หลังจากที่เราหาทางออก มายังศาลากลางได้แล้ว (The Evil Within 2 : Chapter 4 – Behind the Curtain) ** ถึงตรงนี้แนะนำว่า ให้เราเตรียมกระสุนและอาวุธให้พร้อม เพราะก่อนเข้าไปในศาลากลาง เราจะได้สู้กับ มินิบอสก่อน **
ให้เราเดินออกมาจากเซพเฮ้าส์ มาตามทาง แล้วเราจะได้เจอกับฆาตกรโรคจิตที่กำลังเดินเข้าไปในศาลากลาง **เราสามารถเดินไปที่ศาลาเล็กๆ ก่อนถึงศาลากลาง จะสามารถสแกนหาสัญญาณข้อความจากประชากรที่นี่ได้ ** จากนั้นเดินไปที่หน้าประตูทางเข้าของศาลากลาง สำรวจศพของเจ้าหน้าที่โมเบียส เราจะเจอรูปถ่ายที่เขียนว่า กำลังรอเราอยู่ ปักอยู่บนศพ
Boss – The Guardian
เมื่อเราเข้ามาในศาลากลางแล้ว เราก็จะได้เจอกับคัทซีน การเปิดตัวบอส เดอะการ์เดี้ยน ที่เราเคยเจอมาแล้วใน chapter 2 ในคราวนั้นเราจะแค่วิ่งหนีมันเฉยๆ แต่มาถึงตรงนี้ เราจะต้องจัดการมันให้ได้ โดยจุดอ่อนของมันจะอยู่ที่ กระสุนไฟฟ้าจากหน้าไม้ ที่เวลาเรายิงมันแล้ว นอกจากจะโดนดามเมจจากไฟฟ้าแล้ว เรายังสามารถระดมกระสุนอื่นๆใส่มันได้อีกด้วย (เพราะมันจะสตัน)
และวิธีสู้อีกวิธีคือ ในระหว่างที่เรากำลังสู้บอส ให้เราลองวิ่งสำรวจพื้นที่ เราจะเจอกับดักต่างๆ (ตามรูปด้านบน) ซึ่งเราจะสามารถล่อให้ศัตรูเดินมาเหยียบ แล้วจะทำให้มันสตันหรือช้าลงได้ ซึ่งจะทำให้เรามีโอกาสที่จะสาดกระสุนใส่มันได้ โดยให้เราเน้นยิงไปที่หัวที่เกาะตัวมัน (มันจะหลุดออก หากโดนยิงมากๆ)
ระหว่างที่เราสู้หากกระสุนหมด ให้เราลองวิ่งทั่วๆ แล้วสำรวจที่ศพ จะมีของให้เราเก็บ รวมไปถึงในตู้หลังรถที่คว่ำอยู่ (ตามรูปด้านบน) โดยเราจะต้องพังกล่องที่ขวางอยู่ ถึงจะมองเห็นของด้านใน และหลังจากเราสามารถเอาชนะบอสได้แล้ว ให้เราเดินไปเก็บของที่อยู่ด้านข้างของศาลากลางด้วย
เข้าสู่ศาลากลาง เพื่อตามหาลิลลี่
เมื่อเดินเข้ามาในอาคารแล้ว เราจะได้เจอกับเจ้าหน้าที่โมเบียส (แฮริสัน) ที่ใกล้จะตายเต็มที นั่งอยู่ด้านใน หลังจากที่คุย เซบาสเตียนจะถามถึงลิลลี่ แต่แฮริสันจะบอกว่าให้เราไปเปิดเครื่องสร้างความเสถียรที่อยู่ที่ชั้น 2 เพราะมันจะทำให้เมืองกลับมามีความเสถียรอีกครั้ง แถมมีผลต่อพลังของฆาตกรโรคจิตอีกด้วย
แล้วเราก็จะได้วิทยุของแฮริสัน ซึ่งจะใช้เป็นสวิตช์เปิดเครื่องสร้างความเสถียร ก่อนที่แฮริสันจะสิ้นใจตาย เดินสำรวจเพื่อเก็บของ และที่ชั้น 1 นี้จะมีห้องที่มีโต๊ะคราฟของและจุดเซพให้เราอีกด้วย
เดินขึ้นไปที่ชั้น 2 เราจะเจอห้อง ที่เราจะต้องแก้ปริศนาเพื่อถ่ายรูป โดยเราจะต้องหาของมาวาง และหมุนตัวหุ่น ให้ตรงกับรูปด้านบน จากนั้นเมื่อเรากดถ่ายรูป (ต้องปรับโฟกัสให้ชัดด้วย) เราก็จะเจอทางที่สามารถเดินไปต่อได้
เดินเข้ามาจนสุดทาง เราจะเจอข้อความเลือด ที่อยู่ในกรอบรูป โดยจะบอกให้เราดูผลงานศิลปะที่แขวนอยู่ ให้เราเดินกลับมาอีกฝั่ง ซึ่งตอนนี้จะกลายเป็นทางตัน จากนั้นให้เราเดินสำรวจรูปทุกรูป แล้วเราก็จะได้เจอกับเนื้อหาข่าว (ตามรูปด้านบน) จะเป็นข่าวเกี่ยวกับนางแบบที่ถูกฆาตกรรม โดยศพถูกตัวหัวออกไป แล้วในเนื้อหาข่าวก็จะมีชื่อ สเตฟาโน่ วาเลนตินี่ ช่างภาพที่ถ่ายรูปเธอเป็นคนสุดท้าย ซึ่งเป็นคนที่ถูกนักข่าวตามไปสัมภาษณ์ ซึ่งแท้จริงแล้ว ก็คือฆาตกรโรคจิตที่เราตามหานั่นเอง
** เนื้อหาข่าวนี้ เป็นข่าวจริง ที่เกิดในโลกแห่งความจริง และยังจับฆาตกรตัวจริงไม่ได้ โดยดูจากคำพูดของเซบาสเตียนที่จะบอกว่า จำข่าวนี้ได้ ซึ่งหมายความว่า โมเบียสทำพลาดที่ดันรับฆาตกรโรคจิต เข้ามาในระบบสะเต็ม เลยเกิดเป็นหายนะจนทำให้คนในยูเนี่ยน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ ถูกฆ่าตายนั่นเอง**
เมื่อเราไล่ดูรูปจนหมดแล้ว รูปสุดท้าย ที่มีไฟสีปดง จะเป็นรูปลิลลี่ แล้วจากนั้นประตูบานหนึ่งก็จะเปิดออก เดินเข้าไปด้านใน ไปจามทาง แล้วเราก็จะพบว่า เราได้เข้ามาอยู่ในห้องที่ไม่มีทางออก แล้วเราก็จะได้ยินเสียงคนพูดถึงงานศิลปะ (ไม่มีอะไรสำคัญ เป็นแค่คำชมงานศิลป์) ให้เราวิ่งไป-มาสักพัก ประตูก็จะเปิดออกมา
เข้ามาในห้องแล้ว เราจะเจอรูปถ่าย อยู่บนโต๊ะทำงานด้านใน ซึ่งเป็นภาพถ่ายของเจ้าหน้าที่โมเบียส ที่อยู่ตรงล็อบบี้ ที่เราผ่านมานั่นเอง (คนที่โดนโยนลงมา ที่เราเดินผ่านที่ชั้น 1)
เดินออกจากห้องนี้ จะมีทางให้เดินไปต่อ เดินมาตามทางจนเรามาเจอกับสเตฟาโน่ แต่เมื่อเราวิ่งตามมัน ประตูจะปิดขวางทางเราเสียก่อน ให้เราหันหลัง จะมีบันไดให้เราลงไปด้านล่าง
เดินเข้าประตูไปแล้ว เดินไปสำรวจหัวหุ่นที่วางอยู่บนเก้าอี้ จะมีคัทซีนให้ดูเล็กน้อย ก่อนที่เราจะมาโผล่ในห้องที่มีหุ่นงานศิลป์ตั้งอยู่ ให้เราเดินสำรวจในห้องนี้ เราจะเจอกระดาษโน๊ตวางอยู่ (ตามรูปด้านบน) โดยเนื้อหาจะพูดถึงศิลปินอีกคนที่อยู่ในนี้ (ซึ่งไม่รู้ว่าหมายถึงใคร)
เดินออกจากห้องนี้ แล้ววิ่งไปตามทาง จนผ่านห้องที่มีหุ่นล้มอยู่ (หุ่นที่เราเคยถ่ายรูปก่อนหน้านี้) ผ่านห้องนี้แล้ว ให้เราสังเกตว่าหน้าประตูใหญ่ จะมีกระสุนให้เราเก็บมากมาย ซึ่งห้องต่อไปที่เราจะต้องเข้าไป เราจะต้องสู้กับบอสตัวถัดไปด้วย
** แนะนำว่าก่อนเข้าห้องบอส ให้เราเดินสำรวจเพื่อเก็บของให้มากที่สุด **
Boss – Obscura
เมื่อเข้ามาในห้อง เราจะเห็นเครื่องสร้างความเสถียร ตามที่แฮริสันได้บอกก่อนหน้านี้ ให้เราเดินเข้าไปสำรวจ แล้วเซบาสเตียนก็จะเอาวิทยุของแฮริสันไปวาง เพื่อเริ่มการทำงาน แต่ในระหว่างที่เครื่องเริ่มทำงาน สเตฟาโน่ จะเดินเข้ามาใช้สกิลถ่ายรูปหยุดเวลา แล้วจะคุยกับเซบาสเตียนเล็กน้อย ก่อนเดินออกไป โดยข้อความที่สเตฟาโน่บอกกับเซบาสเตียนก็คือ เค้ารู้ว่า เซบาสเตียน เข้ามาตามหาเด็ก โดยคิดว่า เซบาสเตียนอยากจะได้พลังจากลิลลี่เหมือนกัน แต่สเตฟาโน่จะบอกว่า มีอีกคนที่คู่ควรที่จะได้รับพลังมากกว่าเซบาสเตียน ส่วนเซบาสเตียนนั้น สเตฟาโน่จะไว้ชีวิต ซึ่งจะทิ้งท้ายไว้ว่า ตอนนี้อยากเก็บเซบาสเตียนเอาไว้เพื่อเป็นผลงานศิลปะแทน
แล้วเราก็จะได้พบกับฉากเปิดตัวบอส ออปคูล่า ซึ่งในตอนนี้ เราก็จะได้ยินเสียงระบบจากเครื่องสร้างความเสถียรแจ้งว่า ต้องใช้เวลาในการเริ่มทำงาน 90 วินาที แต่หนึ่งในสกิลของบอสคือการหยุดเวลาเครื่อง
นั่นหมายความว่า วิธีเล่นในตอนนี้คือ เราจะต้องหลบและหนีบอสไปเรื่อยๆ จนกว่าจะบอสจะใช้สกิลหยุดเวลาเครื่อง เมื่อเวลาหยุดแล้ว เราจะต้องพยายามโจมตีเข้าไปที่เลนส์ ที่หัวของบอส แล้วเวลาจะกลับมานับต่อ เมื่อเวลานับต่อแล้ว ก็ให้เราพยายามหลบมันให้ได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปปะทะกับมัน และระวังให้ดี เพราะบอสสามารถปีนไต่กำแพงได้ และหากมันถ่ายรูปเรา เราก็จะอยู่ในมิติที่ทำให้เคลื่อนไหวช้าอีกด้วย
ออกจากศาลากลาง
หลังจากที่เวลานับจบ เครื่องก็จะเริ่มทำงาน และทำให้บอสสลายไป เซบาสเตียน จะพูดกับตัวเองว่า หากสเตฟาโน่ไม่ได้จับตัวลิลลี่ไว้ แล้วตอนนี้ลิลลี่อยู่ที่ไหน เลยจะโทรไปรายงานให้คิดแมนรู้ แต่ในนี้จะไม่มีสัญญาณ ให้เราเดินออกจากที่นี่ โดยแนะนำว่าก่อนออกให้สำรวจพื้นที่ให้ทั่ว เพราะจะมีของให้เราเก็บมากมาย
เมื่อออกมาจากอาคารได้แล้ว คิดแมนจะติดต่อไปหาเซบาสเตียน โดยเซบาสเตียนจะเล่าถึงเหตุการณ์ที่เจอมา พร้อมบอกเรื่องของสเตฟาโน่ คนที่จับตัวลิลลี่ไป คิดแมนบอกว่าจะลองค้นข้อมูลของฆาตกรโรคจิตให้ ส่วนทางด้านเซบาสเตียน จะลองขอให้โอนีลช่วยตามหาสัญญาณของสเตฟาโน่อีกแรง
เมื่อวางสายไปแล้ว เซบาสเตียน จะมองขึ้นฟ้า พร้อมกับเจอปีศาจลูกตา ซึ่งก็คือพลังของสเตฟาโน่นั่นเอง นั่นก็เท่ากับว่า ในตอนนี้เซบาสเตียนรู้แล้ว ว่าสเตฟานโน่อยู่ที่ไหน เหลือแค่วิธีที่จะไปพื้นที่ตรงนั้นให้ได้ เพราะจุดที่เซบาสเตียนเห็นมันดันลอยอยู่บนฟ้านั่นเอง
โอนีลที่รับสายเซบาสเตียน จะบอกว่า ในตอนนี้สามารถจับค่าของเครื่องสร้างความเสถียรได้แล้ว แปลว่าได้ตัวลิลลี่แล้วใช่ไหม แต่เซบาสเตียนจะปฏิเสธ แล้วจะเล่าเรื่องที่สเตฟาโน่จับตัวลิลลี่หนีไป โอนีลจะบอกว่าในตอนนี้จับสัญญาณของสเตฟาโน่ได้จากโรงหนัง โดยเซบาสเตียนจะต้องกลับเข้าไปใช้ระบบหลังบ้านอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ให้ออกทางประตู D5
จบ Chapter 5 – Lying in Wait