Resident Evil 5

กลับมาสร้างความหลอน (แต่คงไม่ใช่ภาคนี้) ในซีรี่ย์ Resident Evil กับภาค 5 ที่เนื้อเรื่องในภาคนี้ ตัวเอก คือ คริส เรดฟิล ได้ออกไปปฏิบัติในพื้นที่แอฟริกา และเราก็จะได้เจอกับตัวเอกในภาค 3 ซึ่งเคยเป็นคู่หูกับคริสในภาค 1 ด้วย นั่นก็คือ จิล วาเลนไทน์ นั่นเอง

ตลอดทั้งเกมเราจะต้องเล่นเป็นคู่แบบ Co-op กับเชวา เราต้องร่วมกับเธอทั้งต่อสู้กับเหล่าผู้ติดเชื้อปรสิต และร่วมกันแก้ปริศนาที่ต้องใช้การร่วมมือกันเล่น โดยที่ภายในเกมนั้นมีหลายจุดต้องแยกกับเธอเพื่อไขปริศนา ส่งผลให้ในหลายครั้งเราต้องตามไปช่วยเพื่อไม่ให้เธอโดนจัดการเสียก่อนจะแก้ ปริศนาหรือเปิดทางเสร็จ โดยเมื่อเราเล่นคนเดียว เชวาจะถูกควบคุมโดย AI ที่ถือว่าฉลาดพอสมควร โดยเราสามารถสั่งการ และแลกเปลี่ยนไอเท็มและอาวุธกับเธอได้ แต่ถ้าไม่พอใจคุณก็สามารถเล่นกับเพื่อนผ่านระบบออนไลน์หรือจะเล่นออฟไลน์ 2 คนแบบแบ่งหน้าจอก็ได้เช่นกัน รวมทั้งมีโหมด mercenaries ให้เล่นกันด้วย

อย่างที่บอกไปว่าเกมนี้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นเกมแอ็คชันเดินยิงมาก ขึ้น รวมทั้งมีการเล่นแบบเกมชูตติ้ง และมีแอ็คชันแบบกดปุ่มตามจังหวะให้เล่นเป็นระยะ ส่วนด่านในเกมแบ่งเป็น 6 Chapter และแยกย่อยเป็น Chapter ละ 2 ถึง 3 ด่าน โดยแต่ละด่านถูกออกแบบมาเป็นเส้นตรง เน้นการแก้ปริศนาย่อยๆเป็นช่วงๆ ในส่วนของปริศนาที่จะมีให้แก้เฉพาะจุดไม่ต้องเดินกลับไปมามากนัก และมันก็ไม่ค่อยซับซ้อนเท่าไร

แต่สิ่งที่ขาดหายไปในซีรีส์นี้ที่เห็นได้ชัดคือ เครื่องพิมพ์ดีดที่อยู่คู่เกมมานานถูกทำให้กลายสภาพเป็นแค่จุด Checkpoint ที่มีเกือบตลอดทั้งเกม ช่องใส่ไอเท็มที่กลับมาเป็นช่องธรรมดาโดย 1 ช่องต่อ1ไอเท็ม ส่วนการเรียกอาวุธมาใช้งานสามารถทำ Shortcut โดยใช้ปุ่ม D-pad เพื่อเปลี่ยนอาวุธโดยไม่ต้องเข้าเมนูได้ ส่วนร้านค้าที่มีไว้ซื้อขายและอัปเกรดปืนก็เปลี่ยนมาเป็นซื้อขายกันเมื่อ ผ่านด่าน ตัวเกมถูกปรับให้กระชับลง โดยคุณสามารถจบได้ภายในเวลาไม่ถึง 10 ชม.ด้วยซ้ำ แต่ทดแทนด้วยการกลับมาเล่นใหม่เพื่อปลดล็อกส่วนต่างๆในเกมได้

ส่วนความสยดสยองและความกดดันในเกมก็หดหายลงไปอย่างเห็นได้ชัด เพราะความกดดันไม่ได้อยู่ที่บรรยากาศหรือฉากที่น่ากลัว ความกดดันของเกมอยู่ที่เหล่าบรรดาศัตรูในเกมที่ถาโถมกันมา ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ และหลายตัวใช้อาวุธระยะไกล ตั้งแต่ธนูไปยันปืนกล แถมกระสุนที่ให้ฝ่ายเราใช้ที่มีจำนวนจำกัด (เมื่อเล่นแบบปกติ) แถมภาคนี้เราต้องจัดสรรอาวุธให้ตัวละครถึง 2 คนดังนั้นต้องวางแผนการใช้อาวุธกันไปตลอดทั้งเกม ส่วนศัตรูระดับบอสในเกมที่ออกแบบมาดีไม่ยากจนเกินไป และถ้าเรารู้วิธีสู้ก็จะจัดการได้ไม่ยากนัก แต่ก็มีบอสบางตัวที่มีวิธีจัดการที่น่าเบื่อ และเห็นจุดตายง่ายๆ และเหมือนได้เจออะไรมาจากภาคก่อนหรือเกมอื่นๆ วกกลับมาดูที่ดนตรีประกอบ ภาคนี้เน้นทั้งเสียงบรรยากาศ,เสียงประกอบ ที่ยังคงทำหน้าที่สร้างความระทึกให้กับผู้เล่นได้อย่างดี แต่มันก็ไม่มีอะไรโดดเด่นหรือต่างจากภาค 4 มากนัก

และแม้จะเห็นว่าเกมนี้ได้ถูกปรับเปลี่ยนไปพอสมควร อย่างไรก็ตามถ้าพูดถึงในแง่ของความเป็นเกมแอ็คชั่นแล้ว เกมนี้ก็ทำได้ดี ชวนให้กลับมาเล่นอีกรอบ สรุปแล้วอาจจะเรียกได้ว่าภาคเปลี่ยนไปจนหลุดนิยามของเกมแนว survival horror ไปพอสมควร แต่เกมยังคงน่าเล่นสนุกให้ติดตามว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวละครไปจนจบเกม และจะเปรียบเกมนี้กับภาพยนตร์ ก็เปรียบได้กับภาพยนตร์เรื่องเอเลี่ยนภาค 2 ที่เจมส์ คาเมรอนเป็นคนกำกับ ที่กลายเป็นหนังแอ็คชันมากกว่า หนังสยอง แต่มันก็สนุกและดูดี ดังนั้นไม่ว่า Resident evil 5 จะเปลี่ยนไปอย่างไร มันก็ยังเป็นเกมที่สนุกดูดี และมีคุณค่าที่จะเล่นเช่นกัน


เรื่องย่อ – Resident Evil 5 หรืออีกชื่อ Biohazard 5 นั้นเกิดขึ้นในปี 2008 ( 10 ปี หลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก ) คริส เรดฟิล พร้อมกับคู่หูคนใหม่ ชีวา อโลม่า ทั้งสองได้ได้ถูกส่งตัวไปที่แอฟริกาเพื่อไปทำภารกิจจับตัว เออวิ่ง นักธุรกิจลักลอบค้าขายอาวุธชีวภาพที่ผิดกฎหมายที่มีชื่อเรียกว่า อูโลโบลอส ภารกิจที่สำคัญของคริสไม่ใช่แค่จับตัว เออวิ่ง แต่เป็นการตามหาตัว จิล วาเลนไทน์ ที่คริสเชื่อว่าเขายังมีชีวิตอยู่ แต่ปริศนาของอาวุธชีวภาพอูโลโบลอสและคนที่บงการเรื่องนี้ทั้งหมดคือใครกันแน่ ห้ามพลาดกับเกมนี้ครับ Resident Evil 5


Chapter ทั้งหมด


Related posts