หลังจากที่เราเข้ามาเจอกับโอนีล หนึ่งในทีมที่ถูกส่งมาก่อนหน้านี้ (The Evil Within 2 : Chapter 2 – Something Not Quite Right) เราจะเข้า Chapter นี้ในทันที ขณะที่เรากำลังคุยกับโอนีล
** ใน Chapter นี้ เราจะได้อาวุธใหม่หลายชิ้น อย่าง ปืนลูกซอง,ไรเฟิล,หน้าไม้ และปืนสั้นติดเลเซอร์ เราควรพยายามเก็บอาวุธให้หมด เพราะในเกมนี้ กระสุนมีค่อนข้างจำกัด ซึ่งในบางสถานการณ์ เราจึงจำเป็นต้องสลับปืนมาใช้ เพราะกระสุนหมดนั่นเอง**
** เมื่อออกจากเซพเฮ้าส์ของโอนีลแล้ว เราจะพบว่าในตอนนี้เราจะสามารถเดินสำรวจแผนที่ได้อย่างอิสระ คล้ายๆกับเกมส์แนว Open World โดยจะแนะนำให้ทำภารกิจเสริม หรือเควสเสริมก่อน ที่จะไปทำภารกิจหลักต่อ เพราะจะทำให้เราสามารถเก็บอาวุธใหม่ๆ รวมไปถึงการปลดล็อคลูกธนู ที่ใช้สำหรับหน้าไม้ ให้มีหลายแบบอีกด้วย **
ให้เราคุยกับโอนีล ซึ่งจะมีตัวเลือกให้เราเลือกถามหลายข้อ (แนะนำให้คุยทุกข้อ เพราะจะเป็นการแนะนำเรื่องการทำเควสเสริม และจุดที่จะหาอาวุธ) เมื่อเราคุยกับโอนีลครบทุกข้อแล้ว เราจะได้ข้อมูลว่า โอนีลจะไม่รู้ตัวเลยว่าได้เข้ามาในนี้ นานเป็นสัปดาห์แล้ว เพราะเวลาในนี้ค่อนข้างแปรปรวน ซึ่งก่อนหน้านี้โอนีลเคยเข้ามาซ่อมระบบแล้ว แต่ในรอบนี้มันดูแตกต่างจากทุกรอบ เพราะรอบนี้ดูเหมือนเมืองยูเนียนค่อยๆพังลงมา ซึ่งโอนีลก็จะพูดไปถึงเครื่องปรับความเสถียร ที่อาจจะมีปัญหาได้
และอีกข้อมูลที่เราจะได้จากโอนีลก็คือ ภายในเมืองยูเนี่ยนจะมีอาวุธที่พวกโมเบียสใช้ ซึ่งจะกระจายไปรอบๆเมือง โดยเราจะสามารถออกไปเก็บมาใช้ได้ และเมื่อเราเปิดแผนที่ เราก็จะเห็นจุดที่โอนีลมาร์คตำแหน่งต่างๆให้เรา รวมไปถึงภารกิจหลักและภารกิจเสริมที่เราจะต้องทำ (ตามรูปด้านบน)
ให้เราสำรวจในห้องนี้จะมีของให้เราเก็บมากมาย รวมไปถึงเครื่องชงกาแฟ ที่เราจะสามารถหยิบกาแฟขึ้นมากินได้ แล้วจะทำให้เลือดเราเพิ่ม โดยหลังจากที่เรากินกาแฟไปแล้ว เราจะต้องรอสักพัก ถึงจะสามารถหยิบมากินใหม่ได้ (มีเวลาคูลดาวน์) และในห้องนี้ก็ยังมีโต๊ะคราฟอุปกรณ์ ที่เราจะสามารถคราฟกระสุนและยา หรืออัพเกรดอาวุธต่างๆได้อีกด้วย
เดินออกจากห้อง แล้วตรงสุดทางเดิน เราจะเจอกับนางพยาบาล ที่มีมาตั้งแต่ภาคแรก (สำหรับคนที่ยังไม่เคยเล่นภาคแรก ก็ไม่ต้องกลัว เพราะนางพยาบาลคนนี้จะคอยช่วยเหลือเรา ทั้งเรื่องอัพสกิล และคอยให้คำปรึกษาหรือบอกใบ้ต่างๆ)
ให้เราเดินตามนางพยาบาลเข้าไปในกระจก เราจะกลับมาที่ห้องทำงาน ที่เป็นเซพโซนของเรา (ห้องที่เราเข้ามาในตอนแรก) ให้เราเดินตามนางพยาบาล ไปนั่งเก้าอี้ ภาพก็จะตัดไปเป็นฉากที่เราจะเอาไว้อัพเกรดสกิล (จากการเก็บน้ำสีเขียว) โดยในขณะที่เรากำลังนั่งรถเข็น เราจะสามารถเลือกตู้ที่อยู่ด้านซ้าย เพื่อเปิดตู้ แล้วจะมีของแบบสุ่มอยู่ด้านในให้เราเก็บ และกระดานที่เราจะใช้ในตอนที่ต้องการอัพสกิลต่างๆ สุดท้ายจะเป็นการคุยกับนางพยาบาล เธอจะคอยบอกคำใบ้ต่างๆให้เรา
หลังจากอัพสกิลเสร็จ ให้เราเดินกลับมาที่กระจก เพื่อออกจากเซพโซน แล้วกลับไปที่เมืองยูเนี่ยน เราก็จะโผล่กลับมาที่บ้านหลังเดิม (บ้านที่เป็นเซพเฮ้าส์ของโอนีล) ให้เราเดินออกจากบ้าน แล้วจะเป็นฉากที่ระบบจะสอนเราเกี่ยวกับการแกะรอยสัญญาณต่างๆ ที่เราจะได้เจอ จากวิทยุของเรา (ตามรูปด้านบน) เราจะสามารถล็อคสัญญาณ หรือภารกิจที่เราต้องการจะทำได้ และสัญญาณจะช่วยบอกทิศทางที่เราจะต้องไปได้อีกด้วย
เดินออกมาเล็กน้อย จะเป็นคัทซีน โดยเราจะพบว่า ตอนนี้เมืองยูเนี่ยนนอกจากกำลังถล่มแล้ว ยังมีพื้นที่บางจุด ที่ลอยขึ้นไปบนฟ้าอีกด้วย เรียกได้ว่า ผิดปกติสุดๆ แถมที่ด้านนอกนี้ ก็มีพวกซอมบี้เดินไปามากมายอีกด้วย
อย่างแรกที่จะแนะนำให้ไปก็คือ ตำแหน่งที่โอนีลมาร์คไว้ให้เรา จะเป็นจุดที่มีรถขนอาวุธจอดอยู่ ซึ่งจะมีอาวุธให้เราเก็บ โดยเราสามารถเปิดแผนที่ขึ้นมาดู เราจะพบสัญลักษณ์สีขาวด้านซ้ายสุด เมื่อเราเดินไปถึงแล้ว เราจะเจอกับหน้าไม้ และอุปกรณ์อื่นๆอีกมากมาย บริเวณนั้น
**ระหว่างทางหากเราเจอขวาน ให้เราเก็บติดตัวเอาไว้ เพราะขวานสามารถใช้โจมตีศัตรูให้ตายได้ในทีเดียว แต่มีข้อแม้ว่า เมื่อใช้เสร็จขวานจะหักทันที และเราสามารถเก็บขวานไว้กับตัวได้แค่ 1 อันเท่านั้น**
เมื่อเราเก็บหน้าไม้แล้ว ระบบจะสอนเราเกี่ยวกับการยิงหน้าไม้ ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนกระสุนหน้าไม้ได้หลายแบบ (เล่นไปเรื่อยๆ แบบของกระสุนจะปลดล็อกตามเนื้อเรื่อง) โดยกระสุนที่เราเก็บได้ในแบบแรกจะเป็นกระสุนไฟฟ้า ซึ่งเราสามารถยิงไปที่ศัตรู จะทำให้มันเกิดอาการสตั๊นชั่วขณะ แล้วเราก็จะสามารถวิ่งไปเหยียบมันได้
นอกจากนี้กระสุนไฟฟ้ายังสามารถยิงตู้ควบคุมไฟทำให้สามารถเปิดประตูในบางจุดได้ และยังสามารถลงพื้นที่มีน้ำท่วม จะทำให้กระแสช็อตศัตรูเป็นฝูงได้ (ศัตรูต้องเหยียบน้ำเท่านั้น) โดยเมื่อระบบแนะนำเสร็จ เราก็จะเจอกับฉากที่รถเคลื่อนไปชนกับวาล์วดับเพลิง จนทำให้น้ำพุ่งออกมาเต็มพื้น พร้อมกับเสียงของรถที่จะเรียกซอมบี้ที่อยู่แถวนั้นให้วิ่งมาดู ให้เรารีบยิงกระสุนไฟฟ้าไปใส่ตรงแอ่งน้ำ (ในจังหวะที่พวกซอมบี้เดินมาเหยียบน้ำ) จะทำให้เราสามารถจัดการซอมบี้ได้ง่ายขึ้น
หลังจากที่เราจัดการกับฝูงซอมบี้ได้หมดแล้ว ให้เราเดินกลับไปตั้งหลักตรงเซพเฮ้าส์ของโอนีลก่อน แล้วทำการฟาร์มหาของ โดยเริ่มจากโบสถ์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเซพเฮ้าส์ เมื่อเข้าไปด้านใน จะเกิดเหตุการณ์ซอมบี้บุกเข้ามา ให้เราจัดการให้หมด แล้วเดินไปหลังแท่น จะมีรูปปั้นที่เราสามารถตีให้แตกได้ แล้วเราจะได้กุญแจ ที่เอาไว้เปิดตู้ตอนเจอพยาบาลสาว
สำรวจอาคารหลังต่อไป จะมีรูปปั้นให้เราเก็บกุญแจ วางอยู่ที่เก้าอี้หน้าอาคารที่ 2 และชั้นดาดฟ้าของอาคารที่ 3 จะมีปืนไรเฟิลให้เราเก็บ เราสามารถขึ้นไปบนนั้นด้วยบันไดที่อยู่ด้านข้าง (ระหว่างตึก 2 กับ 3) แต่ในตอนนี้เราจะยังใช้ไม่ได้ เพราะปืนมันพัง เราจะต้องหาอุปกรณ์ไปซ่อมปืนก่อน โดยเมื่อเราเก็บปืนได้แล้ว จะมีตำแหน่งที่บอกว่าอุปกรณ์ซ่อมจะอยู่ในโรงรถแห่งหนึ่ง (มีมาร์คขึ้นมาบนแผนที่)
**หลังจากนี้ จะเน้นเนื้อเรื่องเป็นหลักนะครับ อาจจะมีตกหล่น พวกจุดเก็บอาวุธหรือของต่างๆได้ โดยภารกิจเสริมจะทำไม่ยากครับ แค่เข้าไปยังจุดที่เป็นพื้นที่สีเขียว แล้วกดสแกนหาสัญญาณ เราก็จะเจอกับเงาของเจ้าหน้าที่โมเบียส โดยให้เราตามไปสแกนที่จุดต่างๆที่ขึ้นมาบนแผนที่ก็จะผ่านเอง (แนะนำให้ทำเควสเสริมให้เสร็จก่อนที่จะเริ่มทำเนื้อเรื่องหลัก เพราะจะทำให้เราสามารถได้อาวุธและปลดล็อคกระสุนหน้าไม้แบบใหม่ด้วย)**
ให้เราเดินไปที่จุดเป้าหมาย ภารกิจหลัก (พื้นที่สีส้ม) **หากเราเดินไปตามถนน ทางฝั่งซ้ายมือ ของแผนที่ (เปิดแผนที่ดู) เราจะผ่านอู่ซ่อมรถ และลานจอดรถข้างๆ เมื่อเราเดินผ่าน เราจะได้ยินเสียงสัญญาณกันขโมยดังขึ้น ถ้าเราเข้าไปสำรวจด้านในลานจอดรถ เราจะเจอศัตรูและปืนสั้นติดเลเซอร์**
ระหว่างทาง เราจะได้เจอกับศัตรูตัวใหม่ ที่มีควันสีเขียวๆ (ตามรูปด้านบน) ให้เราใช้หน้าไม้ โดยเลือกกระสุนเป็นหัวฉมวก แล้วเล็กไปที่หัวจะทำให้สามารถจัดการกับมันได้ภายในนัดเดียว **หรือหากเรามีสไนเปอร์ ก็สามารถจัดการได้ในนัดเดียว แต่สไนเปอร์จะเปลืองกว่า (คราฟกระสุนใช้ดินปืนเยอะมาก)**
ก่อนที่เราจะเดินปถึงจุดที่เป็นพื้นที่สีส้ม เราจะผ่านเซพเฮ้าส์จุดที่ 2 ซึ่งภายในจะมีของให้เราเก็บมากมาย รวมไปถึงกระสุนหน้าไม้ (ตามรูปด้านบน) และนอกจากนี้ยังมีเควสเสริมให้เราทำอีกด้วย
ตามหาลิลลี่จากสัญญาณที่ตรวจเจอ
เราจะตามสัญญาณมาเจอ เหตุการณ์ของลูกสาวเรา ที่อยู่บริเวณปั๊มน้ำมัน โดยลิลลี่จะหนีบางอย่างเข้าไปในร้าน ให้เราเดินตามรอยเท้าเข้าไป จนเจอประตูที่ถูกล็อคจากด้านใน ให้เราสำรวจโต๊ะที่อยู่ข้างๆ จะเจอรูที่คลานเข้าไปด้านในได้
สำรวจตุ๊กตาที่ตกอยู่ด้านใน แล้วเซบาสเตียนจะใช้สกิลมโนภาพขึ้นมา ว่าลิลลี่น่าจะปีนหน้าต่างออกไปทางด้านหลัง ให้เราออกจากร้านนี้แล้ววิ่งอ้อมมาด้านหลัง (ตรงจุดที่ลิลลี่ปีนหน้าต่างออกมา) สำรวจแล้วเราจะสามารถจับสัญญาณอันใหม่ของลิลลี่ได้
หลังจากที่เราได้สัญญาณอันใหม่ของลิลลี่ ก็จะเป็นฉากเปิดตัว ศัตรูตัวใหม่ (ตามรูปด้านบน) ถ้าไม่คิดอะไรมาก ให้ใช้ลูกซองจัดการมันได้เลย (ใช้ลูกซองจะง่ายสุด โดยรอให้มันเข้ามาใกล้เราสักหน่อย แล้วค่อยยิง)
ให้เราเดินมายังพื้นที่สีส้ม ที่สามารถจับสัญญาณอันใหม่ของลิลลี่ได้ เราจะพบว่า ลิลลี่ได้วิ่งหนีบางอย่าง เข้าไปแอบอยู่ในพุ่มไม้ ให้เราเดินตามไปสำรวจ จุดที่ลิลลี่เข้าไปแอบ แล้วจะมีรอยเท้าโผล่ออกมาตามพื้น
เดินตามรอยเท้าไปเจอรอยเลือด แต่เซบาสเตียนจะคิดว่าอาจจะไม่ใช่ของลิลลี่ (เพราะรอยเลือดผ่านมา 2-3 วันแล้ว) เดินตามเงาลิลลี่ไปต่อ จนเงาหายไป แล้วเซบาสเตียนก็จะจับสัญญาณอีกอันได้
ให้เราตามสัญญาณไปอีกจุด โดยเมื่อเรามาถึงจุดที่มีเงาของลิลลี่แล้ว ให้เราตามลิลลี่ไป จนสุดท้าย ลิลลี่จะวิ่งหนีเข้าไปในโกดังที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
เดินเข้ามาสำรวจในบริเวณโกดัง เราจะเจอประตูโกดังที่ไม่สามารถเปิดได้ โดยให้เราเดินอ้อมไปสับสวิตช์ที่อยู่ด้านหลังก่อน (ตามรูปด้านบน) หากใครหาไม่เจอ ให้เรามองตามสายไฟไป มันจะเชื่อมลงมาที่ตู้ควบคุม
เมื่อเข้ามาในโกดังแล้ว ประตูโกดังจะปิดลง โดยในนี้จะมีของให้เราเก็บมากมาย จากนั้นเดินเข้ามาด้านใน (มีศัตรู) ให้เราเดินไปสำรวจจุดที่มีแผ่นไม้แปะอยู่ ซึ่งเซบาสเตียนจะคาดว่าลิลลี่น่าจะลอดตรงจุดนี้เข้าไป
เมื่อลอดแผ่นไม้เข้ามาแล้ว ให้เราเดินเข้าไปด้านในสุด เราจะได้เจอกับศัตรูที่ดักรออยู่ จัดการให้ได้ แล้วเราจะเจอบันไดสีเหลือง ให้ปีนขึ้นมาด้านบน เดินเข้าห้องแรก เราจะเจอกับเอกสาร (ตามรูปด้านบน) จะเป็นบันทึกเกี่ยวกับระบบแกนกลาง ที่เริ่มจะมีปัญหา จนไปถึงเหตุการณ์ที่เมืองเริ่มเกิดแผ่นดินไหว และพื้นเริ่มแยก
ลิลลี่ถูกใครบางคนจับตัวไป
เข้าไปที่ห้องต่อไป เราจะเจอตุ๊กตาที่ตกอยู่บนกองเลือด เมื่อสำรวจแล้ว ก็จะเป็นคัทซีน ในตอนที่ลิลลี่วิ่งเข้ามาหลบใครบางคน ซึ่งก็จะถูกเฉลยว่า แท้จริงแล้ว คนที่ตามลิลลี่ก็คือฆาตกรโรคจิตนั่นเอง แล้วเซบาสเตียนจะบอกว่าหลังจากนี้จะจับสัญญาณของลิลลี่ไม่เจอแล้ว เลยอยากจะขอให้โอนีลช่วย แต่สัญญาณวิทยุในนี้จะใช้ไม่ค่อยได้
ให้เราเดินกลับออกมาด้านนอกโกดัง (กลับทางเดิม) โดยระหว่างทาง เราจะเจอกับฆาตกรกล้องถ่ายรูป แล้วฉากก็จะเปลี่ยนไป เป็นทางเดินในอาคารแห่งหนึ่ง เดินไปตามทางเรื่อยๆ แล้วเราจะเจอกับศพเจ้าหน้าที่ของโมเบียสถูกแสดงเป็นงานศิลปะ (ตามรูปด้านบน) ไม่ต้องสนใจ ให้เราเดินเข้าไปด้านในเรื่อยๆ จนเรากลับมาอยู่ในโกดังเหมือนเดิม
** ตรงนี้น่าจะเป็นการ บอกเราถึงเรื่องของ มิติหรือสถานที่ ที่ฆาตกรโรคจิตเป็นคนสร้างขึ้น โดยเราจะสังเกตว่า หากเราเข้าไปอยู่ในสถานที่ ที่คล้ายๆกับโรงแรม หรือหอศิลป์ ก็จะแปลว่า ตอนนี้เราได้มาอยู่ในมิติที่ฆาตกรเป็นคนสร้างขึ้นนั่นเอง**
เดินออกมานอกโกดัง แล้วเราจะเจอกับศัตรูที่จะเข้ามาโจมตีเรา ให้เราจัดการมันให้หมด แล้วเซบาสเตียนจะติดต่อกับโอนีล ซึ่งเซบาสเตียนจะบอกกับโอนีลว่า ตอนนี้ลิลลี่ถูกจับตัวไป พอจะมีทางตามหาได้ไหม โอนีลก็จะบอกว่า สามารถจับคลื่นความถี่แปลกๆได้ แล้วตอนนี้คลื่นก็ถูกส่งออกมาจากศาลากลาง โดยปรากฎว่าในตอนนี้ศาลากลางได้ลอยอยู่บนฟ้า แต่โอนีลจะบอกว่ามีทางไปอยู่ แต่อยากจะให้กลับไปคุยกันที่เซพเฮ้าส์ของโอนีล
หลังจากที่เราวางสายจากโอนีล ปรากฎว่า ศัตรูในเมืองจะผุดขึ้นมาจากพื้นใหม่ และมีมากกว่าเดิมอีกด้วย ให้เราเดินกลับไปหาโอนีลที่เซพเฮ้าส์โดยพยายามฝ่าฝูงซอมบี้ไปให้ได้
เมื่อเราเข้าไปคุยกับโอนีล เซบาสเตียนจะถามถึงวิธีที่เข้าไปที่ศาลากลาง โอนีลจะอธิบายว่า จริงๆแล้วระบบสเต็มจะมีระบบหลังบ้าน ที่สามารถเป็นทางเชื่อมไปยังสถานที่ต่างๆ ที่อยู่ในเมืองยูเนี่ยนได้ โดยจะมีลักษณะคล้ายๆกับเขาวงกต ที่จะมีทางออกมากมาย ซึ่งการที่เราจะไปยังศาลากลาง เราจะต้องออกที่ประตู B2 ส่วนการที่เราจะเข้าไปยังระบบหลังบ้านได้นั้น เราจะสามารถเข้าได้ด้วยการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในเซพเฮ้าส์ที่อยู่ทางเหนือ (เซพเฮ้าส์อีกหลัง)
เซบาสเตียนจะบอกกับโอนีลว่า จริงๆเรื่องนี้คุยผ่านวิทยุก็ได้ แต่โอนีลจะบอกว่า ที่ให้มาที่นี่เพราะเตรียมหน้ากากกันแก๊สพิษไว้ให้ เพราะในส่วนของระบบหลังบ้าน จะมีส่วนที่เกิดความเสียหายจนทำให้แก๊สรั่ว เลยต้องใช้หน้ากากในการเดินทาง
เมื่อเราได้หน้ากากจากโอนีลแล้ว ก็จะจบ Chapter 3 – Resonances ทันที