้รับ EXP 1000)
Where She Lived
หลังจากที่ เลเวียแทน จัดการกับมอนสเตอร์ที่เข้ามาโจมตีรถไฟ เราก็จะสามารถเข้ามาที่ Tenebrae ได้อย่างปลอดภัย และได้ลำเลียงผู้โดยสารทั้งหมดลงที่สถานีนี้ สักพักเราจะได้เจอกับอาราเนีย ที่ตอนนี้ได้ออกจากจักรวรรดิมาแล้ว ให้เราเดินตามอาราเนียเข้าไปด้านใน
ระหว่างที่เราเดินตามอาราเนียไป เธอจะสังเกตว่าอิกนิสได้รับบาดเจ็บที่ดวงตา และมีการถามอาการกันเล็กน้อย พร้อมกับพูดถึงเพื่อนของเราที่ครั้งที่แล้ว ที่เจอกัน น่าจะมีมากกว่านี้ จนเราเล่าให้ฟังว่าคลาดกับพรอมโต้ระหว่างทาง แล้วทุกคนก็จะได้รู้ว่าพวกมอนเตอร์ที่เข้ามาโจมตีรถไฟ ไม่ใช่ฝีมือของอาราเนีย (ตอนแรกพวกน็อคทิสจะเข้าใจผิดว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของอาราเนีย) โดยเธอจะบอกว่าตอนนี้ได้ออกจากทหารของพวกจักรวรรดิแล้ว และหันมารับงานช่วยเหลือต่างๆแทน
เมื่ออินิสรู้ว่าอาราเนียหันมารับงานช่วยเหลือ เลยขอความช่วยเหลือจากเธอ โดยจะให้เธอช่วยดูแลผู้โดยสารที่มากับขบวนรถไฟของพวกน็อคทิส และอีกข้อคือจะให้เธอช่วยหาคนขับรถไฟให้หน่อย ซึ่งเธอก็จะตกลง และเมื่อเดินจนสุดทาง เธอก็จะแนะนำให้รู้จักกับบิ๊กและเว็ด (เราเคยเจอ 2 คนนี้มาแล้ว ในตอนที่ลงไปเอาแร่มิททิล) ที่จะช่วยขับรถไฟไปส่งเราที่ Gralea ต่อไป
เมื่อแนะนำตัวกันเสร็จ ก็ให้เราไปคุยกับบิ๊ก หลังจากที่พวกน็อคทิสขอบคุณที่บิ๊กและเว็ดจะช่วยขับรถไฟให้ บิ๊กและเว็ดก็จะบอกว่า เค้าขับรถไฟไปส่งได้ แต่ไม่รู้ว่าสภาพอากาศจะเอื้ออำนวยไหม เพราะก่อนจะถึง Gralea จะต้องผ่านช่องเขา ที่อากาศหนาวเย็นมาก จนมีข่าวลือว่า ที่นั่นคือที่สิงสถิตของเทพธิดาน้ำแข็ง โดยก่อนที่จะออกเดินทาง แนะนำให้เราไปกักตุนเสบียงและของจำเป็นให้พร้อม
แล้วบิ๊กกับเว็ดจะบอกกับเราว่า ให้เราไปหาหญิงรับใช้ ที่มาจากบ้าน Fleuret ซึ่งเธอจะมีเรื่องสำคัญที่อยากจะบอกกับน็อคทิส ก่อนเราเดินจากไป บิ๊กก็จะบอกกับเราว่าหลังเสร็จธุระแล้วก็ให้ไปคุยกับเค้า โดยที่เค้าจะรออยู่ใกล้ๆกับรถไฟ
ให้เราเดินไปยังจุดเป้าหมาย เราจะได้เจอกับหญิงชรา ที่ชื่อ มาเรีย จะบอกกับเราว่า เคยเห็นเรามาตั้งแต่เด็กๆ แต่น็อคทิสจะจำไม่ได้ เธอจะถามต่อว่าได้รับแหวนจากลูนาเฟย่าหรือยัง น็อคทิสจะบอกว่าได้รับแล้ว แต่สิ่งที่จะทำให้น็อคทิสแปลกใจก็คือ คำพูดของมาเรียที่จะบอกว่า เรวัส (พี่ชายของลูนาเฟย่า ที่เคยจะสังหารพวกเรา) คงจะดีใจไม่น้อย
ซึ่งป้ามาเรียก็จะเล่าถึงความลับที่พวกน็อคทิสไม่เคยรู้มาก่อนให้ฟังว่า ในตอนที่ลูนาเฟย่าหนีออกมาจากเหตุการณ์ยึดอำนาจจากกษัตริย์องค์เก่า พร้อมกับแหวน ลูนาเฟย่าที่จะขอให้เรวัสช่วยเอาแหวนไปส่งให้น็อคทิส แต่เค้าจะปฎิเสธ แล้วบอกกับลูน่าว่าหน้าที่ส่งแหวนและทำให้น็อคทิสกลายเป็นกษัตริย์ที่สามารถรับพลังได้นั้น จะต้องทำให้สำเร็จด้วยมือของลูน่าเอง นั่นเท่ากับว่า แท้จริงแล้ว เรวัสอาจจะคอยช่วยลูนาเฟย่าอย่างลับๆ เพื่อให้เธอได้ทำหน้าที่ได้สำเร็จ (จะมีคัทซีนที่ผ่านมาอยู่ฉากนึง ที่อาดีนเคยแซวเรวัสว่าแอบเอาน้องไปซ่อนไว้ ซึ่งจากฉากนี้คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องจริงแล้ว)
ฉากตัดกลับมาที่น็อคทิสและป้ามาเรีย โดยป้าจะบอกว่าหากเราไปที่เมืองหลวงของพวกจักรวรรดิ แล้วเจอกับเรวัส เค้าคอยปกป้องดาบของกษัตริย์องค์ก่อน เพื่อส่งมอบให้กับน็อคทิสอยู่ แต่น็อคทิส จะต้องหาเรวัสให้เจอให้ได้ก่อน
** เท่ากับว่า ในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ที่เรวัสเข้ามาโจมตีพวกน็อคทิส อาจจะเป็นไปได้ว่า เพื่อทดสอบพลัง ให้น็อคทิสสามารถรับพลังจากแหวนและดาบให้ได้ (อีกเหตุผลก็คือการทำบังหน้าพวกจักรวรรดิ) **
หลังจากที่เราคุยจบแล้ว ก็ให้เราเดินสำรวจพื้นที่ (จะมีไอเท็มให้เก็บ) เมื่อพร้อมแล้วก็เดินกลับไปคุยกับบิ๊กและเว็ดที่สถานีรถไฟ (ระหว่างทาง น็อคทิสจะได้เจอกับเด็กผู้หญิงวิ่งเข้ามาคุย จนได้รู้ความจริงว่า แท้จริงแล้วลูนาเฟย่ารักน็อคทิสและดีใจที่จะได้แต่งงานด้วย)
เมื่อเดินไปคุยกับบิ๊กและเว็ดแล้ว เค้าจะบอกเราว่าตอนนี้ได้เปลี่ยนรถไฟขบวนใหม่ให้เพราะขบวนเดิม โดนโจมตีจนเสียหายหนัก หากพร้อมออกเดินทางเมื่อไหร่ ก็ให้มาคุยอีกที
เมื่อเราพร้อมออกเดินทางแล้ว ก็ไปคุยกับบิ๊กอีกที ก็จะเป็นการออกเดินทางต่อ และจบภารกิจ Where She Lived (ได้รับ EXP 1000)
Into the Arctic Crevasse
ก่อนออกเดินทางอาราเนียจะเดินมาคุยกับน็อคทิสว่าไม่ต้องเป็นห่วงผู้โดยสารที่มาลงที่นี่ แต่ให้พวกน็อคทิสระวังตัวตอนที่ไปถึงเมืองหลวงจะดีกว่า และก่อนที่น็อคทิสจะเดินขึ้นรถไฟ ก็จะมีหิมะเริ่มตกลงมาพอดี
เมื่อรถไฟออกเดินทางแล้ว บิ๊กจะประกาศเตือนว่าให้ทำตัวตามสบาย หากมีอะไรเกิดขึ้นจะแจ้งให้ทราบอีกที แล้วพวกน็อคทิสก็จะคุยกันถึงเรื่องที่จะต้องผ่านจุดที่เป็นที่สิงสถิตของ กราเชี่ยน (Glacian หรือเทพธิดาน้ำแข็งที่เคยพูดกันก่อนหน้านี้) ซึ่งหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์อะไรอีก
จากนั้นก็จะเข้าสู่ภารกิจ Into the Arctic Crevasse ซึ่งเราจะได้บังคับน็อคทิสเดินสำรวจบนรถไฟได้ จนกว่าจะถึงสถานีปลายทาง ให้เราเดินสำรวจให้ทั่วจนจะมีของให้เราเก็บมากมาย **ที่ตู้ขนของท้ายขบวน เราจะได้เจอรถของเราจอดอยู่ด้วย ** และเมื่อเราสำรวจไปได้สักพัก หากเราไม่ได้อยู่ในห้องเดียวกับเพื่อนเรา จะมีโทรศัพท์มาหาเรา เมื่อเราวางสาย ก็จะจบภารกิจ Into the Arctic Crevasse (ได้รับ EXP 1000)
Breath of the Glacian
รถไฟจะถูกน้ำแข็งเกาะจนไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ บิ๊กจะประกาศให้พวกน็อคทิสรู้ และให้ช่วยออกไปดูที่ด้านนอกให้หน่อย กราดิโอรัสก็จะบอกว่า แค่ไปตักหิมะออกจากราง งั้นรีบๆทำเลยแล้วกัน เพราะข้างนอกหนาวมาก
เมื่อเราออกมาด้านนอกรถไฟแล้ว เราจะได้เจอกับสิ่งที่ดูเหมือนรูปปั้นผู้หญิง อยู่ใกล้ๆกับรถไฟ พวกน็อคทิสก็จะคุยกัน ทำให้เรารู้ว่านั่นคือเทพกราเชี่ยน นั่นเอง ให้เราเดินเข้าไปด้านใน แล้วเราจะเจอศัตรูบุกเข้ามา ให้เราจัดการให้หมด ซึ่งรอบนี้เราจะได้เจอกับศัตรูตัวใหม่ ที่มองแล้วคล้ายๆกับ ยมฑูต หรือ Wraith (ตามรูปด้านบน) ให้เราใช้อาวุธหรือคาถาน้ำแข็ง ซึ่งจะเป็นจุดอ่อนของมัน และระวังท่าที่มันจะปล่อยออกมาทำความเสียหายรอบตัวมัน
เราจะได้จัดการกับศัตรูง่ายๆ 2 กลุ่ม จากนั้นในรอบที่ 3 เราจะได้เจอกับบอส ที่ชื่อ Deathclaw โดยบอสตัวนี้สามารถโจมตีเราได้ทั้งระยะใกล้และไกล มีความอึดและพลังโจมตีที่ค่อนข้างสูง ท่าที่เราควรระวังคือ ท่าระเบิดไฟและท่ายิงเลเซอร์
แนะนำว่า ให้เราเน้นโจมตีระยะใกล้ จะทำให้หลบท่าของศัตรูได้ง่ายขึ้น แถมถ้ามันใช้การโจมตีแบบธรรมดา เราจะสามารถบล็อคและสวนกลับได้อีกด้วย บอสตัวนี้แพ้ธาตุไฟ (สายฟ้าด้วย แต่น้อยกว่าไฟ) หากเรามี Fira หรือ Firaga เหลือ ก็ใช้โจมตีมัน จะทำให้กำจัดมันได้ง่ายขึ้น
หลังจากที่จัดการกับบอส Deathclaw ได้แล้ว กราดิโอรัสจะตามน็อคทิสให้ขึ้นมาด้านบน เพราะเกิดอะไรแปลกๆ บางอย่าง น็อคทิสที่กำลังจะก้าวขึ้นรถไฟ กลับเจอกับอาดีนที่เดินผ่านไป ให้เรารีบวิ่งเข้าไปด้านใน ซึ่งระหว่างทางเราก็จะเห็นไอเย็นพัดออกมาตามทาง
แล้วในขณะที่เราเข้าไปยังตู้ที่ อาดีนอยู่ ปรากฎว่าเราจะได้เจอกับพายุหิมะที่พัดอยู่ภายในตู้นี้ น็อคทิสที่จะต้องพยายามเดินเข้าไปหาอาดีนให้ได้ จะถามถึงพรอมโต้ แต่อาดีนจะบอกว่าเพื่อนเราอีก 2 คน (อิกนิสและกราดิโอรัส) ล้มอยู่ตรงนี้ แล้วไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ มาช่วยเพื่อนของเจ้าสิ
ฉากจะตัดเข้าคัทซีน ในตอนที่เก็นเทียน่าเดินเข้ามา แล้วแตะเข้าไปที่อาดีนจนกลายเป็นน้ำแข็ง แท้จริงแล้วเธอก็คือเทพชีว่า (ราชินีน้ำแข็ง Shiva) และจะมอบตรีศูลที่ลูนาเฟย่าใช้ ก่อนหน้านี้ พร้อมกับตัดฉากไปที่ เรวัสที่กำลังห้ามลูนาเฟย่า เพราะไม่เห็นด้วย ในเรื่องที่ลูนาเฟย่าจะเอาชีวิตไปเสี่ยงกับน็อคทิส (ที่เรวัสคิดว่า ไม่น่าจะเป็นพระราชาที่ถูกเลือกได้) แต่ลูนาเฟย่าจะไม่ฟัง เพราะตัวเองได้ตัดสินใจแล้ว และอยากจะอยู่ข้างๆน็อคทิสเหมือนกับที่ตอนเด็กๆ ได้เคยเล่นกันประจำ
** เท่ากับว่า ลูนาเฟย่า ยอมสละชีวิต เพื่อให้น็อคทิส ได้เติบโตขึ้น จนสามารถรับพลังของแหวนและพลังจากอาวุธของกษตริย์ต่างๆ ที่ล่วงลับไปแล้ว เพียงเพื่อหวังว่าวันนึง จะได้กลับมาอยู่เคียงข้างน็อคทิสอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าด้วยความเป็นห่วงน้องสาว เรวัสจึงต้องคัดค้านเต็มที่ เพราะไม่คิดว่าน็อคทิส (ที่ดูเหมือนคนไม่เอาไหน) จะสามารถรับถ่ายทอดพลังได้ **
หลังจบคัทซีน ให้เราเดินเข้าไปจัดการกับร่างของอาดีนที่แข็งจนเป็นน้ำแข็ง แล้วน็อคทิสก็จะเดินไปปลุกเพื่อนๆ ซึ่งทั้งสองแค่หลับไปเท่านั้น และเมื่อฟื้นแล้ว ทั้งสองก็จะเดินไปเช็คที่หัวขบวนว่า บิ๊กและเว็ดปลอดภัยไหม
น็อคทิสที่นั่งหอบอยู่ จะเห็นภาพลูนาเฟย่า ที่น่าจะเป็นภาพนิมิต แล้วก็จะหายไป ทิ้งให้น็อคทิสนั่งร้องไห้ โทษตัวเองที่ไม่สามารถช่วยลูนาเฟย่าได้ หลังจากที่เราสามารถบังคับน็อคทิสได้แล้ว ให้เราเดินไปที่หน้าขบวน (ตามอิกนิสและกราดิโอรัสไปนั่นแหละ)
ระหว่างทางที่เราเดินไปหน้าขบวน เราจะได้เจอกับอาดีนอีกครั้ง มันจะบอกเราว่าง เหตุการณ์เมื่อกี้ (ที่โดนน็อคทิสตีจนร่างน้ำแข็งแตก) มันได้ตายจริงๆ แต่แท้จริงแล้ว มันเป็นอมตะ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นพรหรือคำสาป เพราะในตอนที่ตาย มันรู้สึกเจ็บมาก สักพัก อาดีนก็จะชักปืนของพรอมโต้ออกมาโชว์ แล้วก็จะบอกน็อคทิสว่า พรอมโต้อยู่ที่จักรวรรดิ อยากได้ก็ให้ไปเอา พร้อมกับคริสตัลด้วย
และอีกเหตุการณ์สำคัญ (สำหรับคนที่เล่นเกมครั้งแรกจะงงๆหน่อย) ก็คือ อาดีนจะบอกกับน็อคทิสว่า การจะไปที่จักรวรรดิในครั้งนี้ น็อคทิสจะต้องใช้มันด้วย (อาดีนจะหมายถึงแหวนที่น็อคทิสได้จากลูนาเฟย่า) แล้วก็จะบอกให้น็อคทิสรีบกลับไปรวมกลุ่มกับเพื่อนเร็วๆ พร้อมกับเดินหนีไป แต่ในระหว่างที่อาดีนเดินออกไป จะกดอุปกรณ์บางอย่าง ซึ่งอุปกรณ์นี้ จะทำให้น็อคทิสและเพื่อนๆ ไม่สามารถเรียกอาวุธออกมาใช้ได้
จบ Chapter 12 – End of Days (ได้รับ EXP 5000)