หลังจากที่เซบาสเตียนตกลงที่จะเข้าไปในระบบสเต็ม เพื่อตามหาลูกสาวที่ชื่อลิลลี่แล้ว (The Evil Within 2 : Chapter 1 – Into the Flame) เราจะเริ่มต้น Chapter นี้ จากห้องทำงานที่ถูกสร้างขึ้นด้วยความทรงจำของเรา ซึ่งจะเป็นห้องที่ไม่ได้อยู่ในแกนหลักอย่างเมืองยูเนี่ยนและมีความปลอดภัย
อย่าแรกที่เราจะต้องทำเลยคือ ให้เราสำรวจที่บอร์ดเพื่อดูรายละเอียด เจ้าหน้าที่ ที่ถูกส่งมาก่อนหน้านี้ แล้วหายสาบสูญไป (ตามรูปด้านบน) หลังจากดูข้อมูลของเจ้าหน้าที่เสร็จแล้ว เซบาสเตียนจะโทรไปถามคิดแมนว่า เมื่อรู้ว่าแกนกลางของสเต็มมีปัญหาทำให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ไม่ได้ แล้วทำไมไม่ดึงปลั๊กออก เพื่อปลุกเจ้าหน้าที่ทั้งหมดเลย
แต่คิดแมนจะบอกว่าทำอย่างนั้นไม่ได้เพราะจะทำให้ เจ้าหน้าที่ทั้งหมดตายได้ (เหมือนจิตยังติดอยู่ในระบบสเต็ม) คิดแมนจะย้ำเป้าหมายของเราคือการตามหาตัวลิลลี่ให้ได้ ไม่งั้นทุกคนก็จะออกจากระบบสเต็มไม่ได้ แล้วก็จะถูกปล่อยให้ตายอยู่ในนั้น
เดินออกจากห้องทำงาน เราจะเจอแมวนั่งรอเราอยู่บนโต๊ะ ซึ่งจะมีฟิมล์ให้เราเก็บ เมื่อเก็บขึ้นมาแล้ว ให้เราเอาไปใส่ในโปรเจ็คเตอร์ แล้วเราจะได้ดูรูปถ่ายครอบครัวของเรา จากนั้นเซบาสเตียนก็จะโทรไปหาคิดแมนอีกครั้ง เพื่อบอกว่า หากวันนี้ระบบสเต็มไม่เกิดปัญหา คิดแมนก็คงไม่ติดต่อมา และก็คงจะไม่บอกด้วยว่าแท้จริงแล้วลิลลี่ยังมีชีวิตอยู่
เมื่อเราดูสไลด์จบ (กดออกจากโหมดโปรเจ็คเตอร์) แล้วเราจะเห็นแมวที่ยืนอยู่ข้างขวดโหล ซึ่งขวดโหลนี้ จะมีน้ำสีเขียว ซึ่งจะเอาไว้อัพสกิลและความสามารถต่างๆของเรา **ระบบเก็บน้ำเพื่อมาอัพสกิล จะมีมาตั้งแต่ภาค 1 เลย** และในทุกครั้ง ที่เราเก็บแผ่นฟิล์มมาได้ ให้เรากลับมาเปิดรูปดู เราก็จะได้น้ำยาอัพสกิลจากแมวตัวนี้ทุกครั้ง
จากนั้นเดินต่อไปอีกหน่อย เราจะเจอกับกระจกที่เปล่งแสงออกมา แต่ก่อนที่เราจะไปสนใจกระจก ให้เรามองเครื่องที่อยู่ข้างกระจกก่อน เพราะมันจะเป็นเครื่องที่เราจะเอาไว้เซพเกม ให้เราลองเซพ 1 ครั้ง จากนั้น กลับมาที่กระจก **อธิบายสำหรับคนที่ยังไม่เคยเล่นภาคแรก กระจกจะเป็นทางวาร์ปให้เราเข้าไปยังระบบสเต็มหรือเมืองยูเนี่ยน และหากในขณะที่เราอยู่ในเมืองแล้ว เราเจอกระจก เราก็จะสามารถใช้กระจกเพื่อวาร์ปมายังที่นี่ (ห้องทำงาน) ได้ตลอดเวลา (เราสามารถใช้กระจกวาร์ปไป-มากี่ครั้งก็ได้)**
หลังจากที่เราสำรวจกระจกแล้ว ฉากจะตัดมาที่เซบาสเตียนที่นอนอยู่บนโซฟา ตื่นมาเจอกับลิลลี่และไมร่า (ภรรยา) สักพักลิลลี่จะบอกว่าตุ๊กตาขาด ซึ่งเซบาสเตียนก็จะบอกว่าไม่เป็นไร เพราะแม่ซ่อมได้ แล้วลิลลี่ก็จะเดินไปหาไมร่า จากนั้นเราจะรู้สึกเหมือนหน้ามืด จนไมร่าเดินเข้ามาถามแล้วฉากก็จะตัดไป
เราจะโผล่มายังสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งทางข้างหน้าเราจะขาด ให้เราลองสำรจรอบๆ แล้วเราจะเจอกับประตู เดินเข้าไปด้านในจะเป็นห้องโถงที่มีม่านสีแดง (ตามรูปด้านบน) เดินเข้าไปเราจะเจอรูปภาพที่เป็นประตู จากนั้นหันหลังเราก็จะเจอประตูห้อง ที่เราสามารถเปิดเข้าไปได้ เดินเข้าไปเล็กน้อย ระบบก็จะสอนเราเรื่องการเปิดไฟฉาย
เดินเข้าไปจนสุดทาง แล้วเข้าประตูทางซ้ายมือ เราจะเจอรูปภาพแปลกๆ แปะเต็มผนัง แถมในห้องนี้ยังมีศพของหนึ่งในเจ้าหน้าที่ ที่ถูกส่งมาที่นี่อีกด้วย สำรวจห้องนี้ให้ทั่ว แล้วเดินต่อไปยังห้องต่อไป ให้เราเดินเข้าห้องที่มีแสงสีแดงข้างใน จะมีรูปถ่ายให้เราเก็บ โดยจะเป็นรูปถ่ายการตายของ เจ้าหน้าที่ วิลเลี่ยม เบรคเกอร์
เดินต่อมาอีกฝั่ง ที่มีชั้นหนังสือเยอะๆ เราจะสามารถสำรวจรอยเลื่อนชั้นหนังสือที่พื้น แล้วเราจะสามารถเลื่อนชั้นหนังสือได้ (ตามรูปด้านบน) จะมีทางให้เราสามารถเดินเข้าไปด้านในได้
เดินเข้ามาจนสุดทางแล้วเลี้ยวขวา จะเจอบันได (ในตอนนี้ทางอื่นจะยังไปไม่ได้) ให้เราเดินไปรับโทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆบันไดก่อน จากนั้นขึ้นบันไดไปที่ชั้น 2 เราจะสามารถลอดไปเก็บเอกสาร (ตามรูปด้านบน) โดยจะเป็นบัตรเชิญไปร่วมพิธีกรรมชะล้าง ซึ่งข้อความในบัตรเชิญไม่ได้มีผลต่อเนื้อเรื่องแต่อย่างใด
เดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นบนสุด เราจะเจอประตูที่มีม่านแดงแผ่ออกมา ให้เดินผ่านห้องนี้ไปเลย เมื่อเข้าห้องถัดไปแล้ว เราจะเจอเหตุการณ์ที่มีผู้ชายกำลังโดนเสียบ พร้อมกับถ่ายรูปไปด้วย แต่ในขณะที่เซบาสเตียนกำลังซุ่มดูอยู่นั้น ดันทำกรอบรูปที่อยู่ใกล้ๆตก จนทำให้ฆาตกรรู้ตัวและเดินมาหา
ในตอนนี้ระบบก็จะสอนให้เราทำการซุ่มหลบหลังโซฟา และทำการย้ายที่หลบ โดยใช้ลูกศรช่วย ให้เราค่อยๆย่องมาทางซ้ายมือ แล้วอ้อมมาอีกฝั่ง จนฆาตกรเดินออกไป
ให้เราเดินเข้าประตูสีขาวที่อยู่ใกล้ๆ เดินไปตามทาง จนเราโผล่มายังห้องโถงเก่า ที่มีบันได แต่คราวนี้สภาพจะดูเปลี่ยนไป ให้เราเดินขึ้นมาด้านบน เราจะเจอประตูที่เปิดแง้มอยู่ เมื่อเดินเข้าไปด้านใน เราก็จะได้เจอกับฆาตกร ที่สามารถใช้สกิลวาร์ปได้
ให้เราเดินเข้าไปตามทาง (ในช่วงนี้ทางจะบล็อคเป็นทางเดียวอยู่แล้ว เหมือนจะยังอยู่ในช่วงแนะนำการเล่นเกมอยู่) จนมาถึงห้องที่มีผลงานศิลปะโชว์อยู่กลางห้อง เมื่อเราเดินเข้ามาแล้ว ประตูลิฟต์ก็จะเปิดออก เข้าไปกดลิฟต์ที่ด้านใน แล้วเราจะลงมาด้านล่าง
เดินออกจากลิฟต์ แล้วเราจะเจอทางลอดอยู่ฝั่งซ้ายมือ (ตามรูปด้านบน) เดินเข้าไปจนสุดทาง เราจะเจอสัญลักษณ์แปลกๆ อยู่ที่กำแพง เมื่อเราหันหลังกลับ ปรากฎว่าทางที่เราเดินมา จะหายไป แต่จะมีกล้องตั้งอยู่
เดินไปสำรวจที่กล้อง แล้วหันกลับมาอีกครั้ง คราวนี้จะมีประตูโผล่มา เมื่อเราเดินไปเปิดประตู เราก็จะได้เผชิญหน้ากับ ฆาตกรโรคจิตเต็มๆ (ตามรูปด้านบน) แต่เราจะยังไม่ได้สู้ เพราะมันจะแค่มาถ่ายรูปเราเฉยๆ
ฉากจะตัดกลับมา โดยเราจะยืนอยู่ที่กำแพง ที่มีสัญลักษณ์แปลกๆ ให้เราเดินกลับมาทางด้านหลัง เราจะเจอกระจกบานใหญ่ที่มีรูปเราแปะอยู่
สักพัก เราจะโดนปีศาจโจมตี ซึ่งในตอนนี้เราจะต้องวิ่งหนีอย่างเดียว โดยในจังหวะที่ปีศาจโผล่ออกมาจากกระจก จะทำให้กระจกแตก ซึ่งจะเป็นทางที่เราจะต้องวิ่งสวนกับปีศาจเข้าไปด้านใน (ในฉากที่เราเจอปีศาจ ให้เรารีบวิ่งสวนมันไปเลย จะทำให้เราไม่โดนโจมตี)
ให้เราวิ่งไปตามทาง แล้วเลี้ยวขวา (ดูตามรูปด้านบน สังเกตได้จากไฟสีแดง) ซึ่งจะมีจุดที่เราจะต้องกระโดดข้ามด้วย แล้วให้เรารีบเข้าประตูที่อยู่ตรงสุดทาง
เมื่อเข้าห้องมาได้แล้ว ให้รีบวิ่งเข้ามาด้านใน เราจะเจอจุดที่เราสามารถปีนขึ้นไปด้านบนได้ (ตามรูปด้านบน) แล้วเราจะคลานไปตามช่องแอร์ (จะมีจุดตกใจเล็กน้อย แต่ไม่มีอะไรน่ากลัว) คลานมาตามทาง จนเราเจอจุดกระโดดลง
คราวนี้เตรียมตัวให้ดี เพราะเราจะต้องวิ่งเป็นระยะทางที่ยาวกว่าเดิม ให้เราเดินไปตามทางสักพัก ปีศาจตัวเดิมก็จะพังกำแพงเข้ามา ให้เราวิ่งไปที่ทางออก จนเราโดนฆาตกรโรคจิตโผล่เข้ามาโจมตี (เนื้อเรื่องบังคับอยู่แล้ว) ซึ่งจะทำให้เราได้อาวุธชิ้นแรกมาใช้
เมื่อเราโดนปีศาจจับตัวขึ้นมา ให้เรารีบกดปุ่มตามที่ขึ้นมาบนหน้าจอ จะเป็นการดึงมีดมาโจมตี จากนั้นในจังหวะที่ปีศาจกำลังเจ็บ เราจะสามารถวิ่งออกประตูที่อยู่ตรงหน้าได้
ยินดีต้อนรับสู่เมืองยูเนี่ยน
เมื่อเราออกมาจากประตูแล้ว เราจะโผล่มาที่ห้องแห่งหนึ่ง ซึ่งจะมีมีดเป็นอาวุธ แล้วระบบก็จะสอนเราเกี่ยวกับเรื่องเลือด ที่จะสามารถเพิ่มขึ้นเองได้ ในตอนที่เป็นแถบสัแดงหรือใกล้หมด แต่จะเพิ่มให้แค่นิดเดียว (จนกลายเป็นสีเขียว) โดยวิธีการให้เรายืนเฉยๆ (หากเดินเลือดจะไม่เพิ่ม)
ให้เราเดินออกจากห้อง แล้วเราจะพบว่าในตอนนี้เราได้มาอยู่ในบ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเมืองยูเนี่ยนเรียบร้อยแล้ว ให้เราเดินไปเก็บเข็มฉีดยาที่อยู่บนโต๊ะ โดยจะเป็นไอเท็มที่ใช้ในการเพิ่มเลือดของเกมนี้ (ตามรูปด้านบน)
ให้เราเดินออกจากบ้าน โดยในขณะที่เซบาสเตียนกำลังเปิดประตูออกไป จะเจอปืนที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ กับประตู ออกจากบ้านมาแล้ว เซบาสเตียนจะโทรไปรายงานกับคิดแมนว่า ที่เมืองนี้ดูแปลกๆไป ไม่เหมือนเมืองที่มีคนอยู่ แถมมีฆาตกรโรคจิต ที่ได้ฆ่าหัวหน้าทีมโมเบียสที่ถูกส่งมาก่อนหน้านี้ (วิลเลี่ยม เบรคเกอร์) และยังมีปีศาจอีก เหมือนกับเหตุการณ์ในโรงพยาบาลบีค่อนไม่มีผิด (เหตุการณ์ในภาคแรก)
คิดแมนจะบอกต่อไปว่า หากหัวหน้าทีมที่ถูกส่งมาถูกฆ่าตายแล้ว เพราะฉะนั้นในตอนนี้ลูกทีมน่าจะแตก และคงกระจายตัวหลบหนีกันอยู่ เลยจะให้เราไปช่วยหาเบาะแสจากคนที่เหลือ เพราะยิ่งได้ข้อมูลมามากเท่าไหร่ ก็จะทำให้ทางฝั่งคิดแมนสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้มากเท่านั้น
จากนั้นให้เราเดินสำรวจบริเวณนี้ให้ทั่ว จะมีของให้เราเก็บ จากรูปภาพด้านบน จะเป็นต้นไม้ที่เราสามารถเอามาคราฟเป็นยา (เข็มฉีดยา) ที่เอาไว้เพิ่มเลือดได้
ให้เราเดินมาตามทาง จนเราเจอบ้านอยู่ทางซ้ายมือ เมื่อเข้าไปใกล้บ้านหลังนั้น เราจะเห็นผู้หญิงที่จะรีบวิ่งเข้าบ้าน ให้เราเดินตามเข้าไปด้านใน เมื่อจบคัทซีนแล้ว ให้เราเตรียมตัวให้ดี เพราะเราจะต้องสู้กับผู้หญิงที่จะกลายร่างเป็นปีศาจ (ตามรูปด้านบน) **เมื่อจัดการได้แล้ว เราจะสามารถเก็บของเหลวสีเขียว (เอาไว้อัพสกิล) ได้จากศพซอมบี้ที่เราจัดการได้เรียบร้อยแล้ว**
จากนั้น เซบาสเตียนจะโทรไปบอกกับคิดแมนว่า ที่นี่เป็นเหมือนที่เบค่อนเลย และคนที่นี่ก็กลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดอีกด้วย นั่นหมายความว่าลิลลี่ ก็น่าจะตกอยู่ในอันตรายเหมือนกัน ให้เราเดินสำรวจเพื่อเก็บของในบ้านนี้ให้หมด แล้วออกจากบ้านได้ทันที
เดินต่อไปตามทาง เราจะเจอกล่องวางอยู่ที่พื้น (ตามรูปด้านบน) แล้วระบบจะสอนเราเกี่ยวกับการทำลายกล่อง แล้วจะมีของให้เราเก็บอยู่ภายในกล่อง (จะมีทั้งกล่องที่เราสามารถตีให้แตกได้ และตีไม่ได้)
เดินเข้ามาอีกเล็กน้อย เราก็จะเจอป้าย ต้อนรับเข้าสู่เมืองยูเนี่ยน พร้อมกับเสียงปืน ที่อยู่ภายในเมือง แล้วเราก็จะได้เจอเหตุการณ์ที่มีหน่วยโมเบียส กำลังวิ่งหนีฝูงซอมบี้ โดยมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่สามารถหนีเข้าไปหลบในบ้านได้
จากรูปด้านบน ให้เราค่อยๆย่องไปทางซ้ายมือ เราจะเจอขวดที่ตกอยู่ที่พื้น เก็บเอาไว้ก่อน เพราะขวดสามารถปาหลอกล่อพวกซอมบี้ให้ไปทางอื่นได้
อ้อมมาทางหลังรถสีขาว เราจะเจอกับถังขยะ ซึ่งในเกมนี้ เราจะสามารถหาของต่างๆที่อยู่ในถังขยะได้อีกด้วย เก็บของที่อยู่บริเวณนั้นให้หมด และหลีกเลี่ยงการปะทะ เพราะในตอนนี้เราจะมีกระสุนแค่ไม่กี่นัด จะทำให้เราเสียเปรียบอย่างมาก
ให้เราพยายามย่องไปจนถึงหน้าประตู (จะมีซอมบี้ตัวนึงยืนเคาะประตูอยู่) เราสามารถค่อยๆย่องไปฆ่ามันทางด้านหลังได้ หรือจะเลือกปาขวดเพื่อล่อให้มันวิ่งไปทางอื่นก็ได้
เดินเข้าไปด้านในก็จะเป็นคัทซีน ในตอนที่เราเจอกับโอนีล หนึ่งในทีมโมเบียสที่ถูกส่งเข้ามาก่อนหน้านี้ แต่ในตอนแรกโอนีลจะยังไม่ไว้ใจเซบาสเตียน ซึ่งสุดท้ายทั้งคู่ก็สามารถปรับความเข้าใจกันได้ และโอนีลก็จะบอกว่าตัวเค้าคือช่างเทคนิคที่ถูกส่งเข้ามาให้ซ่อมระบบในนี้ ส่วนคนที่ตายไปเป็นแค่ หน่วยอารักขา (ที่ทำงานอยู่ที่นี่อยู่แล้ว) และเค้าจะอยู่ที่นี่เพื่อรอให้โมเบียสส่งคนเข้ามารับเพื่อกลับออกไป
แต่เซบาสเตียนจะบอกถึงสถานการณ์ตอนนี้ว่า เค้าถูกส่งให้มาซ่อมระบบ โดยจะต้องหาเด็กที่ชื่อลิลลี่ เพื่อจะได้สามารถซ่อมระบบได้ ไม่งั้นพวกเราทั้งหมดก็จะออกจากที่นี่ไม่ได้ และเซบาสเตียนก็จะขอให้โอนีลช่วย แต่โอนีลจะบอกว่า เค้าจะไม่มีทางออกจากที่นี่แน่ๆ และสอนให้เราใช้วิทยุ เพื่อหาสัญญาณต่างๆ รวมไปถึงสัญญาณจากตัวของลิลลี่ โดยก่อนหน้านี้ เค้าสามารถจับสัญญาณจากลิลลี่ได้ **หลังจากนี้ เราจะสามารถใช้วิทยุเพื่อหาสัญญาณต่างๆ ที่อยู่ในระบบสเต็มได้ ซึ่งเปรียบกับ การหาตำแหน่งของภารกิจต่างๆ ทั้งภารกิจหลัก และภารกิจเสริม
จบ The Evil Within 2 : Chapter 2 – Something Not Quite Right