หลังจากที่เราได้หน้ากากมาจากโอนีลในตอนที่แล้ว (The Evil Within 2 : Chapter 3 – Resonances) ใน Chapter นี้ เราจะต้องลงไปสำรวจส่วนหลังบ้านของระบบสเต็ม ซึ่งถูกเรียกว่า Marrow โดยจะแบ่งเป้าหมายหลักๆ ออกเป็น 2 อย่าง คือ
- หาทางเข้าไปใน Marrow
- และหาทางออกจาก Marrow เพื่อไปยังศาลากลาง
การหาทางเข้าไปยังระบบหลังบ้าน (Marrow)
ให้เราออกจากเซพเฮ้าส์ของโอนีล แล้วขึ้นไปทางเหนือ (ด้านบนของแผนที่) จะมีเซพเฮ้าส์อีกหลัง วึ่งถ้าหากใครที่ยังไม่เคยมาที่นี่ เราจะต้องใช้หน้าไม้ ที่เปลี่ยนหัวเป็นไฟฟ้า ยิงใส่กล่องควบคุมที่หน้าบ้านก่อน ถึงจะสามารถเข้าไปด้านในได้
** ที่ด้านในจะมีเควสเสริมให้เราทำ และเราจะต้องระวังซอมบี้ที่นอนอยู่ด้านใน มันจะลุกขึ้นมาโจมตีเรา ตอนเราเก็บของหรือเดินเข้าไปใกล้ **
เมื่อเข้ามาด้านในได้แล้ว เซบาสเตียนจะโทรไปรายงานคิดแมน ว่าในตอนนี้เจอโอนีลแล้ว และโอนีลได้ช่วยแนะนำวิธีหาตัวลิลลี่ แต่ตอนนี้ลิลลี่ถูกฆาตกรจับตัวไป เซบาสเตียนที่กำลังจะเข้าไปที่ระบบหลังบ้าน จะบ่นกับคิดแมนว่าทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกว่ามีระบบหลังบ้าน ซึ่งคิดแมนก็จะบอกว่า ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้บอกเพราะไม่มีเวลาอธิบาย แล้วเซบาสเตียนจะบอกข้อมูล รูปพรรณสัณฐาน ของฆาตกรโรคจิตให้คิดแมนช่วยสืบ แต่คิดแมนจะบอกว่ามีข้อมูลน้อยเกินไป แต่ยังไงจะลองดูอีกที
ให้เราสำรวจเพื่อเก็บของให้หมด แล้วเราก็จะพบว่าในนี้ยังมีโต๊ะสำหรับคราฟของและกระจกเพื่อวาร์ปกลับเซพโซนของเราอีกด้วย ให้เราสำรวจในห้องเราก็จะเจอกับเครื่องคอมพิวเตอร์เก่าๆ ที่โอนีลพูดถึง (ตามรูปด้านบน) ซึ่งจะเป็นประตูเข้าสู่ระบบหลังบ้านนั่นเอง
เมื่อเราทำการสำรวจที่เครื่องคอมเก่าๆแล้ว เราจะวาร์ปเข้ามาอยู่ในห้องมืด พร้อมโต๊ะคอม ไม่ต้องตกใจ เพราะนี่คือระบบโหลดฉากของเกมนี้ โดยเราสามารถยืนเฉยๆเพื่อรอโหลดฉากเสร็จ หรือจะลองเดินเล่นไป-มาก็ได้
เมื่อระบบโหลดฉากเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราจะต้องเดินมากดสำรวจที่เครื่องคอมอีกครั้ง (ตามรูปด้านบน) เราก็จะวาร์ปไปที่ระบบหลังบ้าน หรือ marrow เรียบร้อยแล้ว
เมื่อเข้ามายังระบบหลังบ้านแล้ว ให้เราสำรวจเพื่อเก็บของให้หมด เดินออกจากห้อง แล้วเข้าประตูสีเหลืองด้านขวามือ เราจะเจอห้องที่มีผังเมืองอยู่กลางห้อง เดินไปสำรวจที่เครื่องคอมเราจะได้ข้อมูลจากเครื่องคอม (ตามรูปด้านบน) และข้อมูลอื่นๆที่อยู่ในห้องนี้ จะทำให้เรารู้ว่า ห้องนี้คือห้องที่ใช้ในการออกแบบผังเมืองและสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ ให้กับเมืองยูเนี่ยน
เดินออกจากห้องผังเมือง ไปตามทาง เราจะเจอกับศพของเจ้าหน้าที่โมเบียส และข้างๆจะมีช่องแอร์ให้เราลอดไปอีกฝั่งได้ เมื่อออกมาแล้ว ให้เราเอากระสุนไฟฟ้าจากหน้าไม้ไปยิงแผงวงจร ที่อยู่ตรงประตู BE-C03 (ออกจากช่องแอร์จะอยู่ฝั่งซ้ายมือ)
เมื่อเปิดประตูแล้ว เราก็จะพบว่า คือทางเดิมที่เราออกมาจากห้องที่เราวาร์ปมาที่ระบบหลังบ้าน (หลังจากที่เราออกจากห้อง เมื่อวาร์ปมาระบบหลังบ้านแล้ว หากเราเดินผ่านประตูสีเหลืองด้านขวามือ เราจะเจอประตูที่ปิดมาทับร่างของเจ้าหน้าที่โมเบียส ซึ่งก็คือประตูนี้นี่เอง)
เดินกลับเข้ามาอีกประตู (ออกจากช่องแอร์แล้ว เลี้ยวขวา) เมื่อเข้ามาในห้อง ให้เราหันไปทางซ้าย เราจะเจอซอมบี้นอนอยู่ (ตามรูปด้านบน) ให้เราจัดการมันซะ เพราะมันจะรอเราเผลอ แล้วตื่นขึ้นมาโจมตีเรา
จากนั้นลงไปด้านล่าง จะมีอีกตัวที่แกล้งนอนหลับอยู่ที่พื้น จัดการมันก่อน แล้วค่อยไปสำรวจที่แผงวงจร เราจะต้องจูนสัญญาณ (ตามรูปด้านบน) เพื่อปลดล็อคระบบ
แต่ในการปลดล็อคระบบจะต้องใช้เวลาในการรีบูตระบบ ซึ่งระหว่างนี้ ก็จะมีพวกซอมบี้บุกออกมาจากประตูต่างๆ ภายในพื้นที่นี้ (ออกมาเป็นเว็บ) ให้เราจัดการให้หมด และตัวสุดท้ายที่จะออกมา คือผู้หญิงตัวขาวที่ถือมีด (ตามรูปด้านบน) เมื่อเราจัดการมันได้หมดแล้ว ให้เราเดินเข้าประตูที่มีซอมบี้บุกออกมา จะมีกระสุนให้เราเก็บที่ด้านใน (แนะนำให้สำรวจแต่ละห้องก่อน)
จากนั้นปีนบันไดขึ้นมาด้านบน (บันไดอีกฝั่ง) เข้าไปในห้อง เราจะเจอศพของเจ้าหน้าที่ เมื่อสำรวจแล้ว เราจะได้กระเป๋าเก็บกระสุนเพิ่ม และระวังซอมบี้ที่นอนอยู่ข้างๆ มันจะลุกขึ้นมาโจมตีเรา จัดการเสร็จ แล้วกลับลงมาด้านล่าง
เดินเข้าประตูที่เราทำการจูนสัญญาณปลดล็อค ที่ด้านใน จะเจอกับประตูที่มีโซ่ล็อคอยู่ เราจะสามารถใช้มีดตัดโซ่ได้ เดินเข้าไปตามทางเราจะเจอสวิตช์ ให้เราเดินไปสับสวิตช์ก็จะทำให้น้ำด้านล่างลดลง
ให้เราปีนบันไดลงมาด้านล่าง แล้วเราจะเจอบันไดให้ปีนขึ้นอยู่อีกฝั่ง (ก่อนปีนบันได จะมีกระสุนให้เราเก็บ โดยจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ หากหันหน้าเข้าบันไดที่จะขึ้น) เมื่อเราปีนบันไดขึ้นมาแล้ว ให้เดินไปสับสวิตช์อีกอัน จะทำให้ทางเดินเลื่อนลงมา จะเอาไว้เป็นทางกลับได้
เดินเข้าประตูไปตามทาง เราก็จะมาถึงจุดที่เราจะต้องใส่หน้ากาก ซึ่งมุมมองจะเปลี่ยนเป็นแบบบุคคลที่หนึ่งทันที และในพื้นที่ ที่มีแก๊ส เราจะไม่สามารถใช้ปืนหรือหน้าไม้ได้ โดยจะใช้ได้แค่มีดและขวดเท่านั้น
เมื่อเข้าไปด้านใน เราจะเจอกับซอมบี้ที่จะวิ่งไป-มา (ตามรูปด้านบน) ให้เราอาศัยจังหวะ ลอบเข้าไปฆ่ามันจากทางด้านหลัง หรือจะใช้ขวดปาล่อมาก็ได้
ลงมาด้านล่าง เราจะเจอประตูที่ล็อคอยู่ โดยเราจะต้องเข้าไปด้านในเพื่อปลดล็อคประตู ให้เราเดินเข้ามาจนถึงทางแยกด้านขวาจะมีรูปปั้นที่มีกุญแจให้เก็บ จากนั้นให้เราไปด้านซ้ายเราจะเจอซอมบี้ ที่มีควันพิษ ให้เรารอจังหวะ แล้วเดินตามมันไป (อย่าให้มันรู้ตัว) เราจะเจอห้องที่มีตู้ควบคุมไฟฟ้าอยู่ด้านขวามือ
เข้ามาด้านใน แล้วมาสับสวิตช์ (ตามรูปด้านบน) ประตูก็จะเปิดออก จากนั้นกลับไปที่ประตู โดยระวังซอมบี้พิษเหมือนเดิม (จะมีจุดให้เราสามารถแอบได้ ตรงทางเลี้ยว) เข้าประตูแล้ว เซบาสเตียนก็จะถอดหน้ากาก ซึ่งมุมมองภาพก็จะกลับมาเหมือนเดิม
ขึ้นมาด้านบนแล้ว สำรวจและเก็บของให้หมด เราจะเจอเครื่องคอมที่อยู่ภายในห้องนี้ (ตามรูปด้านบน) โดยข้อมูลจะทำให้เรารู้ว่า ในตอนนี้ทางระบบสเต็ม ได้พัฒนาการส่งสัญญาณแบบไร้สาย ซึ่งในตอนนี้ ได้ฝังชิพไว้ที่เจ้าหน้าที่โมเบียสทุกคน ซึ่งชิพตัวนี้ จะมาเฉลยในตอนหลังว่า จะเป็นชิพที่จะเอาไว้ตรวจสอบสิทธิ์ต่างๆ หรือกำหนดพื้นที่ ให้เจ้าหน้าที่แต่ละคนว่าสามารถเข้าไปยังพื้นที่ไหนได้บ้าง และชิพที่ฝังไว้ในเจ้าหน้าที่ของโมเบียสจะมีความสำคัญจนถึงตอนจบเกมส์เลย
เดินออกจากห้องนี้ แล้วขึ้นบันไดไปตามทาง จนเราผ่านประตูอีกบาน จะเจอทางแยก ให้เราเดินไปเก็บของที่ด้านขวาก่อน (มีกระสุนให้เก็บเยอะ) จากนั้นกลับมาที่เดิม แล้วเดินไปต่อตามทาง เราจะไปเจอจุดที่มีสัญญาณของเจ้าหน้าที่โมเบียส (ตามรูปด้านบน) โดยข้อมูลที่ได้คือ มีเจ้าหน้าที่ติดอยู่ที่นี่ ซึ่งออกไปไม่ได้ เพราะที่นี่ถล่มและมีแก๊สพิษรั่วออกมา (แต่เจ้าหน้าที่ไม่มีหน้ากาก) ซึ่งเจ้าหน้าที่คนนี้จะถูกเจ้าหน้าที่อีกฝั่ง (ซึ่งบอกว่าปลอดภัยดี) ปฏิเสธให้การช่วยเหลือ เพราะไม่อยากจะส่งใครออกไปเสี่ยง แล้วก็กลายเป็นศพที่นอนอยู่
จากนั้นเดินกลับมาแถวๆประตู จะมีช่องแอร์ให้เราลอดเข้าไป ให้เราเข้าไปตามทางได้เลย (ไม่มีศัตรู) เราก็จะไปเจอกับประตูทางออก B2 ให้เราเก็บของที่อยู่ในห้องนี้ให้หมด แล้วสำรวจที่เครื่องคอม เราก็จะวาร์ปไปที่ห้องเซพ ของทางฝั่งเมืองยูเนี่ยน สำรวจในห้องนี้ให้หมด เพราะนอกจากจะมีเครื่องชงกาแฟและจุดเซพแล้ว ในห้องเล็กๆ จะมีกระจกให้เราวาร์ปไปที่เห้องทำงานของเรา พร้อมกับของให้เราเก็บอีกด้วย (ตามรูปด้านบน)
จากนั้นออกจากเซพเฮ้าส์ แล้วเราก็จะพบว่าในตอนนี้เราได้ขึ้นมาอยู่ในพื้นที่ของศาลากลางเรียบร้อยแล้ว จบ Chapter 4 – Behind the Curtain
