มาถึง Chapter สุดท้ายกันแล้วกับเกมRailway Empire : Chapter 5 – Sierra Nevada ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่อยู่ทางด้านตะวันตกของแผนที่ โดยจะมีเควสต่างๆ ดังนี้
- 1864 เชื่อม 4 เมืองเข้าสู่ระบบรางรถไฟของเรา
- 1865 เชื่อม 8 กิจการเข้าสู่ระบบรางรถไฟ
- 1866 ทำผลกำไรรายไตรมาสให้ได้ 600,000 เหรียญ
- 1867 เพิ่มจำนวนประชากรในเมือง Sacramento ให้ได้ 100,000 คน
- 1868 สร้างรางรถไฟรวมระยะทางทั้งหมดยาว 2,337 ไมล์
- 1869 ส่งผู้โดยสารจากเมือง San Francisco ไปที่ Promontory Point 50 คน โดยไม่หยุดขบวนรถไฟ
เควสเสริม
- 1866 เพิ่มจำนวนประชากรในเมือง San Francisco ให้ได้ 50,000 คน
- 1867 สร้างมหาวิทยาลัยที่เมือง San Francisco
- 1868 สร้างรถไฟขบวนพิเศษระหว่างเมือง San Francisco และ Los Angeles
วิธีเล่น Railway Empire : Chapter 5 – Sierra Nevada
เมื่อเริ่มเกมแล้วให้เราไปซื้อเทคโนโลยีก่อนเป็นอันดับแรก (เหมือน Chapter ที่แล้ว) เราจะมีแต้มวิจัยอยู่ 1,000 แต้ม ให้เราทำการซื้อหัวรถจักร No.51 Dragon (สีเขียว) และ Standardized components เพื่อประหยัดเงินในการซื้อรถไฟได้ 30% ที่เหลือซื้ออะไรก็ได้
จากนั้นทำการทุบสถานีที่เมือง Sacramento แล้วสร้างสถานี แบบมี Signalling control (เอาขนาดไหนก็ได้ หากไม่พอค่อยมาเพิ่ม) และสร้างอีกสถานีที่เมือง San Francisco (แบบมี Signalling control เช่นเดียวกัน) จากนั้นทำการเชื่อมเป็นแบบรางคู่ (ดูตามรูปด้านบน) แล้วสร้างขบวนรถไฟให้วิ่งไป-กลับ สัก 2 ขบวน
ต่อไปจะเป็นการทำเควส เชื่อม 4 เมืองเข้าสู่ระบบรางรถไฟของเรา โดยอีก 2 เมืองที่จะแนะนำให้สร้างรางรถไฟไปเชื่อมก็คือ เมือง Redding ที่อยู่ด้านบนของเมือง Sacramento โดยให้เราสร้างสถานีแบบมี Signalling control แล้วทำการเชื่อมกับเมือง Sacramento แบบเป็นรางคู่ และเมือง Los Angeles ที่อยู่ทางด้านล่างของแผนที่ให้เราทำการเชื่อมกับเมือง San Francisco โดยสถานีที่จะสร้างในเมือง Los Angeles นั้นจะเป็นแค่ Small train station และรางเป็นแบบรางเดี่ยวก็ได้ หลังจากนั้นก็จะจบเควสทันที
หลังจากนั้นจะมีเทคนิคเล็กน้อยคือ ให้เราไปสร้างโรงงานผลิตเบียร์เอาไว้ที่เมือง Redding เพราะเมืองที่อยู่ทางด้านล่าง จะขาดแคลนเบียร์เป็นอย่างมาก จะทำให้เราสามารถส่งเบียร์ไปที่เมือง Sacramento และ San Francisco เพื่อเพิ่มประชากรได้อย่างรวดเร็วได้
เชื่อม 8 กิจการเข้าสู่ระบบรางรถไฟ – หลังจากที่เราสร้างโรงงานผลิตเบียร์ได้แล้ว ให้เราทำการเชื่อมกิจการต่างๆ ดังนี้
- ข้าวเกรนที่อยู่ด้านซ้ายบนของเมือง Redding แล้วส่งข้าวเกรนมาผลิตเบียร์ที่เมือง Redding
- ไม้ที่อยู่ด้านขวาบนของเมือง Redding ใช้สถานีแบบมี Signalling control และทำเป็นรางคู่เพราะอนาคตเราจะขยายรางรถไฟของเราไปทางเส้นนี้ จากนั้นทำการสร้างรถไฟเพื่อส่งไม้ไปยังเมือง Sacramento และ San Francisco
- หลังจากนั้นให้เราสร้างโกดังให้ครอบคลุมฟาร์มวัวและไร่ข้าวโพด ที่อยู่ทางด้านล่างของเมือง San Francisco เป็นโกดังขนาดใหญ่แบบมี Signalling control แล้วทำการเชื่อมรางรถไฟไปที่เมือง Sacramento และ San Francisco ตามรูปด้านบน สุดท้ายตั้งค่าเก็บของในโกดังโดยให้เก็บ วัว ข้าวโพด น้ำตาล นม และคอตต้อน
- สร้างสถานีที่ไร่อ้อย น้ำตาล (ใกล้ๆโกดัง) แล้วเชื่อมกับโกดัง
- เชื่อมฟาร์มนม (ด้านขวาของไร่อ้อย) กับโกดัง
- คอตต้อน ที่อยู่ด้านล่างของไร่อ้อย สร้างสถานีแล้วเชื่อมเข้ากับโกดัง
- กิจการที่ได้เชื่อมกับโกดัง ให้เราสร้างรถไฟเพื่อขนส่งวัตถุดิบไปเก็บไว้ที่โกดังต่อไป (น้ำตาล นม และคอตต้อน)
- ในตอนนี้จะเหลืออีก1 กิจการ เราจะเชื่อมกิจการอะไรก็ได้ โดยกิจการที่ง่ายที่สุดคือไร่อ้อยที่อยู่ใกล้ๆกับเมือง Sacramento ให้เราเชื่อมแค่รางเดี่ยวก็ได้ เพราะต้องการเชื่อมเพื่อให้จบเควสเท่านั้น
จากนั้นทำการส่งวัตถุดิบต่างๆจากโกดัง ไปแจกจ่ายที่เมือง Sacramento และ San Francisco จนทำให้ทั้ง 2 เมืองพัฒนาประชากร และหากเมือง Sacramento มีการพัฒนาประชากรจนสามารถสร้างโรงงานแห่งใหม่ได้แล้ว ให้เราสร้าง โรงงานผลิตผ้า (Weaving factories) แล้วทำการส่งคอตต้อนมาที่เมืองนี้
และถ้าเมือง San Francisco สามารถสร้างโรงงานแห่งใหม่ได้แล้ว ให้เราสร้างโรงงานผลิตเสื้อผ้า (Tailors) แล้วทำการสร้างรถไฟเพื่อขนผ้าจาก Sacramento มาที่เมืองนี้ด้วย
วิธีสร้างขบวนรถไฟแบบ express connection
ระหว่างที่รอจำนวนประชากรทั้ง 2 เมืองเพิ่มขึ้น ให้เรามาทำเควส สร้างรถไฟขบวนพิเศษระหว่างเมือง San Francisco และ Los Angeles ก่อน วิธีการทำเควสนี้ให้เราทำตามนี้
- ใช้แต้มเทคโนโลยีซื้อหัวรถจักรที่ชื่อ Roger American
- ลบเส้นทางเดิมที่เราเคยเชื่อมราง San Francisco และ Los Angeles (ในตอนต้นเกม)
- สร้างสถานีใหม่ที่เมือง San Francisco เอาเป็นแบบ Terminal station
- สร้างรางรถไฟจาก Terminal station ไปยังสถานีในเมือง San Francisco เอาเป็นรางเดี่ยวก็ได้ จุดที่สำคัญที่สุด รางรถไฟจะต้องห้ามมีสะพานและอุโมงค์ระหว่างเส้นทางนี้
- สร้างรถไฟเพื่อวิ่งเส้นทาง San Francisco และ Los Angeles โดยในเส้นทางนี้จะต้องมีแค่ขบวนเดียวเท่านั้น (ต้องใช้หัวรถจักรเป็น Roger American)
- เข้าไปตั้งค่าในขบวนรถไฟ โดยให้เราเพิ่มพนักงานประจำรถไฟจนเต็มทั้ง 4 ตำแหน่ง และทำการเพิ่มตู้รถไฟแบบพิเศษ (Railcars) ทั้งหมด
จากนั้นรอให้ขบวนรถไฟวิ่งไป-กลับสัก 2-3 รอบ ก็จะจบเควสนี้ ต่อไปจะเป็นเควส ทำผลกำไรรายไตรมาสให้ได้ 600,000 เหรียญ โดยปกติแล้วหากเราสร้างรถไฟและรางตามนี้แล้วเควสนี้เราจะสามารถทำได้อย่างง่ายๆเลย แต่ถ้ายังทำไม่ได้ ให้เราไปอัพเกรดโรงงานทุกที่ ที่เราได้สร้างไว้ จากนั้นคอยดูในโกดังว่าวัตถุดิบไหนขาดแคลน และดูแต่ละเมืองว่า วัตถุดิบที่จะเอามาแปรรูป ขาดแคลนบ้างไหม สุดท้ายให้เราทำการเพิ่มขบวนรถไฟที่ขนส่งสินค้าไปยังเมืองต่างๆ จะทำให้ผลกำไรของเราได้มากขึ้นด้วย
ระหว่างนี้ให้เราคอยเช็คเมือง Sacramento และ San Francisco ด้วยว่ายังขาดวัตถุดิบตัวไหนหรือไม่ และถ้าเป็นไปได้ ให้เราทำการอัพเกรดสถานีเป็นขนาดใหญ่สุดได้เลย (เมือง Sacramento ,San Francisco และ Redding)
จากนั้นรอให้จำนวนประชากรในเมือง San Francisco ขึ้นถึง 60,000 คน (ซึ่งจบเควส เพิ่มจำนวนประชากรในเมือง San Francisco ให้ได้ 50,000 คน เรียบร้อยแล้ว) ให้เราทำการสร้างมหาวิทยาลัย ก็จะจบเควส สร้างมหาวิทยาลัยที่เมือง San Francisco ทันที
และหากว่าในตอนนี้เควส เพิ่มจำนวนประชากรในเมือง Sacramento ให้ได้ 100,000 คน ยังไม่เสร็จ แต่เมืองยังมีการพัฒนาอยู่ ระหว่างรอ เราจะสามารถทำเควส สร้างรางรถไฟรวมระยะทางทั้งหมดยาว 2,337 ไมล์ ได้เลย โดยการสร้างรางรถไฟต่อจากสถานีกระท่อมตัดไม้ ที่อยู่ด้านขวาบนของเมือง Redding ไปทางขวาสุดของแผนที่ ซึ่งจะเป็นเมือง Promontory Point จุดหมายสุดท้ายในการทำเควสของเรานั่นเอง จุดสำคัญคือ รางรถไฟระหว่างกระท่อมตัดไม้และ Promontory Point จะต้องเป็นรางคู่และมีสถานีซ่อมบำรุง อยู่ระหว่างทางด้วย เมื่อเชื่อมเสร็จเรียบร้อย เราก็จะจบเควสสร้างราง 2,337 ไมล์ ทันที
หลังจากนั้นคาดว่าในตอนนี้น่าจะเหลือเควสสุดท้ายอย่าง ส่งผู้โดยสารจากเมือง San Francisco ไปที่ Promontory Point 50 คน โดยไม่หยุดขบวนรถไฟ เพียงเควสเดียว หรือถ้าเควสเพิ่มประชากรในเมือง Sacramento ยังไม่เสร็จก็สามารถทำเควสนี้ไปก่อนก็ได้ โดยเราจะใช้สูตรเดิมเลยคือ สร้างรถไฟที่วิ่งจาก San Francisco ไปที่ Promontory Point ตั้งค่าให้เน้นส่งเฉพาะผู้โดยสารเป็นหลัก จากนั้นก็ทำการก็อปปี้รถไฟ (เอาสักไม่เกิน 10 ขบวนก็เพียงพอแล้ว) โดยเว้นระยะเวลาสักเล็กน้อย จนสุดท้ายสามารถส่งผู้โดยสารไปถึงจุดหมายให้ครบได้ 50 คน ก็จะจบ Chapter นี้
