หลังจากที่เราตามสเตาฟาโน่มาถึงโรงหนังแล้ว (The Evil Within 2 : Chapter 6 – On the Hunt) กลับถูกสเตฟาโน่ไล่ให้ไปฝึกการเสพผลของศิลปะ ก่อนที่จะเข้าชมผลงานชิ้นใหม่
ในตอนนี้เราจะได้เป้าหมายมาใหม่ก็คือ การหาผลงานของสเตฟาโน่และทำลายงานศิลปะของมันทิ้ง ตามคำแนะนำของยูกิโกะ เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา โดยหากเราเปิดแผนที่ขึ้นมา จะมีจุดเป้าหมายให้เราไปสำรวจอยู่ 2 จุด สำหรับเควสหลัก
ใน chapter นี้ เราจะได้เจอกับ บอส Guardian อีกครั้ง หลังจากที่เราเคยปราบมันมาได้ก่อนหน้านี้ ซึ่งในคราวนี้ มันจะเดินไป เดินมาในแผนที่ อย่างกับเป็นศัตรูทั่วๆไปตัวนึง แต่ความร้ายกาจของมันยังเหมือนเดิม **ซึ่งจริงแล้ว ใน chapter นี้เราไม่จำเป็นต้องสู้กับบอสกราเดี้ยนก็ได้ แต่ถ้าเราสามารถจัดการมันได้ เราก็จะได้น้ำยาเพื่อมาใช่ในการอัพเกรดที่ค่อนข้างเยอะ เป็นรางวัล **
Side Mission – Out in the Open
จากแผนที่ด้านบน จะเป็นตำแหน่งของภารกิจเสริม Out in the Open โดยหากเราเดินผ่าน เราจะได้ยินเสียงปืนที่กำลังยิงฝูงซอมบี้ ให้เรารีบเปิดประตูเข้าไป แล้วเราก็จะเข้าเควสเสริมทันที แล้วเราจะเห็น เจ้าหน้าที่โมเบียส ที่ปีนขึ้นไปอยู่ด้านบนของรถที่คว่ำอยู่ พร้อมกับฝูงซอมบี้ ที่ล้อมรถเอาไว้ เมื่อเค้าเห็นเรา จะร้องขอความช่วยเหลือ
ให้เราจัดการพวกซอมบี้ให้หมด โดยเราจะต้องระวังไม่ให้ซอมบี้ที่จะปีนขึ้นไปทำร้ายเจ้าหน้าที่ได้ ซึ่งจะมีแถบเลือดของเจ้าหน้าที่ให้เราดูด้วย และเมื่อเราจัดการซอมบี้ได้หมดแล้ว จะมีซอมบี้บุกเข้ามาอีกชุด เราจะสามารถใช้น้ำมันที่ท่วมอยู่บนพื้น ใกล้ๆได้ แต่ควรจะล่อซอมบี้ให้เดินเข้ามาเหยียบน้ำมันทั้งฝูงก่อน แล้วค่อยใช้ปืนยิงไปที่พื้นที่มีน้ำมัน จะทำให้จัดการกับฝูงซอมบี้ได้ง่ายขึ้น
จากนั้นเดินตามเจ้าหน้าที่เข้าไป จะเป็นเซพเฮ้าส์ของเจ้าหน้าที่คนนั้น เมื่อเราเข้าไปด้านใน เค้าจะแนะนำตัวเองว่าชื่อ ไซค์ (Sykes) และจะกล่าวขอบคุณเรา พร้อมกับบอกเราอีกด้วยว่า เคยได้ยินชื่อเรา จากเหตุการณ์ในเบค่อน เค้าคือโปรแกรมเมอร์ ที่สามารถแฮคข้อมูลต่างๆ ของระบบสเต็ม แล้วได้เจอข้อมูลของเซบาสเตียน รวมไปถึงข้อมูลแทบจะทุกอย่างที่ถูกปิดซ่อนเอาไว้ ซึ่งก็จะรู้เกี่ยวกับลิลลี่ด้วย โดยก่อนจบภารกิจเสริมนี้ ไซค์จะบอกเราว่า หากอยากรู้อะไรเด็ดๆ ก็ให้กลับมาคุยกับตัวเค้าได้เลย
Side Mission – Getting Back Online
ภายในเซพเฮ้าส์ของไซค์ เราจะเจอกล่องของโมเบียสที่เป็นสีส้ม ซึ่งหากเราพยายามจะเปิด ไซค์จะบอกกับเราว่า สามารถช่วยเปิดให้เราได้ แต่ต้องช่วยทำอะไรบางอย่างให้เค้าก่อน เมื่อเราคุยกับเค้าแล้ว เค้าจะบอกให้เราช่วยไปเปิดเซิพเวอร์ที่อยู่ในระบบหลังบ้านให้หน่อย เพราะเค้าอาจจะแฮคระบบเพื่อหาทางออกจากที่นี่ได้
แล้วเราก็จะได้รับเควสเสริมนี้ทันที โดยให้เรากลับไปเข้าระบบหลังบ้าน (ตรงจุดที่เราออกมานั่นแหละ) เมื่อเข้าไปหลังบ้านแล้ว ให้เราเดินไปห้องเป้าหมายที่ขึ้นมาให้เราดูในแผนที่ โดยเราสามารถเดินไปยังห้องเป้าหมายได้เลย เพราะไม่มีศัตรูรออยู่
หลังจากมาถึงห้องแล้ว (ประตูสีแดงๆ) ให้เราไปสำรวจที่เครื่องคอม ก็จะเป็นการเริ่มการทำงานของเครื่องเซิพเวอร์ใหม่ ซึ่งกล่องสีส้มในห้องนี้ก็จะสามารถเปิดเอาของได้ และสักพัก เราจะได้ยินเสียงซอมบี้กำลังเคาะประตูห้องที่เราอยู่ หากเราปล่อยไว้มันก็จะพังประตูเข้ามา (ตามรูปด้านบน)
ให้เราเดินกลับไปหาไซค์ โดยที่ในตอนที่เราเดินกลับนี้ จะมีฝูงซอมบี้ คอยดักโจมตีเราอยู่หลายตัว และในห้องที่เราเจอกับปีศาจกาว เราจะได้เจอกับซอมบี้ผมขาวที่จะแอบเราอยู่แถวๆ ชั้นวางของ เมื่อจัดการได้แล้ว ก็ให้เดินกลับไปหาไซค์ที่เซพเฮ้าส์ของเค้าได้เลย แล้วเราจะสามารถเปิดกล่องสีส้มที่อยู่ในห้องนั้นได้ โดยเราจะได้ปืนเก็บเสียงมาใช้
ตามหางานศิลปะของสเตฟาโน่
กลับมาที่เควสหลัก ให้เราตรงไปยังจุดที่มีสัญญาณ โดยจุดแรก คือ โรงแรม Sanctuary (ด้านในปลอดภัย ไม่มีศัตรู) เมื่อเข้ามาด้านในแล้ว ให้เราเก็บของที่อยู่ที่ชั้น 1 ให้หมดก่อน จากนั้นขึ้นไปที่ชั้น 2 เราจะเจอภาพศิลปะแขวนอยู่ที่สุดทางเดิน
เมื่อสำรวจแล้ว เซบาสเตียนจะถูกดึงเข้าไปอยู่ในมิติของสเตฟาโน่อีกครั้ง โดยเราจะมาโผล่ที่หน้ารูปปั้นเป้าหมาย แต่สักพักเราจะถูกดีดออกมา พร้อมกับประตูที่ลงล็อคกั้นเรา เป้าหมายต่อไป คือการไปหากุญแจมาเปิดประตูนี้ เพื่อเข้าไปทำลายรูปปั้นที่อยู่ด้านในให้ได้
หันหลัง แล้วเดินไปตามทาง เราจะได้เจอกับ ศัตรูเก่าอย่าง ออปคูล่า ซึ่งในตอนนี้เราจะสามารถฆ่ามันได้ แต่จะเปลืองกระสุนและเสียเวลาอย่างมาก หรือสรุปง่ายๆเลยคือ เราไม่จำเป็นต้องฆ่ามันก็ได้ โดยให้เราใช้วิธีหลบและย่องไปเรื่อยๆ หรืออาจจะใช้ขวดเพื่อปาล่อมันไปทางอื่นก็ได้
เข้ามาด้านใน แล้วเราจะเจอกุญแจ ที่วางอยู่บนมือสีขาวๆ แต่เมื่อเราหยิบกุญแจแล้ว บอสออปคูล่า จะรู้ตัว ว่ากุญแจถูกหยิบไป ให้เรารีบหาที่ซ่อนทันที แล้วพยายาม คลานหลบมัน จนกลับไปยังประตูที่ถูกปิดให้ได้
เอากุญแจกลับมาไขประตู เมื่อเราเข้ามาในห้องได้แล้ว เราจะพบว่าในห้องนี้ มีสายกับดักอยู่รอบห้อง หากเราหันหน้าเข้าหารูปปั้น ให้เราค่อยๆย่องไปทางซ้ายมือ จะมีทางให้เราคลานเข้าไปจนถึงรูปปั้นด้านในได้
เมื่อเข้าไปถึงรูปปั้นแล้ว ให้เรากดสำรวจ จะเป็นการทำลายรูปปั้นทิ้ง แล้วเซบาสเตียนก็จะกระเด็น กลับออกมาจากมิติของสเตฟาโน่ พร้อมกับรูปศิลปะที่จะถูกทำลายไปด้วย
จุดต่อไปจะเป็นร้าน Devil’s Own Taproom (ตามรูปด้านบน) ซึ่งนีที่ก็จะคล้ายๆกับที่แรก คือ เข้ามาแล้วปลอดภัย จะไม่มีศัตรูรออยู่ในนี้ ซึ่งเมื่อเราเข้ามาแล้ว ก็จัดการเก็บของที่อยู่ในบริเวณนี้ให้หมด โดยจะมีเอกสารให้เราเก็ยด้วย (เอกสารจะไม่มีอะไรสำคัญ เป็นแค่บันทึกของเจ้าของร้านที่จะบอกว่ามีลูกค้าเยอะขึ้น แต่พีทที่เป็นลูกค้าประจำจะเกิดอาการหงุดหงิดเนื่องจากมีลูกค้าในร้านเยอะเกินไป)
ที่ด้านในร้าน เราจะเจอกับรูปภาพเป้าหมายอีกรูป เมื่อสำรวจแล้ว เราก็จะเข้าไปยังมิติของสเตฟาโน่เหมือนเดิม รอบนี้ให้เราวิ่งเข้าไปเก็บกุญแจได้เลย โดยระหว่างทางจะมีฉากให้เราตกใจเล็กน้อย แต่เมื่อเราหยิบกุญแจได้แล้ว ทางที่เราเดินผ่านม จะกลายเป็นเขาวงกตแบบเล็กๆ ซึ่งภายในจะมีพวกซอมบี้ง่ายๆ ให้เราจัดการ
เราสามารถค่อยๆเข้าไปจัดการกับซอมบี้จากทางด้านหลังก็ได้ จะทำให้จัดการได้ง่าย และไม่เปลืองกะสุน ส่วนซอมบี้ตัวที่มันรู้ตัว เราก็สามารถใช้แขวนที่เรามี จามใส่หน้ามันเลยก็ได้ เพราะจะมีขวานให้เราเก็บในนี้ด้วย
เมื่อเรากลับมาที่ห้องที่มีรูปปั้นได้แล้ว คราวนี้ให้เราย่องไปทางขวามือ จะมีทางให้เราเข้าไปด้านในได้ และเมื่อเราสามารถทำลายงานศิลปะทั้ง 2 ชิ้น ของสเตฟาโน่ได้แล้ว ก็จะทำให้ลวดหนามที่ขวางทางเรา ที่หน้าประตูโรงหนังหายไปด้วย เมื่อเราเดินกลับไปถึงโรงหนังก็จะจบ Chapter 7 – Lust for Art