Unpacking เป็นเกมแก้ปริศนาง่ายๆ ด้วยการหยิบของออกจากกล่อง (กล่องใส่ของในการย้ายที่อยู่ในแต่ละครั้ง) มาทำการจัดเรียง วางในตำแหน่งที่มันควรจะอยู่ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย โดยในเกมนี้จะแบ่งด่านต่างๆออกตามปีที่ตัวละครหลักทำการย้ายที่อยู่
ตัวเกมจะกินระยะเวลาภายในเกมถึง 21 ปี โดยจะแบ่งออกเป้น 8 ด่าน ซึ่งจะเป็นการเล่าเรื่องชีวิตของเด็กสาวคนหนึ่ง (เราจะไม่ได้เห็นตัวละคร) ผ่านของต่างๆที่เราจะต้องทำการหยิบออกมาจัดเรียง นั่นเท่ากับว่า ตัวเกมนี้จะเป็นการเล่าเรื่องจากสิ่งของที่เราหยิบขึ้นมาเรียงนั่งเอง
เกมเพล เป็นอะไรที่เรียบง่ายมาก ซึ่งดูเหมือนแค่หยิบของที่อยู่ในกล่องขึ้นมา แล้วก็เอามันไปวางที่ใดที่หนึ่งเท่านั่น แต่สิ่งที่แฝงเอาไว้ และคิดว่าเป็นสิ่งที่น่าชื่มชมมากๆเลยก็คือ สิ่งของที่เราหยิบขึ้นมาในแต่ละด่านและสถานที่ ทีตัวละครของเราต้องย้ายไปอยู่นั้น มันกำลังเล่าเรื่องถึงประสบการณ์ ความรู้สึกของตัวละครหลักที่ได้เจอ เหมือนว่าเรากำลังอ่านประวัติของคนๆหนึ่ง ผ่านข้าวของและสถานที่ที่เค้าได้เข้าไปอยู่นั่นเอง
อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นสเน่ห์ของเกม Unpacking ก็คือภาพในแบบพิกเซล ที่แสดงออกมาถึงความเรียบง่ายและย้อนยุคในเวลาเดียวกัน ไม่เพียงแค่นั้นข้าวของบางอย่างที่เราได้เจอ ด้วยความที่เป็นภาพพิกเซล อาจจะทำให้เราไม่รู้จักหรือนึกไม่ออกว่าสิ่งนั้นมันคืออะไร และในทางกลับกันนั่นเป็นสิ่งที่อาจจะทำให้ของบางสิ่งเมื่อดูแล้ว สำหรับบางคนมันคือไอเท็มที่บ่งบอกถึงช่วงปีนั้นเลยก็ว่าได้
Unpacking 1997 : บ้านของเด็กน้อย
ด่านแรกจะเริ่มขึ้นในปี 1997 จะเป็นการย้ายเข้าบ้านหลังใหม่ และเป็นครั้งแรกที่ตัวละครหลักจะมีห้องนอนเป็นของตัวเอง และนั่นก็เป็นสิ่งที่จำเป็นที่เราจะต้องทำการจัดสิ่งของต่างๆด้วยตัวเราเอง
เนื่องจากด่านแรกนี้เกิดขึ้นในปี 1997 นั่นหมายความว่าสิ่งของต่างๆ รวมไปถึงสภาพแวดล้อม เราจะได้รับรู้ถึงกลิ่นอายของยุค 90 ไม่ว่าจะเป็นของเล่นอย่าง ทามาก๊อตจิ เกมบอย หรือพวกเทปคาสเซ็ทต่างๆ (เด็กที่เกิดยุคอื่นหลังจากนี้อาจจะไม่รู้จักของพวกนี้ก็ได้) ในด่านนี้จะเป็นบ่งบอกจุดเริ่มต้น ความสนใจและงานอดิเรกต่างๆของตัวละครหลัก ซึ่งมีทั้งเกม เพลง และกีฬา รวมไปถึงตุ๊กตาต่างๆและพวกฟิกเกอร์หรือของสะสมต่างๆอีกด้วย
การเล่นในด่านนี้ไม่ยาก เราสามารถจัดของได้อย่างอิสระมาก จะมีที่ต้องวางไว้ในจุดที่จำเป็นแค่สมุดบันทึกหรือไดอารี่เท่านั้น ที่ต้องวางไว้ในลิ้นชักโต๊ะเรียน นอกนั้นก็วางตามความเหมาะสมได้เลย
2004 : ครั้งแรกที่ย้ายออกจากบ้าน
ด่านที่ 2 นี้จะเป็นปี 2004 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตัวละครหลักย้ายออกจากบ้านครั้งแรก มาอาศัยอยู่ที่หอพัก ในขณะที่เรียนอยู่ระดับมหาวิทยาลัย (จากข้อมูลตรงนี้เลยทำให้เราประมาณอายุในด่านแรกได้ คือ ในด่านแรกตัวละครหลักจะอยู่ในชั้นมัธยมนั่นเอง)
ในด่านนี้จะมีห้องที่เราจะสามารถจัดเรียงของได้ทั้งหมด 3 ห้อง คือ ห้องนอน ห้องน้ำและห้องครัว เราจะสามารถสังเกตได้ว่าแต่ละห้องจะมีขนาดเล็กมากๆ จนทำให้ของที่เราจะต้องทำการจัดเรียงเกือบจะไม่พอเลยทีเดียว
สิ่งของที่อยู่ในด่านนี้จะมีของต่างๆที่ติดตัวมาจากด่านแรกด้วย ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตา หรือของที่ระลึก (รถบัสสีแดง) ตัวละครหลักของเรายังคงชอบดนตรี เกม และศิลปะอยู่ (แถมเครื่องเขียนและสียังเพิ่มขึ้นด้วย) นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่เป็นจอแบบ CRT ซึ่งบ่งบอกได้ถึงยุคสมัยนั้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
2007 : ย้ายไปอยู่กับเพื่อน
ตัวละครหลักในด่านที่ 3 นี้ จบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยเรียบร้อยแล้ว (ดูจากใบประกาศนียบัตรที่ใส่กรอบรูป) และได้ย้ายมาอยู่กับเพื่อนร่วมห้องอีก 2 คน โดยคาดเดาว่าเพื่อนอีก 2 คน จะเป็นเพื่อนในกลุ่มที่มีความชอบเกมกระดานเหมือนกัน และอาจจะมีความชอบหรือทำโปรเจคเกี่ยวกับการออกแบบชุดครอสเพลอีกด้วย (ตัวละครหลักอาจจะเป็นคนออกแบบชุด) โดยดูจากชุดที่กำลังตัดเย็บในห้องนั่งเล่น
ความชอบของตัวละครหลักยังคงเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเกม (มีทั้งเครื่องเกมในห้องนั่งเล่นแล้วก็เครื่องเกมมือถือ) กีฬา (ดูจากเสื่อโยคะและดัมเบล) รวมไปถึงศิลปะ ซึ่งในเรื่องของศิลปะนั้น เราจะได้เห็นว่านอกจากอุปกรณ์ในเรื่องของศิลปะที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังคงมีกระดาน แทปเล็ต ที่เอาไว้วาดรูปลงคอมอีกด้วย (เครื่องคอมน่าจะเป็นเคร่องเดิม แต่เปลี่ยนจอใหม่เป็นแบบจอแบนแล้ว)
สิ่งที่อยากจะให้สังเกตในด่านนี้ก็คือ ตุ๊กตาหมูที่ยังคงติดตัวมาด้วย ส่วนตุ๊กตาไก่ ก็มีลูกเจี๊ยบเพิ่มขึ้นมา แล้วก็ยังมีของที่ระลึกซึ่งในด่านนี้จะมีรถบัสสีแดง (รถบัสน่าจะมาจากประเทศอังกฤษ) หอไอเฟล (ฝรั่งเศส) หอเอนเมืองปิซ่า (อิตาลี่) ซึ่งของเหล่านี้อาจจะทำให้เราสรุปว่าตัวละครหลักหรือครอบครัวของตัวละครหลักได้มีการไปเที่ยวต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง แล้วก็ซื้อของในแต่ละประเทศมา โดยหลังจากนี้เราจะสามารถเห็นของที่ระลึกจากประเทศต่างๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในแต่ละด่านได้ชัดเจนขึ้น
อีกสิ่งหนึ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ อาชีพในตอนนี้ของตัวละครหลัก เพราะเนื่องมาจากเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว นั่นก็คงจะถึงเวลาที่จะต้องหางานทำแล้ว สิ่งที่จะเป็นข้อมูลในเรื่องของการทำงานได้ ก็น่าจะเป็นชุดยูนิฟอร์มสีเขียว ที่มีผ้ากันเปื้อนและหมวก สีเขียวและมีสัญลักษณ์บางอย่างสีเหลืองติดอยู่ โดยตัวละครหลักของเราน่าจะทำงานที่ร้านกาแฟ หรือคาเฟ่สักที่ (หรือบางทีอาจจะเป็นบาริสต้าเลยก็ได้)
Unpacking 2010 : ย้ายไปอยู่กับแฟนหนุ่ม
ในด่านนี้ตัวละครหลักของเราจะย้ายข้าวของไปอยู่กับแฟนหนุ่ม (เดาว่าอาจจะเป็นลูกค้าหรือไม่ก็เพื่อนร่วมงาน) ซึ่งที่นี่ทำให้เรารู้ว่าเจ้าของห้อง (แฟนหนุ่ม) มีความชอบในเรื่องของกาแฟ ดนตรี และเกมคล้ายๆกับตัวละครหลักอีกด้วย แต่สิ่งแรกที่เราจะสังเกตได้ในการเล่นด่านนี้ก็คือ สไตล์การจัดห้องของแฟนหนุ่ม ที่ดูแล้วค่อนข้างจะเป็นเอกลักษณ์มาก (เน้นโทนเทา-ดำ)
พูดถึงตัวละครหลัก ต้องบอกว่านี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่ตัวละครหลักของเราเริ่มจริงจังกับชีวิตที่มีคนรัก (ก่อนหน้านี้อาจจะมีแฟนหรือมีคนชอบ แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดย้ายไปอยู่ด้วยกัน) ช่วงเวลาในด่านนี้ก็จะเล่าถึงประสบการณ์ที่ตัวละครหลักมีความรักถึงขั้นจริงจัง (อยู่ด้วยกัน) แต่สุดท้ายก็อาจจะจบลงด้วยสถานการ์ที่ไม่สวยนัก (ค่อยอธิบายในตอนหลัง)
สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือความชอบในเรื่องดนตรีของตัวละครหลัก ที่ตอนแรกจะฟังเพียงแค่เพลงเท่านั้น (จากวิทยุในด่านแรกๆและไอพอตในด่านต่อๆมา) แต่ตอนนี้ได้พัฒนามาฝึกเล่นอูคูเลเล่แล้ว (นั่นอาจจะเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เป็นแฟนกับชายหนุ่มคนนี้ก็ได้) และถึงแม้ว่าตัวละครหลักจะย้ายมาอยู่กับแฟนหนุ่มแต่เธอก็ยังคงทำงานอยู่ที่เดิม (จากชุดยูนิฟอร์ม)
ในด่านนี้การจัดสิ่งของต่างๆจะค่อนข้างยาก เพราะเนื้อที่มีอยู่อย่างจำกัด และเหมือนพื้นที่ที่เหลืออยู่จากเจ้าของห้องจะมีให้เราไม่เพียงพอ แต่ละอย่างที่เราวางในด่านนี้ อาจจะไม่เป็นที่เป็นทาง เช่น โน๊ตบุ๊คและแทปเล็ตวาดภาพ หรือของหลายๆอย่างที่เราจะต้องเก็บไว้ใต้เตียง โดยเฉพาะกรอบรูปใบประกาศนียบัตรของเราที่ไม่มีที่ว่างเหลือพอที่จะแขวนกรอบนี้
จุดที่น่าสนใจในด่านนี้ก็คือ สิ่งของต่างๆ ทั้งใบประกาศนียบัตร ที่ตัวละครหลักภาคภูมิใจ ผลงานศิลปะ ตุ๊กตาต่างๆ หรือแม้กระทั่งโน๊ตบุ๊คและแทปเล็ต ที่ตัวละครหลักต้องใช้ ไม่สามารถวางในที่ๆมันควรจะอยู่ได้ เพราะพื้นที่ในห้องไม่เพียงพอ และคาดว่านี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการมีปัญหาในชีวิตคู่ซึ่งทำให้เกิดการเลิกลากันในที่สุด
2012 : กลับบ้าน
หลังจากที่ช้ำรักกับแฟนหนุ่ม (สังเกตจากรูปถ่ายที่ถ่ายคู่กับอดีตแฟน หากเราเอามาติดที่กระดานตรงหัวเตียง ผู้ชายในรูปจะโดนเข็มปักที่หน้า) ตัวละครหลักก็ได้ย้ายกลับมาอยู่กับครอบครัวของเธออีกครั้ง ห้องที่เธอกลับมาอยู่ก็จะเป็นห้องเดิมในสมัยเด็กเลย แต่โต๊ะ เตียงอาจมีการเปลี่ยนไปบ้าง
เราจะสังเกตของต่างๆจากในด่านแรก (ช่วงวัยเด็ก) บางชิ้นก็ยังคงอยู่ที่นี่ แต่ก็มีของบางอย่างที่เพิ่มเข้ามา เช่น จักรเย็บผ้า ซึ่งเดาว่าจะเป็นของแม่ที่อาจจะเอาห้องนี้ไว้ใช้ทำงานอดิเรกในช่วงที่ตัวละครหลักไม่อยู่
ความชอบหรือของสะสมของตัวละครหลักยังอยู่ครบครันเหมือนเดิม ในส่วนของอูคูเลเล่เราอาจจะสังเกตว่าเหมือนจะมีหนังสือฝึกเล่นหรือหนังสือเกี่ยวกับดนตรีมากขึ้น และแถบผ้าสีต่างๆที่แขวนอยู่ที่หัวเตียง คล้ายกับสายคาดเอวของเทคควันโด้ แต่ยังไม่แน่ใจว่าเป็นของตัวละครหลักหรือเปล่า
สิ่งสำคัญในด่านนี้คือ รูปถ่ายของตัวละครหลักที่ถ่ายคู่กับอดีตแฟนหนุ่ม (ได้จากในด่านที่แล้ว) เราสามารถเลือกได้ว่าจะเอาไว้ที่กระดาน (มีหมุดปักหน้าผู้ชาย) หรือจะเอาเก็บไว้ในตู้ก็ได้ รวมไปถึงใบประกาศนียบัตรที่ตอนนี้สามารถแขวนกลับขึ้นไปที่ผนังได้อีกครั้ง
ในตอนจบด่านนี้ ตัวละครหลักจะรู้สึกว่าห้องนี้มันน่าจะใหญ่กว่านี้ เพราะเนื่องจากในวัยเด็ก ข้าวของต่างๆ อาจจะมีไม่เยอะเท่าปัจจุบันก็ได้ (หมายความว่าในชีวิตของตัวละครหลักค่อนข้างจะเก็บสิ่งของต่างๆตั้งแต่อดีตเอาไว้เยอะมากนั่นเอง)
2013 : บ้านหลังแรก
ประมาณ 6-7 เดือนต่อมาจากด่านที่แล้ว คาดว่าในตอนนี้ตัวละครหลักอายุอยู่ที่ 27-28 ปี หลังจากที่ตั้งหลักกับชีวิตได้แล้ว ตัวละครหลักก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในอพาร์ตเมนต์ ซึ่งดูแล้วไม่ได้ใหม่มาก (ออกไปในทางทรุดโทรมด้วยซ้ำ) แต่ก็เป็นครั้งแรก ที่ตัวละครหลักได้ใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง ในบ้านของตัวเอง (แม้ว่าจะเช่าอยู่ก็เถอะ)
ที่นี่มีห้องต่างๆอยู่หลายห้อง และมีพื้นที่มากมายสำหรับข้าวของต่างๆของตัวละครหลัก รวมไปถึงเตียงนอนขนาดควีนไซส์ ที่กว้างมากสำหรับคนนอนเพียงคนเดียว (ในตอนจบด่านนี้ เราจะได้เห็นข้อความที่บอกว่าเตียงนอนกว้างมากด้วย)
ซึ่งของต่างๆ ยังคงอยู่ครบครัน ความชอบและงานอดิเรกต่างๆของตัวละครหลักก็ยังไม่ได้ทิ้งไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกม ดนตรี การออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งงานศิลปะ ซึ่งในด่านนี้ จะทำให้เราสามารถคาดเดาได้ว่าตัวละครหลัก หันมาเอาดีทางด้านศิลปะมากขึ้น ถึงขั้นจะให้งานศิปละเป็นงานหลักเลยทีเดียว เพราะดูจากห้องทำงานแล้ว ที่มีโน๊ตบุ๊ค แทปเล็ต เครื่องปริ๊น เครื่องสแกน รวมไปถึงนามบัตรด้วย ของเหล่านี้เป็นตัวบ่งบอกว่าตัวละครหลักอาจจะทำงานเกี่ยวกับการออกแบบอะไรบางอย่างเป็นอาชีพแล้วก็ได้
สิ่งที่น่าสนใจในด่านนี้ก็คือ ของที่ระลึกจากการไปต่างประเทศ ก็คือกังหันลมจากประเทศฮอแลนด์นั่นเอง รวมไปถึงตุ๊กตาลูกเจี๊ยบที่เพิ่มขึ้น เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่า เซ็ตแม่ไก่และลูกเจี๊ยบคือของสะสมอีกอย่างของตัวละครหลัก และภาพในห้องทำงาน ถ้าเราเปรียบเทียบจากด่านที่แล้ว เราจะเห็นว่าในด่านนี้ รูปหมูที่ถูกร่างเอาไว้ในด่านที่แล้ว มีการลงสีเรียบร้อยแล้ว แถมยังมีเป็ดและรูปลูกหมู 3 ตัว ติดอยู่บนกระดานอีกด้วย
** ถ้าลองหมุนตุ๊กตาหมู ที่ติดตัวมาตั้งแต่ด่านแรก เราจะพบว่าตุ๊กตาหมูชำรุดจนมีรอยซ่อมแซมบนตัวตุ๊กตาด้วย **
2015 : ย้ายมาอยู่ด้วยกัน
ในด่านนี้เราจะยังคงอยู่ที่บ้านหลังเดิม แต่ความพิเศษก็คือของที่เราต้องทำการจัดเรียงนั้น จะเป็นของคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวละครหลัก ซึ่งจะใช้แทนด้วยกล่องลังสีขาว ข้าวของต่างๆจะบ่งบอกว่าเจ้าของนั้นเป็นเพศหญิง และเราสามารถคาดเดาได้เลยว่า ผู้หญิงคนนี้มีความสำคัญมากๆ ถึงขนาดให้เราเป็นคนจัดของทั้งหมดเองเลย ใช่ครับ ผู้หญิงคนนี้ก็คือแฟนสาวของตัวละครหลักนั่นเอง (อ่านไม่ผิดนะครับ แฟนสาวจริงๆ)
อย่างที่บอกไปแล้วว่าข้าวของต่างๆที่เราต้องจัดเรียงในด่านนี้เป็นของผู้หญิง (มีความเป็นผู้หญิงมากกว่าตัวละครหลักอีก) โดยเราสามารถคาดเดาความสนใจหรืองานอดิเรกของแฟนสาวได้จาก เป็นคนชอบต้นไม้ โดยในแต่ละห้องในด่านนี้จะมีกระถางต้นไม้ให้เราทำการจัดเรียง และยังมีอุปกรณ์ในการปลูกต้นไม้อีกหลายชิ้นด้วย อีกสิ่งนึงที่น่าจะเป็นความสามารถพิเศษหรือความสนใจของแฟนสาวก็คือ เรื่องการทำอาหาร เราจะเห็นอุปกรณ์การทำอาหารถูกเพิ่มเข้ามามากมาย ไม่ว่าจะเป็น เข่งติ่มซำ หรือเตาปลาแป๊ะซะอีกด้วย
สิ่งของที่เราต้องจัดเรียงในด่านนี้ แม้ว่าจะมีไม่เยอะ แต่ที่น่าสนใจก็จะมี ต้นไม้ในห้องต่างๆ (อย่างที่บอกไปแล้ว) ตุ๊กตาเสือที่หลังจากนี้เราจะได้เห็นมันคู่กับตุ๊กตาหมู และสิ่งของบางอย่างที่เรา (คนไทย) ได้เห็นแล้วรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้สูงที่แฟนสาวจะชอบเมืองไทยหรือเป็นคนไทย เช่น ของที่อยู่ในห้องนั่งเล่น ไม่ว่าจะเป็น โมเดลคนพายเรือขายของ (ตลาดน้ำ) หรือรูปปั้นพญานาค อีกเหตุผลก็คือ เตาปลาแป๊ะซะ (คุ้นกับคนไทนมากๆ) และน้ำปลา ที่อยู่ในห้องครัว
ส่วนเรื่องสำคัญของตัวละครหลัก ที่เราสามารถสังเกตได้ในด่านนี้ก็คือ ภายในห้องทำงาน ตัวละครหลัก จะได้รางวัลบางอย่าง 2 รางวัล ซึ่งคาดเดาได้ว่า เป็นรางวัลในสายอาชีพการออกแบบ หรือศิลปะที่ตัวละครหลักทำอยู่ และความคืบหน้าตัวละคร (บนกระดาน) ที่ถูกเพิ่มเข้ามาอีกด้วย
2018 : บ้านหลังสุดท้าย
เดินทางมาถึงด่านสุดท้ายในเกม Unpacking กันแล้ว ในด่านนี้ตัวละครหลักของเราและแฟนสาว ได้ย้ายเข้ามาในบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม เพื่อสร้างครอบครัวด้วยกัน ก่อนที่เราจะไปพูดถึงข้าวของที่เราจะต้องจัด ขอพูดถึงเรื่องบ้านในด่านนี้ก่อน คือ บ้านมีลักษณะเป็น 2 ชั้น มีพื้นที่มากมาย ทั้งห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น รวมไปถึงห้องทำงานด้วย และที่ชั้น 2 นอกจากจะมีห้องนอนของตัวละครหลักกับแฟนสาวแล้ว ยังมีห้องสำหรับเลี้ยงเด็กทารกอีกด้วย นั่นเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าครอบครัวนี้กำลังจะมีเด็กทารก หรือมีแผนที่ตะมีลูกนั่นเอง (คาดเดาว่าอาจจะทำเด็กหลอดแก้ว จากเชื้อของชายอื่น)
ข้าวของต่างๆ ในด่านนี้ เราจะสังเกตได้ว่ามีกล่องทั้ง 2 สี ทั้งสีน้ำตาลและสีขาว นั่นบ่งบอกว่าของทั้งหมดเป็นทั้งของตัวละครหลักและแฟนสาว ที่เราจะต้องทำการจัดเรียงเอง ข้าวของต่างๆของทั้ง 2 คนยังอยู่กันครบครัน แถมมีเพิ่มมาบ้างบางอย่าง ความสนใจของตัวละครหลักยังอยู่ครบเหมือนเดิมตั้งแต่เด็กๆเลย ก็คือ ความสนใจในเรื่องศิลปะ (ที่พัฒนามาเป็นอาชีพหลัก) เกมคอนโซล เกมมือถือ เกมกระดาน ดนตรี ออกกำลังกาย ของที่ระลึกต่างๆ (รวมไปถึงเซ็ตลูกเจี๊ยบด้วย) และสิ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามาในด่านหลังๆก็คือแผ่นหนังต่างๆ (อาจจะมีตั้งแต่ด่านแรกๆแล้ว แต่มองไม่ออก) ส่วนของแฟนสาวก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของต้นไม้ ที่ยังคงมีประดับอยู่ในทุกห้องเหมือนเดิม
ในด่านนี้ตุ๊กตาหมูและเสือจะถูกย้ายไปที่ห้องเลี้ยงเด็กทารก พร้อมกับตุ๊กตากระต่ายที่ถูกเพิ่มเข้ามาอีกตัว ของส่วนใหญ่ที่ต้องจัดเรียงยังคงคล้ายๆ กับของเดิม มีเพิ่มมาบ้างเล็กน้อย ยกเว้นห้องเลี้ยงเด็กที่จะมีของใช้ต่างๆสำหรับเด็กที่ถูกเพิ่มเข้ามาในด่านนี้ อีกห้องที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ นั่นก็คือห้องน้ำชั้นบน ที่มีเครื่องซักผ้า อบผ้าอยู่หลังประตูสีขาวบานใหญ่ ที่เราจะต้องเอาพวกอุปกรณ์ซักล้างไปวางไว้ในนั้นด้วย
หลังจากจบด่านนี้ ตัวเกมก็จะมี End Credit ขึ้นมาให้เราดูพร้อมกับเพลงประกอบ ซึ่งคล้ายกับเพลงที่เอาไว้ร้องให้เด็กฟัง (แต่ความหมายเหมือนกับตัวเกมนี้เลย) และจบด้วยฉากจบสุดประทับใจ…
บทส่งท้าย Unpacking
เกมนีี้เป็นเกมที่ ถ้าดูเฉพาะเกมเพลก็คือการหยิบของต่างๆ มาวางให้ถูกที่ถูกจุด เป็นเกมที่ให้ความเพลิดเพลิน ทั้งภาพแบบพิกเซล เสียงประกอบตัวเกม บรรยากาศและอารมณ์ภายในเกมเหมาะแก่การผ่อนคลายอย่างยิ่ง แต่สิ่งที่ถูกซ่อนเอาไว้ในเกมนั่นก็คือ การเล่าเรื่อง ช่วงชีวิตของตัวละครหลัก ผ่านข้างของเครื่องใช้ที่เราจะต้องจัดเรียง สถานที่ต่างๆ ที่ตัวละครหลักต้องมีการโยกย้ายที่อยู่ ช่วงชีวิตต่างๆที่ผ่านเข้ามา ซึ่งก็มีทั้งดีและร้าย จนสุดท้ายตัวละครหลัของเราก็ค้นพบจุดที่เรียกว่าบ้านของตัวเองในที่สุด…
สำหรับผู้สนใจเกมนี้ สามารถดูได้ทาง Youtube (ฝากติดตาม บทสรุป Channel กันด้วยนะคร้าบบบบบบบ)